23 พ.ค. 2019 เวลา 12:15 • ประวัติศาสตร์
ย้อนรอยตำนานงูยักษ์แห่งกาญจนบุรี
Pix Cr.m.tsood
สวัสดีผู้อ่านที่รักทุกท่านนะคะ ก่อนอื่นเลย
เรดกราบอภัยทุกท่านนะคะที่หายไปนานเลย ยุ่งมากจริง ๆ งานสุมหัวเรดมากค่ะ ค่อนข้างหาเวลามาอัพได้น้อยมากเลย แต่จะพยายามมาอัพให้เท่าที่จะทำได้นะคะ อย่าเพิ่งหนีกันไปก่อนน๊าา 😊😊
และในวันนี้ Red Diary ขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานลี้ลับของสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ซึ่งได้สร้างเรื่องราวจนเกิดเป็นตำนานให้ผู้คนได้เล่าขานสืบต่อกันมานั้น
โดยเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวยาวเหยียดนี้ได้สร้างตำนานสยองขวัญไว้อย่างมากมายทั่วโลก และในวันนี้เราจะพาไปย้อนรอยเจ้างูยักษ์แห่งกาญจนบุรีที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา
เจ้าของตำนานผู้นี้จะไปเขย่าขวัญสั่นประสาทผู้คนในอดีตขนาดไหน จะมีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ชวนให้ต้องอึ้ง ทึ่ง เสียวววว แล้วอะไรจะเป็นจุดจบของเจ้าอสรพิษยักษ์ตัวนี้กันนะ เราจะพาคุณย้อนรอยไปหาคำตอบนี้เองค่ะ
1
ก่อนอื่นเลยต้องขอพูดถึงสถานที่กำเนิดตำนานสุดสะพรึงนี้ก่อน นั่นก็คือ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีจุดเช็คอินมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยนั่นเอง ในอดีตแล้วนั้น จังหวัดกาญจนบุรี ยังคงเป็นเมืองที่มีป่าไม้เขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี
อีกทั้งยังมีแม่น้ำแควอันกว้างใหญ่ไพศาลที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดไหลผ่าน และด้วยเหตุนี้เอง ป่าผืนนี้จึงได้รับสมยานามว่า ป่าอาเมซอนแห่งทวีปเอเชีย
Pix Cr.ddproperty
และผู้ที่จะบอกเล่าถึงตำนานของเจ้าอสรพิษร้ายนี้ก็ คือ คุณลุงปรีชา ไมตรีรักษ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถานีรถไฟกาญจนบุรี ผู้ที่เติบโตมาจากจังหวัดกาญจนบุรีจนถึงปัจจุบันมาชั่วชีวิต โดยปัจจุบันคุณลุง ได้รับหน้าที่สันทนาการบนรถไฟขบวน กทม – น้ำตกไทยโยค ในโอกาสที่เป็นทริปพิเศษในวันหยุดที่มีผู้โดยสารเข้ามาท่องเที่ยว น้ำตกไทรโยค
คุณลุงได้เล่าถึงตำนานนี้ว่า
ย้อนกลับไปราว ๆ ปีพุทธศักราช 2485
เมืองไทยตกอยู่ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1
ประเทศไทยถูกกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเพื่อใช้ประเทศไทยเป็นฐานส่งกำลังเพื่อนำทัพเดินทางไปโจมตีกองทัพอังกฤษ ทหารอเมริกัน ที่อยู่ในประเทศพม่า
ดังนั้นเพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่นจึงต้องมีการสร้างทางรถไฟ และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควเพื่อให้รถไฟวิ่งผ่าน สามารถลำเลียงอาวุธได้อย่างสะดวก
เชลยศึกชาวตะวันตกเป็นจำนวนมากที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นจับมาได้จึงต้องมาใช้แรงงานในการสร้างทางรถไฟในจังหวัดกาญจนบุรี
Pix Cr.appgeji
ว่ากันว่า กว่าที่จะสร้างสะพานได้สำเร็จนั้น
จะต้องมีการทำพิธีบวงสรวงสังเวยชีวิตของเชลยศึกสงครามไปร่วมหลายหมื่นคน
อีกทั้ง แน่นอนว่าสภาพภูมิประเทศของจังหวัดกาญจนบุรีในสมัยนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นป่ารกทึบที่ชุกชุมไปด้วยยุงป่ามากมาย
Pix Cr.tri.chula
จนเป็นเหตุให้มีทั้งโรคระบาดอย่างไข้มาลาเรียที่คร่าชีวิตเชลยที่สร้างทางรถไฟไปเป็นจำนวนมหาศาล จนมีคำกล่าวเปรียบเปรยถึงผู้ที่เสียชีวิตจากการก่อสร้างทางรถไฟที่แสนยากลำบากสายนี้ว่า “หนึ่งไม้หมอนรถไฟแทนหนึ่งชีวิตที่เสีย”
การที่จะสร้างทางรถไฟสายมรณะนั้น เหล่าเชลยศึกต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไปโดยคำสั่งที่ไม่มีทางปฏิเสธได้ของเหล่าทหารญี่ปุ่น
แน่นอนว่า แต่เดิมนั้นมันต้องเป็นที่อยู่อาศัยของ “เจ้าถิ่น” มาก่อน
1
การก่อสร้างนั้น เหล่าทหารญี่ปุ่นจะใช้เชลยศึกถางป่าเข้าไปและมีการตั้งฐานบัญชาการเป็นจุดๆ กระจายไปตามทางที่จะก่อร่างสร้างทางรถไฟ จนกระทั่งถึงเส้นทางบริเวณอำเภอไทรโยค ซึ่งในสมัยก่อนนั้นยังเป็นป่าทึบที่ชาวบ้านยังไม่เคยเข้าไปย่างกรายเลยแม้แต่น้อย
คุณลุงเล่าต่อว่า นอกจากภัยจากโรคระบาดที่มากับยุงแล้ว ป่าที่รกทึบก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านักล่ามือฉมังอีกมากมาย ที่พร้อมจะออกมาล่าเอามนุษย์กลับไปกินเป็นมื้อค่ำ
Pix Cr.lekdedlottotthai
อีกทั้งในยุคนั้นทหารประเทศญี่ปุ่นได้ใช้จุดศูนย์กลางป่า ของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นป้อมปราการสำหรับใช้ในการรบ แน่นอน
ว่าจะต้องรุกล้ำเข้าไปในเขตของเหล่าบรรดาสัตว์ป่าที่อยู่ลึกจนเกือบจะไม่มีใครเคยเข้าไปตรวจสอบมาก่อน ทั้งในถ้ำ ซอกหิน ต้นไม้ต่าง ๆ นา ๆ ถูกดัดแปลงทำเป็นป้อมปราการพร้อมรบ
1
หากแต่เพียงการเหยียบย่ำของกองทัพญี่ปุ่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรุกล้ำเข้าพื้นป่าธรรมดาๆ แต่กลับเป็นการรุกล้ำเข้าสู่อาณาเขตของอสูรกายยักษ์ที่จะต้องสร้างความหวาดกลัวกับทหารญี่ปุ่นไปตลอดกาล
เมื่อมีการตั้งฐานเพื่อเป็นที่พักของทหารญี่ปุ่นที่ถูกส่งเข้ามาควบคุมเหล่าเชลย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการจัดชุดเวรยามตามมาตรฐานของ
กองทัพเพื่อดูแลความสงบและป้องกันเหล่า
เชลยหลบหนี กองทัพญี่ปุ่นได้จัดชุดลาดตระเวนรอบ ๆ ฐานทัพ เป็นจำนวน 15 นาย เข้าเวรสลับผลัดเปลี่ยนกันเป็นกะ
Pix Cr.ดราม่าลิซึ่ม Twitter
และแล้วเรื่องราวที่ต้องสร้างความหวาดหวั่นใจให้แกบรรดาเหล่าทหารญี่ปุ่นก็เกิดขึ้นตั้งแต่
วันแรกที่ได้มีการตั้งฐานทัพ
เมื่อทหารญี่ปุ่นที่ถูกส่งออกไปลาดตระเวนนั้น มักจะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอยวันละนาย สองนาย ซึ่งก็สร้างความวิตกให้กับผู้บังคับบัญชาเพราะกำลังพลที่หายไปอย่างไร้สาเหตุนั้นอาจจะถูกข้าศึกลอบทำร้ายเพื่อรอวันบุกเข้ามาโจมตี จึงได้มีการเพิ่มกำลังทหารเข้าไปอีก จากที่เคยเดินลาดตระเวนจุดละคนก็กลายเป็น 2-3 คน เลยทีเดียว
แต่ถึงจะเพิ่มกำลังพลไปมากสักเพียงใด ก็ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะว่าหลังจากนั้นก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบเดิม คือ ทหารยังคงหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนผู้บัญชาการต้องจัดทีมเพื่อค้นหาร่องรอยของทหารที่หายไป
ในเช้าวันรุ่งขึ้น กองทหารที่ได้รับหน้าที่ให้แกะรอยเพื่อหาสิ่งผิดปกติได้ออกลาดตระเวนไปรอบ ๆ พื้นที่ ที่ตั้งค่ายเป็นรัศมีประมาณ 5 กม. จนกระทั่งได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่ง เป็นโพลงลึกมืดรวมทั้งบรรยากาศหนาวเย็นชวนให้ขนหัวลุก หัวหน้าชุดไม่รอช้าได้จัดให้ทหารจำนวนหนึ่งลงไปสำรวจทันที
1
Pix Cr.mekhaoduan
ระหว่างที่ส่งทหารเข้าไปนั้น ฝั่งที่เฝ้าอยู่ภายนอกก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1-2 ครั้ง
จึงทำให้คิดว่ามีการต่อสู้กับศัตรูฝ่ายตรงข้าม จึงได้ส่งทหารอีกกลุ่มเข้าไปเสริมในทันที ไม่นานนักหลังจากที่ได้ส่งกำลังเสริมลงไป
ทหารที่รออยู่ปากถ้ำก็ต้องวิ่งกระเจิงเมื่อได้ยินเสียงของทหารที่ถูกส่งลงไปตะโกนด้วยความตกใจว่า “สัตว์ประหลาด” พร้อมกับวิ่งพรวดออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด
2
Pix Cr.flectv24.wordpress
ทันทีที่ ทหารที่ถูกส่งเข้าไปสามารถเอาชีวิตรอดกลับออกมาได้นั้น พวกเขาได้เล่าถึงวินาทีที่ พวกเขาได้พบเจอในถ้ำนั้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมกับใบหน้าที่ตื่นเต้นอย่างสุดขีด โดยสิ่งที่เหล่าทหารที่วิ่งกันป่าราบออกมาจากถ้ำได้พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า
สิ่งที่เขาได้ประชันหน้ากับมันมา ก็คือ งูขนาดใหญ่ที่พวกเขาไม่เคยพบเจอกับอะไรที่มันใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน เหล่าทหารที่ชีวิตยังไม่ถึงฆาตเล่าถึงสิ่งที่เผชิญมาอย่างหมดเปลือก หัวหน้าจึงได้สั่งให้จัดการกับเจ้าเพชฌฆาตยักษ์นั้นอย่างเด็ดขาด ด้วยวิธีการเอาระเบิดยัดเข้าไปในถ้ำนั้นเสียเลย เพื่อทำการปลิดชีพเจ้างูยักษ์ตัวนี้
Pix Cr.dek-d
ระเบิดจำนวนมากถูกลำเลียงมาเพื่อใช้ระเบิดถ้ำปริศนา ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่พำนักของพญางูอย่างมากมาย โดยมีการวางแผนไว้ว่าเริ่มกดชนวนระเบิดไล่ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปากถ้ำ จนกระทั่งถึงข้างในถ้ำ อย่างระมัดระวัง
1
สิ้นเสียงระเบิด เหล่านักรบจากแดนอาทิตย์อุทัย ก็พากันวิ่งกรูกันเข้าไปในถ้ำเพื่อสำรวจอีกครั้ง สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือร่างของงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาวหลายสิบเมตร ความกว้างพอ ๆ กับ ตู้กับข้าวที่อยู่ในกองทัพยังไงยังงั้น แถมปากของมันก็ใหญ่มากพอที่จะสามารถเขมือบคนในคำ ๆ เดียวได้มากถึง 3 คน ได้แบบสบาย ๆ กันเลยทีเดียว
ส่วนฟันของมันนั้น แหลมคมดั่งเคียวอาวุธคู่กายของยมฑูตที่พร้อมจะทิ่มแทงลงไปในก้อนเนื้อของบรรดาเหยื่อผู้ที่ต้องพบกับฝันร้ายที่สุดในชีวิตเป็นแน่
ด้วยความใหญ่โตของมัน ขณะที่ทำการโจมตีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้น เจ้าอสูรกายยักษ์ไม่จำเป็นต้องงับแล้วรัดเหยื่อเพื่อบดขยี้กระดูกจนเสียงดังกร๊อบแกร๊บ ให้รำคานหู แล้วค่อยเขมือบเหยื่อเข้าท้องทีละนิด ๆ เหมือนงูเหลือมธรรมดา ๆ แต่อสรพิษร้ายตัวนี้ เพียงแค่งับเหยื่อก็สามารถส่งเหยื่อสไลด์ผ่านลงท้องดำดิ่งลงสู่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารนั้นได้เป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ สำหรับมันเอง
ถึงแม้ว่า เจ้างูยักษ์ตัวนี้จะมีร่างกายที่ใหญ่มหึมามากแค่ไหนก็ตาม แต่ร่างของมันถึงกับขาดวิ่นเป็นท่อน ๆ เมื่อต้องพบเจอกับแรงระเบิดจำนวนมหาศาลที่กองทัพได้ประเคนเข้าไปในถ้ำ
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าอสูรกายยักษ์สิ้นชีพได้ มันยังมีลมหายใจอยู่ถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม มันยังคงมีแรงดิ้นรนหาทางกระเสือกกระสน พาร่างอันบอบช้ำเต็มที พยายามเลื้อยหนีออกจากถ้ำ พวกเขายังคงพบเศษซากชิ้นส่วนเนื้อของมัน และยังคงกระดุกกระดิกอยู่
1
Pix Cr.lekdedlottothai
ณ เวลานั้นทหารญี่ปุ่นที่ได้สวมบทเป็นยมฑูตพร้อมที่จะมอบความตายให้กับเจ้าปีศาจยักษ์ก็ไม่รอช้าจัดการกระหน่ำยิงใส่จนปลอกลูกกระสุนหล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้นไปหมด
จากยมฑูตที่ได้เคยเอาชีวิตของเหล่าทหารลาดตะเวนเพื่อนของพวกเขากลับต้องกลายมาเป็นผู้ถูกลงทัณฑ์ ก่อนที่มันจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น
ในเวลาต่อเหล่าทหารกล้าผู้พิชิตเจ้าสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์นี้ ก็ได้ทำการแล่เนื้อของเจ้างูยักษ์ออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อความสะใจ
และเป็นการล้างแค้นให้กับผู้ที่ถูกมันคร่าชีวิตไปอย่างสาสม
2
นอกจากนี้สิ่งที่เหล่าทหารญี่ปุ่นได้พบเจอกับหลักฐานที่ทำให้ยิ่งมั่นใจได้ว่าเจ้างูยักษ์นี้เป็นต้นเหตุของการหายไปของเหล่าทหารลาดตะเวนเพราะในถ้ำมีเศษซากกระดูกที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น พบทั้งกระดูกสัตว์น้อยใหญ่และกระดูกคนผสมกันอีกมากมาย ว่ากันว่ามีกระดูกของมนุษย์นับร้อยชิ้นเลยทีเดียว
Pix Cr.tnews
คุณลุงได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า เรื่องราวดังกล่าวเป็นสิ่งที่ได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นชั่วลูกชั่วหลาน สืบทอดกันมาปากต่อปาก แต่รับรองว่าเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าข้อมูลอะไรบางอย่างอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้างตามคนเล่าต่อกันมา
และเมื่อมีนักท่องเที่ยว ทราบว่าคุณลุงเป็นคนพื้นที่ ที่เกิดและเติบโตที่นี่ และทราบเรื่องราวประวัติของงูยักษ์ต่างก็พากันถามถึงตำนานของเจ้าอสูรกายนี้อยู่เสมอ
และนี่ก็เป็นเรื่องราวตำนานเจ้างูยักษ์แห่งเมืองกาญจนบุรี เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเรื่องราวตำนานของเจ้าอสูรกายยักษ์นี้ มันช่างเป็นฝันร้ายของนักรบแห่งแดนอาทิตย์อุทัยในสมัยนั้นจริง ๆ ใครจะไปคาดคิดกันหละว่า อุตส่าห์ดั้นด้นมาตั้งไกล แค่มาสู้รบตบมือกับมนุษย์ด้วยกันเองแล้วยังจะต้องมาฟาดฟันกับเจ้างูยักษ์นี่อีก ทุกท่านมีคิดเห็นอย่างไร ร่วมพูดคุยกันได้นะคะ ขอบพระคุณที่ติดตามกันค่า 😊🙏
Pix Cr.crossboxs
หากท่านใดชื่นชอบบทความนี้ กดไลค์ กดแชร์ และกด Follow เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเราด้วยนะคะ เรายินดีจะนำบทความดี ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ทุก ๆ ท่านค่า ขอบคุณค่ะ ❤ 😁
1
Cr.Lekdedlottothai , xfile.teenee , appgeji , tnews
เรียบเรียง : Red Diary ❤
โฆษณา