21 พ.ค. 2019 เวลา 09:21 • ประวัติศาสตร์
“แกงเหลือง”
แกงเหลือง เป็นอาหารปักษ์ใต้ที่มีชื่อเสียง รสร้อนแรง เป็นที่ถูกใจของหลายๆ คน
วันนี้ผมจะเล่าถึงที่มาของแกงเหลือง รวมถึงชื่อของมัน
คนปักษ์ใต้เรียกแกงเหลืองว่า “แกงส้ม” เพราะว่ามันมีรสส้มดเหมือนที่เรียกของเปรี้ยวอย่างอื่น ไม่ว่าจะกุ้งส้ม น้ำส้ม ผัดส้ม
“แกงเหลือง” จึงน่าจะเป็นชื่อที่มาทีหลัง ตั้งให้ใหม่โดยคนจากภาคอื่น แต่มีอาหารสำรับของตนเองซึ่งรสชาติคล้ายคลึงอยู่ก่อนแล้ว แต่จะเรียกว่าแกงส้มก็ไม่ได้ เพราะมันต่างจากแกงส้มแบบภาคกลาง เช่น ไม่ใส่รากกระชาย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับหอมแดงมากนัก (บางสูตรไม่ใส่เลยก็มี) แถมไม่สนใจพริกแห้งเม็ดใหญ่
กลิ่นและรสของ “แกงเหลือง” นั้นก็แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แกงนครศรีธรรมราชรสเผ็ดร้อน ส่วนแกงพัทลุงนั้นพริกแกงจะร้อนแรงและสีสวยจากพริกชีสดสุกปลั่งสีส้มจัด อย่างไรก็ตาม ความที่แกงส้มปักษ์ใต้หรือแกงเหลืองนี้เน้นใช้พริกสด จึงทำให้มีรสเผ็ดสดชื่น
การแพร่หลายของแกงส้มปักษ์ใต้ขึ้นมายังแถบภาคกลาง โดยเฉพาะเขตเมืองหลวง น่าจะมาจากความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักและหัวเมืองปักษ์ใต้ในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนกลาง
ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ เคยเขียนไว้ในหนังสือตำรากับข้าวในวังว่าแกงเหลืองนั้นต้นตำรับมาจากใต้ คนที่มาสอนพวกในวังให้แกงเป็น โดยสูตรน้ำพริกแกงของ ม.ล.เนื่องจะใส่เครื่องหลายอย่าง ตั้งแต่พริกขี้หนูสด พริกขี้หนูแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม เกลือ ขมิ้นชันสด กะปิดี และเนื้อปลากุเราเค็ม ตำให้ละเอียดเข้ากัน และต้องบีบมะนาวแต่งรสเปรี้ยวแหลมด้วย
ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์
หัวใจของแกงเหลืองคือขมิ้นซึ่งนอกจากให้สีเหลืองสวยกลิ่นหอมดับคาวเนื้อสัตว์ได้ดีแล้วก็มีสรรพคุณช่วยขับลมและรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างดี
โฆษณา