26 พ.ค. 2019 เวลา 08:33 • กีฬา
4 ปีกับ 4 สิ่งที่คลอปให้คืนมา
กำลังจะจบฤดูกาลที่ 4 และเป็นฤดูกาลที่ 3 แบบเต็มตัวของคลอปกับลิเวอร์พูล ถึงแม้ถ้วยแชมป์ยังไม่มีมาประดับตู้โชว์ แต่แน่นอนว่าใครๆก็คงรู้ว่าคลอปได้ยกระดับทีมได้มาไกลมากขนาดไหน 4 ข้อสั้นๆ นี้ตอบคำถามได้ชัดเจนว่าเค้าทำอะไรเพื่อทีมมาบ้าง?
1. ปรับทัศนคติผู้เล่นจากคนครึ่งๆกลางๆ กลายเป็นชัดเจนในแนวทางของตัวเอง - เด่นชัดที่สุดในเรื่องนี้ คือ ฟีร์มิโน่ ดาวเด่นจากฮอฟเฟนไฮม์ ที่โดน BR จับเล่นมั่วซั่ว จนกระทั่งเคยเล่นเป็นวิงแบ็คเลยด้วย แต่ในที่สุดคลอปก็ปรับทัศนคติและเจียระไนเค้าให้เป็นยอดกองหน้า False 9 ในอันดับต้นๆของโลกไปแล้ว
ฟีโน่ดาวเด่นจากบุนเดสลีกาคงเละเทะถ้า BR ยังอยู่
2. ให้โอกาสกับนักเตะทุกคนได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเอง - มินนี่ คาริอุส โมเรโน่ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการเปิดโอกาสให้พิสูจน์ตัวเอง แต่ว่าพวกเค้าก็ไม่ได้แสดงคุณค่าที่คุณคู่ควร จนในที่สุดก็กลายเป็นเพียงแค่ตัวสำรองตูดด้าน ต่างกับมาติป เฮนโด มิลเนอร์ ที่กลายเป็นตัวหลัก และยังรวมถึงพวกดาวรุ่งแบบอาโนลด์ โกเมส หรือแม้กระทั่งโนเนมแบบโรเบิร์ตสัน ซึ่งกลุ่มนักเตะเหล่านี้ได้ไต่ระดับตัวเองขึ้นมาในยุคของคลอปได้อย่างเหลือเชื่อทั้งนั้น
โมเรโนคือหนึ่งในคนที่ได้รับโอกาสมากมายแต่ไร้หนทางพัฒนาตัวเอง
3. นักเตะและทีมงานเปี่ยมไปด้วยวินัย - ตั้งแต่ช่วงแรกที่เค้าเข้ามา คลอปก็ได้นำพาวินัยอันเข้มงวดภายใต้รอยยิ้มและบุคลิกที่เป็นกันเองเข้ามาจัดการความเรียบร้อยในทีมได้อย่างเด็ดขาด ยกตัวอย่างเช่น การไม่ให้โอกาสกับบาโลเตลี่กลับมาร่วมทีมเลย เพราะคงรู้อยู่แล้วว่าใต้พรสวรรค์ มันก็มีพรนรกที่คอยบั่นทอนสภาพทีมและตัวนักเตะเองแบบไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง รวมถึงซาโกที่ดูเหมือนจะมีอนาคตในระยะยาว แต่ด้วยการกระทำอะไรซักอย่างที่ไปล้ำเส้นของคลอปเข้า ทำให้เค้าหมดอนาคตไปแบบข้ามคืนอย่างไม่คาดคิด แต่นั่นล่ะครับด้วยความเฮี๊ยบในเรื่องที่สำคัญมันก็ทำให้สภาพทีมดูดีมีอนาคตแบบทุกวันนี้
เกรียนโอ้โดนคลอปตัดไฟแต่ต้นลม เด็ดขาดดี!
4. ค่อยๆแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด - วิธีคิดและการจัดการของคลอปมันคือกลไกสำคัญให้ทีมดูมั่นคงในระยะยาว วันแรกที่เค้าเข้ามา คลอปเลือกที่จะ Utilize สิ่งที่มี เพื่อคัดของดีและแยกของเสียออกซะก่อน จากนั้นปีต่อมาเค้าก็เติมส่วนที่จำเป็น นั่นก็คือนักเตะที่มาช่วยเกมรุก และปีนั้นทีมก็บรรลุเป้าหมายในการได้พื้นที่ UCL ปีต่อมาก็เติมนักเตะให้เหมาะสมกับจำนวนเกมที่มากขึ้น ซึ่งได้ผลทะลุเป้า และจากจุดด้อยในเกมรับที่แก้ไม่หาย ในที่สุดก็แก้ปัญหาด้วย World class player อีก 2 ตำแหน่ง จนกลายเป็นทีมที่แกร่งทั่วแผ่นแบบในปัจจุบัน แม้ตอนนี้ภาพรวมของผู้เล่นตัวจริงจะใกล้เคียงกับคุณภาพของทีมในระดับโลกแล้ว แต่ในเชิงลึกลิเวอร์พูลของคลอปยังต้องเติมขุมกำลังอีกบ้างพอสมควร เพื่อที่จะทำให้เกิดการแข่งขันกันในทีม และทำให้ทีมพร้อมจะเดินหน้าฆ่ามันแบบเรือใบของกวาดิโอล่า
ซง ไดจ์ โม ระดับโลกที่ยกระดับทีมได้ดีมาก
ที่เหลือต่อจากนี้ก็คงเป็นถ้วยแชมป์เท่านั้น ที่คาดว่าคงมาในเร็ววัน ไม่แน่ว่าสุดสัปดาห์หน้า ผลงานที่เป็นรูปธรรมตัวแรกก็อาจจะเกิดขึ้นแล้วก็ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามนาทีนี้หงส์แดงได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การนำของคลอปและคงพร้อมที่จะไล่ล่าความสำเร็จเต็มตัวแบบจริงๆจังซะที!!
โฆษณา