ลมยางไนโตรเจน ดีกว่า ลมยางธรรมดาอย่างไร ? ข้อดีข้อเสียคืออะไร ? ไปหาคำตอบกัน
ลมยางไนโตรเจน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ใช้รถเริ่มหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น แต่บางครั้งก็ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ว่าลมยางไนโตรเจนมันคืออะไรกันแน่ ?
หลายคนที่เติมลมยางไนโตรเจน เพียงเพราะว่าช่างแนะนำให้เติม เพื่อนแนะนำให้เติม แต่ไม่รู้ว่าเติมไปแล้วมันดีกว่าการเติมลมยางธรรมดาอย่างไร แล้วต่างก็อุปทานกันไปว่า มันดีขึ้นอย่างนั้นอย่างนี้
ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจถึงข้อดี และข้อแตกต่างระหว่าง “ ลมยางไนโตรเจน ” กับ “ ลมยางธรรมดา ” กันครับ
โดยทั่วไปแล้ว ลมยางไนโตรเจน จะถูกนำไปเติมให้กับล้อของเครื่องบิน และล้อของรถแข่งซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นคงบอกเป็นนัย ๆ ได้ว่า ลมไนโตรเจนมันมีความพิเศษกว่า และแตกต่างจากลมยางธรรมดาอย่างแน่นอน
ความแตกต่างระหว่างลมยางไนโตรเจน กับ ลมยางธรรมดา
ปกติแล้วอากาศ (ลมยางธรรมดา) จะประกอบไปด้วย ไนโตรเจน 78% และออกซิเจนอีก 21% ส่วนที่เหลือจะเป็นไอน้ำ และก๊าซต่าง ๆ
ส่วนลมยางไนโตรเจนนั้น จะประกอบไปด้วยไนโตรเจนมากกว่า 93% และจะเป็นไนโตรเจนแบบ Dry Nitrogen ซึ่งจะมีไอน้ำปนอยู่น้อยมาก หรืออาจไม่มีเลย
ข้อดีของลมยางไนโตรเจน
ข้อดีข้อแรกเลย คือ ลมยางไนโตรเจนมีความเสถียรมากกว่าครับ
เพราะลมยางธรรมดานั้น จะมีก๊าซ และไอน้ำปะปนอยู่ส่วนหนึ่ง เวลาขับขี่เป็นระยะเวลานาน ๆ หรือใช้ความเร็วสูง ทำให้อุณหภูมิของยางร้อนขึ้น ก๊าซ และไอน้ำภายในขยายตัว ส่งผลให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ซึ่งถ้าหากความดันลมยางมีค่ามากเกินไป จะทำให้รถมีความกระด้าง และมีอัตราการสึกหรอของยางเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนลมยางแบบไนโตรเจนนั้น เมื่อขับขี่เป็นเวลานาน ๆ จนยางร้อนขึ้นมาแล้ว ความดันลมยางจะยังคงเสถียร (ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก)
อีกทั้งก๊าซไนโตรเจนซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อยนั้น (Inert Gas) จะมีโอกาสเกิดการระเบิดได้ยากกว่า
และเหตุผลนี้แหละครับ ทำให้ลมยางไนโตรเจนนิยมใช้ในรถแข่ง และเครื่องบิน เพราะมีการเสียดสีของยางกับพื้นอย่างหนักหน่วงนั่นเอง
ข้อดีอีกข้อ คือ ลมยางไนโตรเจนรั่วซึมน้อยกว่า
ด้วยโมเลกุลของลมยางไนโตรเจนนั้นควบแน่น และใหญ่กว่าลมยางธรรมดา ทำให้การรั่วซึมภายในยางเกิดขึ้นได้ยากกว่าครับ
ซึ่งโดยปกติแล้วการเติมลมยางธรรมดา อาจจะมีการรั่วซึมออกประมาณ 0.5 PSI ต่อสัปดาห์ และเราจำเป็นต้องตรวจเช็คแรงดันลมยางเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อความปลอดภัยของเราครับ
แต่สำหรับรถที่เติมลมไนโตรเจนนั้น แรงดันลมยางจะรั่วซึมน้อยกว่า และช้ากว่า จึงไม่จำเป็นต้องตรวจเช็คแรงดันลมยางทุกอาทิตย์เหมือนลมยางธรรมดา
แต่ควรตรวจเช็คอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งอัตราการรั่วซึมของยางนั้น มีผลต่อการบริโภคน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
ข้อดีถัดมา คือ ลมยางไนโตรเจนกัดกร่อนเนื้อยางน้อยกว่า
ลมยางธรรมดานั้นมีก๊าซออกซิเจน และไอน้ำเจือปนอยู่ ซึ่งสร้างปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับเนื้อยาง โดยจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเนื้อยาง และอาจทำให้เกิดสนิมในล้อกระทะเหล็กได้อีกด้วย
ส่วนลมยางไนโตรเจนนั้นเป็นก๊าซแห้ง จึงไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับเนื้อยางครับ
ข้อเสียของลมยางไนโตรเจน
ข้อเสียข้อแรก คือ หาเติมยาก และมีค่าใช้จ่าย
แน่นอนว่าลมยางไนโตรเจนนั้น ไม่มีให้เติมฟรี ๆ ตามสถานีบริการน้ำมันอย่างการเติมลมยางธรรมดาอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีบริการเฉพาะศูนย์ล้อ-ยาง และระบบช่วงล่างชั้นนำเท่านั้น อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการเติมประมาณ 100-200 บาท / 4 ล้อ อีกด้วย
ข้อเสียถัดมา คือ จำเป็นต้องปล่อยลมออกทั้งหมดก่อนเติม
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า การเติมลมยางไนโตรเจนนั้นจำเป็นจะต้องปล่อยลมออกทั้งหมดก่อน (ยกเว้นลมยางที่ใช้อยู่เป็นไนโตรเจนอยู่แล้ว) เพราะหากลมยางไนโตรเจนเข้าไปผสมกับลมธรรมดา คุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา อาจจะไม่เหลือประโยชน์อะไรเลย
ดังนั้น การเติมลงยางให้กับล้อรถยนต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นลมยางธรรมดาหรือลมยางไนโตรเจน ก็ควรที่จะเช็คให้ถูกต้อง ไม่เติมผสมกัน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนนะครับ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครได้ที่ www.autostation.com
- 74
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
