MUJI... ร้านไร้โลโก้
ที่ญี่ปุ่นมันมีร้านขายของอยู่แบรนด์นึง... ที่ตั้งชื่อร้านตัวเองด้วยคันจิ 4 ตัว ซึ่งแปลความเป็นไทยได้ว่า “สินค้าไม่มีแบรนด์ แต่คุณภาพเยี่ยม” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “Muji” นั่นเองครับ โดยอะไรทำให้มูจิเป็นหนึ่งในร้านขวัญใจชาวญี่ปุ่น? เราจะไปหาคำตอบกันครับ
ในชนบทอันเงียบสงบแบบนี้เนี่ย มันไม่มีห้างใหญ่ให้เดินหรอกครับ จะมีก็แค่ store community เล็กๆ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งหมู่บ้าน 5555 ซึ่งมันก็บังเอิญมี Muji กับเค้าด้วย!
เช้าวันเสาร์ไม่มีไรทำ ก็ชวนสหายอินเดียกับสหายคนใหม่! รายนี้มาไกลจากแดนน้ำหอม ไปเดินเที่ยวเล่นแถวๆซุปเปอร์ฯกัน แล้วก็ไปสะดุดตากับร้านๆนึง เอ...ทำไมหน้าตามันคุ้นๆหว่า ดูไปดูมา เห้ย! มูจิ
แต่สาขาที่นี่ใช้คันจิเขียนทั้งหมดไม่มีภาษาอังกฤษ พอตั้งสติได้ก็เลยชวนกันเข้าไปดูเห็นร้านมันสวยดี
พอเดินไปถึงหน้าร้าน…เห้ย! ประตูไม่ขยับ.. สมัยนี้ยังมีร้านที่ใช้ประตูผลักเปิดอีกหรอวะ นี่ 2019 นะเว่ย คือขนาดว่าผมอยู่บ้านนอก แต่ตามห้างร้าน ซุปเปอร์ เค้าก็เป็นประตูออโต้กันหมดละ สาขานี้ใช้ไม่ได้จริงๆ 5555
แต่พอได้เข้าไปจริงๆ เท่านั้นแหล่ะ! จากหลังก็กลายเป็นหน้ามือ! ในร้านคือตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่สวยเกินบรรยาย จริงๆ ก็เหมือนที่ไทยนั่นแหล่ะ แต่ก็ยังน่าอยู่กว่าหอผมหลายร้อยเท่าอยู่ดี 5555
มาเข้าเรื่องจริงๆกันดีกว่า
จุดเด่นแรกของมูจิเนี่ย…
คือผลิตภัณฑ์สุดเรียบง่าย แต่เน้นใช้งาน
สินค้ามูจิเนี่ยจะเรียบๆไม่มีโลโก้ติดให้มันรก แต่ไม่ใช่จีนแดงที่ไหน ถ้าดูดีๆหน่อย นั่นแหล่ะมูจิ ด้วยความที่ปรัชญาของร้านไร้แบรนด์แห่งนี้คือ ออกสินค้าที่จำเป็นจริงๆกับผู้บริโภค โดยไม่จำเป็นต้องให้ตัวสินค้ามันซับซ้อนใช้ยาก และตอบโจทย์คนใช้จริงๆ ก็เลยเอาโลโก้ออกซะงั้น ประหยัดงบค่าดีไซน์ 5555
กล่องใส่ของ
ไม่ใช่แค่มุมที่ลูกค้าเห็นเท่านั้น ในมุมของ business เอง เค้าก็พยายามลดกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากด้วยเช่นกัน สินค้าส่วนใหญ่จึงดูซิมเปิ้ล มีแค่ไม่กี่ชิ้นประกอบกัน ถ้าไม่สังเกตดีดีก็อาจจะไม่เห็น
และสิ่งสุดท้าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการขาย..
ก็คือ “ความสวยงาม”
ถ้าขาดตรงนี้ไป สินค้ามูจิก็จะกลายเป็นเหมือนสินค้าร้านร้อยเยน 55555 ซึ่งเมื่อลูกค้านำไปใช้เนี่ย มันไม่ใช่แค่ได้ฟังก์ชันอะ! แต่ความฟิน ความพอใจที่ได้เป็นเจ้าของสินค้าที่มันถูกออกแบบมาอย่างเฉียบเนี่ย มันจะอยู่ไปอีกนาน
ก็เหมือนโซนห้องนั่งเล่นพร้อมทีวีที่เค้าจัดให้ไว้ลองนั่ง แล้วเราจะรออะไร? นั่งสิครับ 5555 ถึงแม้โซฟาจะไม่ดูดวิญญาณเท่านิโตริ แต่ความสวยงามต้องบอกว่ากินขาด
ขอนอนที่นี่ได้มั้ย? 55555
ดีไซน์ที่เฉียบขาด
ต้องบอกว่าเค้าออกแบบมาฉลาดมากๆ คือถ้าไม่ไปดูคลิปในเว็บเค้านี่ ไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไรจากเราๆ 5555
อย่างกล่องทัปเปอร์แวร์สุดน่าใช้งาน จริงๆมันถูกออกแบบมาให้วางซ้อนกันได้ประหยัดพื้นที่กว่า แถมมีรูปร่างแปลกๆให้เลือกมากมาย คนเลือกก็ฟินกันไป หรือจะเป็นกระบอกน้ำที่ออกแบบมาสำหรับวางแนวนอนได้
ส่วนทีเด็ดสุดคือปลั๊กพ่วง! คือสายถอดจากเต้าเสียบได้
แถมมีที่เสียบ usb โดยตรง (แต่สายและเต้าขายแยกนะครับ 55555)
tupperware กระบอกน้ำ ปลั๊กพ่วง กระปุกครีมเปล่า
แต่ที่ผมเห็นส่วนมากเลยเนี่ย จะเป็นพวกชั้นหรือกล่องต่างๆ ที่ไว้จัดระเบียบของในบ้านอีกที เช่น ลิ้นชักอะคริลิค กระปุกใส่ครีม ขวดปั๊มเปล่า อย่างที่รู้กันว่าคนญี่ปุ่นเนี้ยบแค่ไหน ดูอย่าง Marie Kondo เป็นตัวอย่าง 5555
มันขายทุกอย่าง...
ไม่ต้องตกใจหากมูจิขายแกงกะหรี่ ไม่ก็ต้มยำกุ้งสำเร็จรูปที่มาพร้อมใบมะกรูดและพริกแห้ง คือที่นี่มีหมด ตั้งแต่ขนมขบเคี้ยวไปจนถึงเดรสซิ่งสลัด ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่ามันไว้สำหรับซื้อไปตั้งโชว์มากกว่า ทั้งราคา และแพ็คเกจที่ดูดี คือบอกเลย แกะกินไม่ลง! เหมาะสำหรับซื้อมาสะสมมากกว่า
ชุดต้มยำกุ้งสำเร็จรูป
สุดท้ายนี้ ด้วยความสวยงามของผลิตภัณฑ์และดีไซน์ภายในร้านด้วยการคุมสีของสินค้าด้วยเอิร์ธโทน ไม่ต่างจากที่ไทย คือสีมันออกจะหม่นๆ เทา ครีม ขาวๆ มาตัดกับลายไม้สีน้ำตาลอ่อน มันทำให้ผมรู้สึกว่า “อยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไป” 55555
ถึงแม้ว่าราคาของร้านนี้จะค่อนข้างสูงสำหรับผม ทั้งไทย และญี่ปุ่น แต่ด้วยปริมาณลูกค้าที่เต็มร้านในวันเสาร์ บอกได้เลยว่า “สินค้ามูจิ” คือทางเลือกแรกๆสำหรับสินค้าคุณภาพดีในญี่ปุ่น ส่วนเราก็ร้านร้อยเยนต่อไป 55555
แต่! สินค้าบางอย่างที่ดูไม่เวิร์กก็มี เช่น! เครื่องเล่นซีดีติดผนัง วางขายกันในปี 2019.. อาจจะเป็นเพราะผมไม่สามารถเข้าถึงปรัชญาของร้านก็เป็นได้ 5555
เครื่องเล่นซีดีติดผนัง
สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานสามารถติดตามได้ทางเพจ facebook "อยู่ญี่ปุ่นกับคนอินเดีย" กันอีกทางนะครับ
link: https://bit.ly/2VMGSru
#AdminKusatsu
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
