24 พ.ค. 2019 เวลา 12:40 • การศึกษา
“อวัยวะส่วนที่ ๓๓ ….โทรศัพท์ข้าฯใครอย่าแตะ”
เครดิต ตามภาพเลยครับ
ใครจะไปเชื่อว่าเราสามารถเห็นหน้ากันเพียงแค่โทรหากัน ใช้โทรศัทพ์เหมือนกับมีคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ติดตัว จะค้นหาอะไรก็ได้ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นนาฬิกาปลุก เป็นกล้องถ่ายภาพ เป็นที่เก็บเอกสารต่างๆ ใช้จดข้อความแทนกระดาษ ขาดอย่างเดียวตอนนี้ ยังแช่อาหารเหมือนตู้เย็นไม่ได้เท่านั้น
และเพราะมันทำได้หลายอย่าง ราคามันจึงแพงมากกว่าทองคำเสียอีก ดังนั้น พฤติกรรมของโจรจึงเปลี่ยนไป
เดิมอยากได้แค่เงินทอง แต่เดี๋ยวนี้ขอเป็นโทรศัพท์ดีๆ
สักเครื่องหนึ่งที่ขายได้ราคาก็พอแล้ว เนื่องจากราคารุ่นท็อปๆตอนนี้ประมาณ สี่หมื่นเกือบห้าหมื่นบาท(ครึ่งแสนเข้าไปแล้ว) เทียบเท่ากับ ทองคำหนัก ๒ บาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ โทรศัพท์ได้พัฒนาไวมากจนคนซื้อตามซื้อไม่ทัน และโจรเองก็เช่นกัน เคยมีคดีหนึ่ง โจรขโมยโทรศัพท์มือถือแต่กลับรับโทรศัพท์ไม่เป็น เปิดเครื่องไม่ได้ ทำให้คนข้างๆสงสัยโทรกลับไปยังเบอร์ที่โทรมา จึงรู้ว่าเป็นเครื่องที่โจรขโมยมา สุดท้ายโดนจับไปโดยละม่อม
ภาพ scholarship in.th
แล้วท่านรู้ไหมว่า โทรศัพท์แต่ละเครื่องจะมีหมายเลขประจำตัวซึ่งปกติจะเปลี่ยนไม่ได้ ทำนองเดียวกับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของเรา ที่มีชื่อเลขว่า “อีมี่” ทั้งนี้ ปกติเมื่อเราใช้โทรศัพท์ เลขอีมี่นี้จะจับคู่กับหมายเลขโทรศัพท์ของเรา (เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน)
เมื่อโทรศัพท์หายต้องทำอย่างไร ?
เบื้องต้นให้ท่านเตรียมเอกสารการซื้อขายโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว พร้อมรายละเอียด-ยี่ห้อ-รุ่น-สี-ราคา-ตำหนิพิเศษ(เห็นแล้วจำได้) และ หมายเลขอีมี่เครื่อง ไปแจ้งความที่โรงพัก จากนั้นร้อยเวรจะดำเนินการตรวจสอบทางเครือข่ายว่าโทรศัพท์เครื่องที่หายได้มีการนำไปใช้กับหมายเลขใดหรือไม่ หากตรวจพบจะดำเนินการออกหมายเรียกเพื่อนำตัวมา
สอบสวนต่อไป
และถ้าหากท่านได้มีการลง Find My iphone (ios) หรือ Android Device Manager(Android) ก็สามารถช่วยหาตำแหน่งปัจจุบันของโทรศัพท์ก็จะช่วยให้เรารู้พื้นที่มีการเปิดใช้โทรศัพท์ และจะแสดงตำแหน่งล่าสุดหากไม่สามารถเชื่อมต่อได้ หรือจะล็อก หรือจะลบข้อมูล ก็ยังสามารถทำได้แม้เครื่อง(กาย)จะอยู่ที่อื่น แต่หัวใจ(ข้อมูล)ยังอยู่กับเรา ^^
ภาพ scholarship.in.th
โทรศัพท์ก็เหมือนเช่นของอื่นๆ มีคุณย่อมมีโทษ
แต่ประโยชน์ของมันอย่างหนึ่ง ที่ค้นพบล่าสุดเร็วๆนี้ มีอยู่ว่า
ภริยาเอาโทรศัพท์เครื่องเก่าติดตั้งระบบติดตาม GPS ทิ้งไว้ในรถยนต์เพื่อจะตรวจสอบว่าสามีจะขับไปไหน หนีไปเที่ยว หรือมีบ้านเล็กบ้านน้อยหรือไม่ ปรากฏว่า เมื่อตื่นเช้ามา เอ้า‼ สามียังอยู่ แต่รถดันหายไป นึกขึ้นได้ว่า ตนเอาโทรศัพท์ไว้ในรถ เลยตามดู GPS จากโทรศัพท์ จึงทราบว่ารถไปจอดอยู่ที่ไหน แจ้งตำรวจจับโจรเอารถกลับคืนมาได้
ทางด้านคดีเป็นอันจบสิ้นไป ส่วนเรื่องครอบครัวเคลียร์กันเอง
# ร้อยเวรไม่เกี่ยวนะครับ
โฆษณา