28 พ.ค. 2019 เวลา 01:02 • ปรัชญา
อะไรคือ มูลกรรมฐาน? ที่ท่องกันตอนขอบวช "เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ"
มูลกรรมฐาน เป็นกรรมฐานบทแรกที่กุลบุตรผู้บรรพชาอุปสมบทเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้ว พระอุปัชฌาย์ทุกองค์ต้องบอกแก่ภิกษุผู้บวชใหม่ ให้รู้จักพิจารณาความไม่งามของสังขาร อันได้แก่ "เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ" หรือที่เรียกกันในภาษาชาวบ้านว่า "ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง"
สาเหตุที่พระอุปัชฌาย์ ต้องบอกมูลกรรมฐานนี้ แก่ภิกษุผู้บวชใหม่ ก็เพราะว่า ภิกษุผู้บวชเข้ามาในพระธรรมวินัย จะได้รู้เท่าทันความเป็นจริงของสังขาร ไม่หลงยึดติดไปกับภาพลวงตา อันเกิดขึ้นจากอวิชชา จนมองไม่เห็นความเป็นจริงว่า สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน และมีความเสื่อมสลายไปในที่สุด หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า "ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง" ที่คนทั่วไปหลงไหล ยึดติดว่าเป็นสิ่งสวยงาม เมื่อดูภายนอกก็แลดูดี แต่ถ้าเราดูแลไม่ดี มันก็จะสกปรก และกลายเป็นรังของเชื้อโรค ยกตัวอย่างเช่น "เส้นผม"
https://happylamp.wordpress.com/tag/hair-doctor/
เกสา "เส้นผม" ของคนเรานั้น เมื่อดูภายนอกก็ดูสละสลวย สวยงาม แต่เราหารู้ไม่ว่า ท่ามกลางความสวยงามนั้น เส้นผลกลับเป็นที่รองรับฝุ่นละอองอย่างดี มีเชื้อโรคและแบคทีเรียมากมายมาติดอยู่ เราลองไม่สระผมดูสัก 1 อาทิตย์ เส้นผมที่สวยงามจะแปรสภาพเป็นกองขยะที่เหม็นเน่าไปในทันที
https://www.medicaljournals.se/acta/content/html/10.2340/00015555-2664
โลมา "ขน" นั้น ก็เป็นแหล่งรวมของสิ่งสกปรก เช่นเดียวกับ "เส้นผม" หรืออาจจะมากกว่าเสียอีก เพราะขนมีปริมาณพื้นที่ ที่สามารถรองรับสิ่งสกปรกได้มากและกว้างที่สุด เหงื่อไคลต่างๆ ตามร่างกาย มักจะมาติดอยู่กับเส้นขน หากเราพิจราณาให้ดี ก็จะเห็นถึงความไม่งามของเส้นขน
https://siamrath.co.th/n/29124
นขา "เล็บ" ของคนเรานั้นเหมือนกัน ที่แลดูสวยงาม ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ เราคอยดูแลทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ คอยตัด คอยแต่ง คอยเอาสีมาทาให้สวยงาม แต่ถ้าเราลองไม่ดูแลมันสักพักเดียว เล็บก็จะกลับกลายมาเป็นที่พักพิงของสิ่งสกปรก บรรดาเชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้ามาติดตามซอกเล็บ จนเป็นที่น่ารังเกียจของตนเองและผู้อื่น
facebook.com
ทันตา "ฟัน" ก็เช่นเดียวกัน ที่เรายังยิ้มสวยอยู่ได้ ก็เพราะเราคอยขัด คอยสีอยู่เป็นประจำ แต่ขนาดดูแลมันอย่างดีก็ยังดีเพียงแค่ดู อย่าไปดม เพราะมันเหม็น มันมีทั้งคราบหินปูน คราบจุลินทรีย์ และยังเป็นที่รวมของแบคทีเรียจำนวนมาก ไม่น่าเชื่อว่า พื้นที่แคบๆ ในปากของคนเรานี้ จะมีจำนวนประชากรแบคทีเรียมากกว่ามนุษย์บนโลกเสียอีก
https://www.thairath.co.th/content/238635
ตโจ "ผิวหนัง" ส่วน "ผิวหนัง" ของคนเราที่เห็นว่าสวยงาม นุ่มนวลน่าสัมผัส หากเราเอาแว่นขยายลองส่องดูใกล้ๆ ชัดๆ จะเห็นว่า ผิวหนังของคนเรานั้น มันขรุขระและกระดำกระด่าง อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของโรคผิวหนังต่างๆ มากมาย แต่คนเราก็ยังหลงใหล และยึดติดกับเปลือกนอกนี้ ทั้งๆ ที่ผิวหนังมีไว้เพียงเพื่อห่อหุ้มอวัยวะภายใน ก็แคนั้นเอง หากเรายังเห็นภาพไม่ชัดเจน ลองมาลอกปลอกเปลือกร่างกายอันสวยงามนี้ดูกัน ว่า...ภายในยังจะงดงามอย่างที่เราคิดหรือไม่
เมื่อลอกผิวหนังของคนเราออกมา ทีละชั้น ๆ เราก็จะพบอวัยวะภายใน มีปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ เป็นต้น และเมื่อแยกชิ้นส่วนให้กระจายออกทั้งหมด ก็จะเหลือเพียงโครงกระดูกที่ขาวโพลนเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ คงไม่มีใครคิดว่า โครงกระดูกนี้ช่างสวยงาม น่าหลงใหลอีกต่อไป และเมื่อเรานำอวัยวะทั้งหลายกลับคืนสู่ทีเดิม แล้วเอาหนังหุ้มกลับไปเหมือนเก่า เราก็จะพบว่า ร่างกายนี้เป็นเพียงการประกอบขึ้นของอวัยวะต่างๆ โดยมีผิวหนังห่อหุ้มเอาไว้เท่านั้น ก่อนหน้านี้ ที่เรามองเห็นว่า "ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง" งดงาม ก็เพราะเราไม่รู้จักพิจารณาให้รู้เท่าทันความเป็นจริงของชีวิต จึงทำให้ต้องสูญเสียอิสรภาพของใจ เสียสมดุลของชีวิต เพราะไปหลงยึดติดสิ่งไม่งามนี้เอง
Credit: dmc.TV
เรียบเรียงโดย ปาณิสฺสโร
โฆษณา