24 พ.ค. 2019 เวลา 17:00 • ประวัติศาสตร์
ฆาตกรรมต่อเนื่องสนองตัณหาสุดเหี้ยมโหดแห่งอเมริกา - Aileen Wuornos #2 ตอนจบ
2
Pix Cr.petmaya
ศพที่ 4 ปีเตอร์ ซิมส์
ต่อมา มิถุนายน ปี ค.ศ.1990 มีการพบเจอศพของ ปีเตอร์ ซิมส์ พ่อค้าขายอุปกรณ์ทางทะเลวัย 65 ปี
ที่บริเวณนอกเมืองปาสโก คันทรีไปทางใต้ 30 ไมล์ โดยสภาพศพ ถูกยิงด้วยปืนขนนาด .22 ถึงเก้านัดเลยทีเดียว ร่างกายเปลือยเปล่า เน่าเฟะ มีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ อาทิ กล้องถ่ายรูป เบ็ดตกปลา เครื่องมือช่าง พระคัมภีร์ รวมถึงรถซันเบิร์ดสีเงิน
Pix Cr.Georgia Marie
ถึงเวลานี้ ทายเรีย เริ่มรู้สึกประหลาดใจบ้างแล้ว เนื่องจากเริ่มเห็นสิ่งของแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน วางอยู่บนโต๊ะบ่อยครั้งมากขึ้น
โดยบ่ายที่สุดแสนจะร้อนอบอ้าว ของวันที่ 4 กรกฎาคม ปี ค.ศ.1990 ไอลีนกับทายเรียได้
ขับรถออกไปซื้อแอลกอฮอล์ทั้งสองต่างดื่มด่ำกับแอลกอฮอล์ที่ซื้อมาจนถึงเช้าอีกวัน
ทั้งคู่เมามาก โดยขับรถซันเบิร์ดสีเงินกลับ รถของเธอทั้งคู่วิ่งขับรถชมวิวและรับอากาศยามเช้า สมรรถนะด้านการขับขี่ก็ไม่ต่างอะไรกับงูเลื้อยกันเลยเดียว
1
เมื่อทั้งคู่วิ่งมาถึงเขตชุมชนอินเดียแดง
พร้อมกับสติที่ขาดหายและมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์มาก ทำให้เขาทั้งคู่เสียหลักชนเข้ากับเสาขนาดใหญ่ เหวี่ยงไปฟาดกับต้นไม้ที่อยู่ข้าง ๆ ต่ออีก
หลังจากนั้นทั้งสองก็อยู่ในอาการที่ มึนงง และตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่สักพัก ในขณะเดียวกันก็มีเสียงดังมาจากหม้อน้ำพร้อมทั้งสายน้ำที่พุ่งพรวดออกมาจากรถ ไอลีนได้เห็นแบบนั้น จึงตะโกนให้ทายเรียรีบออกจากรถอย่างสุดเสียง พร้อมกระโดดออกจากรถอย่างฉับไว เมื่อทายเรียได้ยินเช่นนั้น
1
จึงรีบวิ่งลงจากรถอย่างไม่คิดชีวิต เพราะเข้าใจว่ารถจะระเบิด แต่เธอต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น
เธอเห็นไอลีนกำลังฉุดกระชากป้ายทะเบียนรถ แทนที่จะวิ่งหนี ทายเรียจึงเอ่ยปากถามไอลีนเพื่อให้หายข้องใจกับภาพที่เห็น และแล้วคำตอบที่ทายเรียได้ยินกลับทำให้ทายเรียถึงกับทรุด และถึงกับช็อกไปในทันที
1
เพราะรถที่พวกเขาเอามาอัดกับต้นไม้อยู่นี้ คือรถที่ไอลีนลักลอบขโมยมา รวมถึงได้ฆาตกรรมเจ้าของคนคันนี้ไปเสียแล้ว ซึ่งป้ายทะเบียนนี้จะเป็นหลักฐานชั้นดีที่จะใช้สาวมาถึงตัวไอลีนได้
1
Pix Cr.NeverendingStory
ในเวลาเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งการทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสืบหาตัวฆาตกรต่อเนื่องที่ได้สร้างคดีไปทั่วเมือง โดยได้นักสเกตซ์ภาพเหมือนฝีมือดีมาวาดภาพบุคคลต้องสงสัยตามคำบอกเล่าของพยาน หลังจากนั้นภาพวาดเสมือนภาพถ่ายก็ได้ถูกกระจายออกไปทั่วทุกรัฐ
ภาพสเกตซ์ของไอลีน Pix Cr.หนังสือคดีโลกตะลึง
จากสถานการณ์หลากหลายเหตุการณ์ ที่ทั้งคู่ได้เผชิญร่วมกันมานั้น ยิ่งทำให้ความตึงเครียดถาโถมเข้าใส่กันมากยิ่งขึ้น ต่างคนต่างรู้สึกกดดันถูกบีบให้อยู่ในสถานการณ์ที่กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง (มาไงนิ พี่เบิร์ด 😆😆)
แต่ถึงอย่างไร..ไอลีนก็ไม่สามารถที่จะเดินออกไปจากวงจรชีวิตแบบนี้ได้อีกแล้ว
เพราะเธอถลำลึกมากจนเกินแก้ไขสิ่งใด ๆ ได้ ทางด้านทายเรียก็เริ่มรู้สึกกลัวกับการกระทำของไอลีน
1
แต่ครั้นจะจบกับไอลีนด้วยการตีจากไปนั้น เธอก็เกรงว่าถ้าไอลีนอาจจะเกิดรู้สึกไม่พอใจและนั่นอาจจะเป็นจุดจบของเธอได้เช่นกัน จึงทำให้เธอต้องอดทนอยู่กับสถานะแบบนี้ต่อไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ศพที่ 5 ยูจิน ทรอย เบอร์เรลส์
ในปีเดียวกันได้มีการพบศพชายขับรถบรรทุก อายุ 55 ปี สภาพศพเปลือยเปล่า ถูกยิง 2 นัด และถูกปกคลุมด้วยใบเฟิร์น จากการตรวจสอบพบว่า เงินสดหายไป 310 เหรียญ
1
ศพที่ 6 ดิ๊ก ฮัมฟรีย์
วันที่ 12 กันยายน ปี ค.ศ.1990 ดิ๊ก ฮัมฟรีย์ หนุ่มใหญ่อดีตนายตำรวจ วัย 54 ปี ถูกพบกลายเป็นศพเปลือยกายถูกยิงด้วยปืน ขนาด .22 กระสุนฝังตามร่างกายถึง 6 นัด และ ทะลุข้อมืออีก 1 นัด
การเสียชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าของบรรดาหนุ่มใหญ่ด้วยสภาพเปลือยเปล่านี้ เป็นเหตุให้สังคมเริ่มที่จะกดดันให้ตำรวจต้องเร่งจับฆาตกรผู้กระทำผิดนี้มาลงโทษอย่างเร่งด่วน
ในเวลานั้น เป็นเวลาเดียวกันกับที่ทายเรียถูกโรงแรมเลิกจ้าง ทำให้เธอกลายเป็นบุคคลว่างงาน เธอรู้สึกถึงความเบื่อเป็นอย่างมาก วัน ๆ เธอทำได้เพียงแค่เพียงนั่งดูทีวีเท่านั้น เธอหยิบรีโมททีวีเปลี่ยนช่องไปช่อง รายการทีวีรายการแล้วรายการเล่า
1
จนในที่สุดเธอต้องมาสะดุดหยุด กับข่าวๆ หนึ่ง ที่จ้องทีวีอย่างเอาจริงเอาจัง เสียงนักข่าวที่กำลังประโคมข่าว ถึงภาพอดีตนายตำรวจถูกฆ่าตาย โดยรถโอลด์สโมบิลสีน้ำเงินของนายอดีตตำรวจผู้โชคร้ายก็ได้หายไปด้วยเช่นกัน
ภาพรถจากทีวีนั้นช่างเหมือนภาพรถในความทรงจำของทายเรียมากเสียจนเธอถึงกับตกใจ และเริ่มนึกคิดว่า เคยพบเจอรถคันนี้ที่ไหน จนเธอแน่ใจว่า มันเป็นรถที่ไอลีนใช้อยู่นั่นเอง
หนำซ้ำข่าวยังได้พูดถึงประเด็นรถซันเบิร์ดสีเงินของผู้ตายรายก่อนหน้านี้ที่หายไป แต่ต้องช็อกกว่าเมื่อปรากฎภาพสเก็ตซ์ของผู้หญิงต้องสงสัย 2 ราย ทันทีที่
1
ทายเรียเห็นภาพสเก็ตซ์ เธอถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก เพราะมันเหมือนเธอกับไอลีนอย่างกับรูปถ่าย ทายเรียไม่รีรอที่จะหาวิธีหนีจากไอลีน เธอกลัวอย่างสุดขีด ภาพโซ่ตรวนรางๆ ในความคิดของเธอนั้นเริ่มชัดเจนมากขึ้นทุกที
ศพที่ 7 วอลเทอร์ จีโน อัตโตนิโอ
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1990 ได้มีการพบร่างของตำรวจหนุ่ม วอลเทอร์ จีโน อัตโตนิโอ นอนเปลือยเป็นศพจมกองเลือด เขาถูกยิงด้วยปืนขนาด .22 จำนวน 4 นัด ตรวจสอบพบว่า มีทรัพย์สินมีค่าหายไปหลายรายการ ในเวลาต่อมาพบรถของเขาถูกพบอยู่ที่เมือง
เบรเวอร์ด คันทรี
1
Pix Cr.Georgia Marie
ในวันนั้น วันที่ไอลีนได้ลงมือฆ่าวอลเทอร์ ไอลีนมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิม เขานั่งดื่มเบียร์อย่างเงียบๆ คนเดียว หลังจากนั้นเขาก็เดินไปหาทายเรีย พร้อมกับสวมแหวนเพชรใส่นิ้วมือคนรักของเธอราวกับทั้งคู่ยืนอยู่กลางพิธีวิวาห์
1
หากแต่นั่นไม่ได้ทำให้ทายเรียร้องไห้ดีใจที่ได้รับการสวมแหวนเพชรจากคนรักอย่างที่คนทั่วไปควรจะเป็น เพราะทายเรียเธอรู้อยู่เต็มอกว่าไอลีนได้แหวนนั้นมาจากไหน
แค่เพียงไม่กี่วัน ไอลีน ก็ต้องคลั่งกับสิ่งที่ ทายเรีย มอบให้เธอ หลังจากที่ไอลีนกลับมาจากการซื้อเบียร์ ทายเรียทิ้งแหวนเพชรไว้ที่หัวเตียงพร้อมกับหายตัวไปอย่างไม่ได้ร่ำลาเลยสักคำ ไอลีนเห็นภาพเช่นนั้น
1
เธอทำได้เพียงเสียใจ แล้วดื่มเบียร์ที่ซื้อมาจะมาฉลองกับทายเรียอย่างบ้าคลั่ง แล้วประชดชีวิตด้วยพาผู้ชายที่พบในบาร์มานอนที่บ้านอย่างไม่เลือกหน้าตลอด 5 คืนเต็ม
แต่เมื่อมันไม่ได้ผลและไม่มีอะไรดีขึ้น เธอก็ออกจากบ้าน แล้วไปนอนหน้าบาร์ที่ประจำของเธอพร้อมกับรถสีเหลืองที่ดูไม่จืดเอาเสียเลย แต่เป็นที่ ที่ทำให้เธอสบายใจที่สุด ณ เวลานี้
สุดท้ายจุดจบของฆาตกรต่อเนื่องก็ปิดฉากลงด้วยศพที่ 7 เป็นศพสุดท้าย เมื่อไอลีนถูกจับกุมตัว ได้เมื่อวันที่ 8 มกราคม ปี ค.ศ.1991 และในเวลาต่อมาพบตัวของทายเรีย
เธออาศัยอยู่กับพี่สาวในเพนซิลวาเนีย โดยเธอให้การสารภาพกับตำรวจว่า ไอลีนมักจะนำของที่ได้จากการฆาตกรรมมาให้เธออยู่บ่อยครั้ง แต่เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น เธอจึงถูกกันตัวไว้เป็นพยาน
ในวันที่ 21 มกราคม ปี ค.ศ.1991 ตำรวจวางแผนใช้ทายเรีย เป็นนกต่อ โดยให้เธอคุยโทรศัพท์กับไอลีนในคุกพร้อมบันทึกเทป เพื่อให้ไอรีนยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของทายเรีย และรับคำสารภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
1
ด้วยความรักที่ไอลีนมีให้กับทายเรียอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย ยอมติดกับดักที่ทายเรียวางไว้อย่างง่ายดาย เขายืนยันความบริสุทธิ์ให้กับทายเรีย เพื่อรับความผิดทั้งหมดไว้แต่เพียงผู้เดียว ทายเรียวางหูแล้วหลั่งน้ำตาให้กับความรักที่ไอลีนมีให้กับเธอ แม้รู้อยู่เต็มอกว่าเธอหักหลังเขา
1
ไอลีนบอกกับตำรวจว่า กับผู้ชายบางคนที่พยายามจะช่วยเหลือเธอจริงๆ จะให้ที่พักกับเธอ จะขับรถไปส่งเธอ เธอก็คิดจะปล่อยเขาไป แต่ด้วยความโชคร้ายของชายผู้นั้นเขาดันไปเห็นปืนที่เธอพกมาทำให้เธอจำเป็นต้องฆ่าปิดปากเขาเสีย
1
วินาทีที่เธอเหนี่ยวไก เธอเจ็บปวดมากเหลือเกิน เธอร้องไห้ให้กับเหยื่อรายนี้ แต่เธอไม่มีเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเธอยังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่เธอรักอย่างสุดหัวใจเฝ้ารอเธอกลับบ้าน
1
Pix Cr.ucpsci
เธอยังตายตอนนี้ไม่ได้ เธอต้องปกป้องดูแลเขาต่อไป เธอบอกต่ออีกว่า ด้วยการกระทำที่ผ่านมาทั้งหมดของเธอ เธอไม่อาจให้อภัยตัวเองได้ แต่ทายเรียจะช่วยเธอได้เพราะทายเรียจะให้อภัยเธอได้เสมอ
เช้าวันรุ่งขึ้น ไอลีนหรือโสเภณีทางหลวงถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย 7 ศพ พร้อมทั้งคำรับสารภาพที่ได้บันทึกเทปไว้ขณะที่ไอลีนคุยกับทายเรียทางโทรศัพท์
ณ เวลานั้นข่าวของ ไอลีน วอร์นอส เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากเมื่อมีผู้หญิงวัย 44 ปี ชื่อ อาร์ลีน พราลล์ เจ้าของคอกผสมพันธุ์ม้าใกล้เมืองโอคาลา เธอได้ออมาประกาศกร้าวว่าเธอจะเป็นผู้พิทักษ์ไอลีน
เขาเป็นมิตรคนสุดท้ายที่ไอลีนมีอยู่ขณะนั้น เขาร่วมต่อสู้คดีกับไอลีนทุกวิถีทาง ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นคำสั่งจากพระเจ้าที่ต้องการให้เขาทำสิ่งนี้
ช่วงนั้น อาร์ลีน ไม่ต่างกับซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ด้วยเหตุผลที่เธอประกาศเข้าช่วยเหลือแก่ไอลีนนั่นเอง ทำให้สื่อต่าง ๆ มากมายต่างรุมสัมภาษณ์เธอ
1
อาร์ลีนปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ พร้อมกับวลีเด็ดๆ มากมาย อาทิเช่น
"นี้เป็นการผสานวิญญาณ เราสองคนเปรียบได้กับโจนาธานและเดวิดในคัมภีร์ไบเบิล ราวกับว่าส่วนของฉันถูกจองจำอยู่ในคุกร่วมกับเธอ เราจะรู้ถึงความนึกคิดของกันและกันเสมอ" และ "ถ้าโลกรู้ความจริงของไอลีน วอร์นอส จะไม่มีลูกขุนคนใดตัดสินลงโทษเธอเลย"
2
และในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามแสวงหาประโยชน์จากเรื่องราวของเธอเพื่อไปสร้างหนัง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1991 อาร์ลีน พราลล์และสามีทำเรื่องขอรับไอลีน วอร์นอส เป็นบุตรตามกฎหมาย เธอบอกว่าพระเจ้าได้สั่งให้เธอทำเช่นนี้
1
มกราคม ปี ค.ศ. 1992 คดีของไอลีน วอร์นอส เข้าสู่การพิจารณาคดีในศาล ดีแลนด์ ฟลอริดา ทนายของจำเลยต่อสู้คดีด้วยการขอลดหย่อนผ่อนโทษ แต่อัยการประจำรัฐท่านหนึ่งให้ความเห็นว่าเธอสมควรจะรับโทษประหารชีวิต
Pix Cr.Georgia Marie
ไอลีน วอร์นอส แต่งกายในชุดสีทรายเพื่อลดทอนภาพลักษณ์ของผู้หญิงเหี้ยมโหดลง เธอนั่งฟังอย่างสงบ บางครั้งก็ยิ้มให้กับนักจิตวิทยาที่อธิบายผลวิเคราะห์สภาพจิตใจของเธอ บางครั้งก็เหลือบมองท่าทีของคณะลูกขุน
ภาพคำรับสารภาพถูกนำมาฉายในศาลเพื่อให้ผู้พิพากษาและลูกขุนได้รับรู้ ไอลีนอยู่ในชุดกีฬาสีส้มมีเสื้อสเวตเตอร์สวมทับดูดบุหรี่พ่นควันฟุ้ง เธอบอกเล่าเรื่องการฆาตกรรมทุกรายเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา
"ฉันยิงมันทีละนัด" เธอเล่าด้วยสีหน้าเฉยชามาก เธออ้างว่าถูกตาของเธอข่มขืนและทำทารุณกรรมอย่างรุนแรง และเล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็กของเธอให้พวกเขาฟัง
ลูกขุน 14 คนได้ยินไอลีนเล่าเช่นนั้น พวกเขาถึงกลับนั่งกันตัวเกร็งกับคำตอบอย่างเห็นได้ชัด บางคนนั่งสั่นหัวไม่ยอมเชื่อบางคนถึงกับออกอาการสะดุ้งเฮือก และลูกขุนที่เป็นผู้หญิงแก่ถึงกับน้ำตาซึมด้วยความเวทนากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ
ทนายความ จำเป็นต้องแอบกระซิบคำแนะนำที่เธอจะใช้ตอบโต้อัยการ ซึ่งจะขึ้นคัดค้านอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
"ฉันหันกลับมาหาเขาที่เบาะหน้า ฉันได้ยินเสียงเขาทำเสียงงึมงำ ฉันคิดว่าคงยิงโดนลำตัว เขายังมีแรงเปิดประตูเดินหนีฉัน ฉันจึงตัดสินใจยิงซ้ำ คงโดนท้องหรือหน้าอกอะไรทำนองนี้แหละ เขากองลงไปกับพื้น ฉันจึงกระหน่ำยิงต่อ"
3
ภาพถูกซูมออก เห็นเธอเตรียมตัวกำลังยกมือเป็นรูปปืน เล็งไปที่อากาศและลั่นไกปัง ๆ "ฉันไม่สนใจหรอกว่าฉันทำอะไร แต่มันสาสมแล้วกับสิ่งที่ทำ" เธอพูดกับตำรวจสิ้นภาพสุดท้ายของการฉายภาพ
ทุกคนในศาลต่างพากันเงียบอย่างกับป่าช้าในขณะที่เหตุการณ์กำลังอยู่ในความเศร้าสร้อย กลับมีสีสันเมื่ออัยการของรัฐออกมาคัดค้าน "เป็นเรื่องยากไหมที่จะแต่งเรื่องให้ดูสมจริง" อัยการถาม
Pix Cr.justcriminals
"ไม่เลย เรื่องยากคือการที่จะต้องตอบคำถามไร้สาระของคุณต่างหาก" ไอลีนตอบกลับอัยการอย่างทันควัน
ณ เวลานี้ เห็นได้ชัดว่าไอลีนเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว อัยการยังยิงคำถามตลอดอยู่เป็นเนืองๆ เธอเอามือเสยผมด้วยความหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้ง มีการปะทะคารมอยู่เป็นระยะๆ
"ฉันไม่เคยทำร้ายใครมาก่อน"เธอกร้าวเสียงแข็ง
"คุณพูดเล่นละมั้ง" อัยการสวนกลับทันที
"ฉันกำลังตกเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรม" ไอลีนพูดด้วยสีหน้าดุเดือด
1
อัยการถามว่า เธอรู้ตัวหรือไม่ว่าเธอทำผิดกฎหมายจากการขายตัวและพกปืนในที่สาธารณะ"ใครๆ ก็ทำผิดกฎหมายด้วยกันทั้งนั้น คุณก็ทำผิดกฎหมาย คุณขับรถ ปล่อยควันเสียทำลายโลก" ไอลีนตอกกลับทันควัน
"แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ใช้ปืนยิงคนอื่นอย่างเลือดเย็นนี่" อัยการสวนกลับ
"ฉันก็ไม่ได้ยิงใครอย่างเลือดเย็นเหมือนกัน" ไอลีนสวนกลับแบบมีอารมณ์
วันที่ 27 มกราคม ผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินคณะลูกขุนว่าไอลีนมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา เธอโกรธมากเมื่ออกมานอกศาลถึงกับระเบิดเสียงดังลั่นว่า "ฉันบริสุทธิ์ ฉันถูกข่มขื่น ขอให้พวกแก่ถูกขมขื่นบ้าง! ไอ้พวกโสโครกอเมริกา!!"
1
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญถูกเชิญเข้ามาเป็นพยานเพื่อวิเคราะห์จิตใจของไอลีน
"เธอมองเห็นโลกเป็นเช่นไรหรือ? โลกของเธอเต็มไปด้วยความประสงค์ร้ายจ้องประหัตประหารกันและกัน ก่อให้เกิดความโกรธแค้นในจิตใจ บ่อยครั้งที่ความวิตกจริตของเธอมีมากล้น ก่อให้เกิดความโกรธคับแค้นข้องใจ จนหาที่ระบายไม่ได้"
แต่ แบรี่ วอร์นอส ลุงของไอลีน กลับให้การต่างกันออกไป เขาว่าครอบครัววอร์นอสเป็นครอบครัวที่อบอุ่น รักใคร่สามัคคีกันดี
ไอลีน วอร์นอส ลุกขึ้นชี้หน้าด่าลุง พยายามตั้งคำถามในอดีต แต่แบรี่เดินหนีออกจากพื้นที่ของพยาน
ไอลีนตะโกนร้องก้องตามหลังแบรี่ไปอย่างสุดเสียง "ฉันก็เป็นเหยื่อเช่นเดียวกับผู้ตายทั้งหลายนั่นแหละ!"
ก่อนการอ่านผลการพิจารณาคดี ศาลอนุญาตให้ไอลีน กล่าวความในใจ ไอลีนลุกขึ้นกล่าวความในใจ
1
"ฉันถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ฉันบริสุทธิ์ ฉันไม่ได้ฆ่าใคร ฉันไม่มีวันทำเช่นนั้น พวกเขารวมหัวกล่าวโทษ บังคับให้สารภาพ เพื่อจะเอาเรื่องนี้ไปทำหนัง"
1
Pix Cr.allthatsinteresting
ผู้พิพากษารอไอลีนสงบลง จึงประกาศโทษ "คุณไอรีน แครอล วอร์นอส ต้องรับผิดโทษการประหารด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าจนตาย ขอให้พระเจ้าได้โปรดเมตตาวิญญาณคุณ" ไอลีนได้ยินคำตัดสิน
เธอแสดงกิริยาหยาบคายและผรุสวาท เธอถูกขังในเรือนจำ 12 ปี วอร์นอส วัย 46 ปี เป็นผู้หญิงคนที่สิบของสหรัฐอเมริกาและคนที่สองในรัฐฟลอริดาที่ถูกประหารชีวิตนับจากกฎหมายลงโทษประหารขึ้นมาใช้ใหม่ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1976 เป็นต้นมา
แต่มีเหตุการณ์เล็ก ๆ ก่อนจะประหารคือ วอร์นอสได้รับอนุมัติเลือกวิธีประหารชีวิตโดยการฉีดยาแทนเก้าอี้ไฟฟ้าในวันประหาร ไอลีนตะโกนเป็นครั้งสุดท้าย แก่โลกนี้ว่า "ขอบคุณ ข้าจะขึ้นสวรรค์แล้ว ขอให้พวกแกทั้งหลายลงนรก" ไอลีนจบชีวิตลงเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2002 เวลา 9.45 น.
Pix Cr.UKTV
เรื่องราวของเธอถูกนำไปสร้าง เป็นหนังสือสองสามเล่ม นำไปแสดงเป็นละครโอเปร่าเรื่อง "วอร์นอส" และนำไปสร้างภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับตัวเธออีก กำกับโดย นิค บรูม ในปี ค.ศ.1993
และล่าสุดถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่อง Monster ซึ่งชาร์ลิซ เธียรอน นักแสดงหญิงที่รับบทเป็นเธอได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงหญิงที่ดีที่สุดอีกด้วย (เธอพยายามทำให้สมจริงกับบทบาทไอลีนที่สุด เช่นการไปเพิ่ม นน.ให้มีขนาดลำตัวเท่ากับไอลีนตัวจริง)
ภาพยนตร์ที่สร้างมาจาก โครงเรื่องจริงของไอลีน
มีแหล่งข้อมูลบางแห่งระบุว่าตลอดเวลาที่ผู้กำกับ แพตตี้ เจนกินส์หาข้อมูลเรื่องของไอลีน วอร์นอส เจนกินส์ได้ใช้วิธีเขียนจดหมายไปหาไอลีนในคุก ทั้งสองเขียนโต้ตอบกันเป็นระยะเวลานาน
โดยที่ไอลีนไม่ยอมให้เธอเข้าพบ แต่ต้องพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด หนึ่งคืนก่อนวันประหาร ไอลีนเรียกตัวให้เจนกินส์ไปพบในเรือนจำ สิ่งที่เจนกินส์เห็นคือกองจดหมายสองกอง กองหนึ่งคือที่เจนกินส์ส่งมา
อีกกองหนึ่งเป็นจดหมายที่เขียนโต้ตอบกับทายเรียคนรักของเธอ พร้อมกันนั้นไอลีนได้อนุญาตให้เจนกินส์สร้างหนังเกี่ยวกับชีวิตเธอได้ แต่ขอร้องว่าอย่านำทายเรียมาเกี่ยวข้อง อย่าไปสัมภาษณ์ทายเรีย เธอขอร้องเขาไว้
1
หากเรื่องข้างต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันคงเป็นสิ่งที่แสดงว่าไอลีนรักและห่วงใยทายเรียจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
2
ถ้าเรามองย้อนไปถึงสิ่งที่ไอลีนได้กระทำลงไป เธอฆ่าคนเพื่อแลกกับเงิน เธอต้องการเงินเพื่อจะไปให้กับคนรักของเธอ เธออยากให้เขามีความสุข เพียงแต่เธอเลือกใช้วิธีที่ผิด เมื่อเธอพลาดแล้วเธอไม่ยอมหยุด
1
เธอวิ่งเข้าไปในเส้นทางนั้น ความผิดพลาดอาจจะเป็นผู้เหนี่ยวไกยิงใส่เหยื่อรายแรก แต่คนที่เหนี่ยวไกยิงเหยื่อรายที่สองไม่ใช่ความผิดพลาดหากแต่เป็นตัวของเธอเอง ทุกท่านคิดเหมือนเรดมั้ยคะ รู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ร่งมพูดคุย แสดงความคิดเห็นกันได้น้าา 😊❤
2
เรดนำคลิปของคุณนิค ซึ่งเป็นคนที่จัดทำสารคดีชุดนี้ขึ้นมาก่อนที่ ไอลีนจะต้องเข้าห้องประหาร ลองรับชมกันได้นะคะ
หากท่านใดชื่นชอบบทความนี้ กดไลค์ กดแชร์ และกด Follow เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเราด้วยนะคะ เรายินดีจะนำบทความดี ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ทุก ๆ ท่านค่า ขอบคุณค่ะ ❤ 😁
Cr.หนังสือแกะรอยฆาตกร , petmaya , oknation , thairath , itellghoststory
เรียบเรียง : Red Diary ❤
โฆษณา