หลายๆคนคงจะเคยได้ยินหรือเห็นโฆษณาคำว่า “มีบ้าน มีรถ เงินสด ทันใจ” และ “บริการใกล้ชิด ดุจญาติมิตรที่รู้ใจ” กันมาบ้างแล้ว ซึ่งสองสโลแกนโฆษณานี้ มีเจ้าของคือ SAWAD และ MTC สองบริษัทใหญ่เจ้าพ่อสินเชื่อของไทยนั่นเอง
.
ลักษณะธุรกิจของ SAWAD และ MTC เป็นการปล่อยกู้โดยการพิจารณาจาก “มูลค่าสินทรัพย์” เช่นทะเบียนรถยนต์ ทั้งคู่ วันนี้เราจึงลองมาเปรียบเทียบภาพรวมของทั้งสองบริษัทนี้กัน
.
เริ่มที่ SAWAD หรือบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อภายใต้แบรนด์ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557
.
ปัจจุบันศรีสวัสดิ์มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 61,433.35 ล้านบาท กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปีนี้ 843.5 ล้านบาท มีจำนวนสาขาทั้งหมด 2,870 สาขา โดยมีอัตราส่วนรายได้หลักมาจากดอกเบี้ยของการกู้ยืม 61% รองลงมาเป็นรายได้จากดอกผลเช่าซื้อ 12.11% และรายได้อื่นๆอีก 26.84%
.
MTC หรือบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด(มหาชน) ภายใต้สโลแกนเด่น “บริการใกล้ชิด ดุจญาติมิตรที่รู้ใจ” เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2557 ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ, โฉนดที่ดิน, สินเชื่อส่วนบุคคลและนาโนไฟแนนซ์ ปัจจุบันมีทั้งหมด 3,279 สาขา
.
บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 113,950 ล้านบาท กำไรสุทธิของไตรมาสแรกเท่ากับ 1,005.36 ล้านบาท มีรายได้หลักคือสินเชื่อทะเบียนรถและที่ดินกว่า 77.73% สินเชื่อส่วนบุคคล 13.9% รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ 7.64% และรายได้อื่นๆอีก 0.73%
.
หากมองไปที่ NPL หรือหนี้เสียของ SAWAD ก็อาจจะตกใจกันเล็กน้อย เพราะจะมี NPL ที่สูงเป็นพิเศษ ด้วยภาระที่เพิ่มขึ้นจากการปรับเตรียมรับมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 ที่เพิ่มการกำหนดอัตราการตั้งสำรองหนี้เผื่อสูญที่มากขึ้น
.
การเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในปีนี้ของ SAWAD คือการประกาศเพิ่มทุนของ BFIT ที่ SAWAD ถือหุ้นอยู่ 45.34% ตรงนี้ต้องรอดูการตัดสินใจว่า SAWAD จะเพิ่มทุนและทำการ tender หรือไม่ในอนาคต
.
ทางด้าน MTC ซึ่งมีกลยุทธ์การเติบโตแบบ agressive ตรงกันข้ามกันกับ SAWAD อย่างชัดเจน ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นจะร่วงสวนทางกับกำไรที่โตมากขึ้นแต่ MTC ก็ยังมั่นใจและยังคงเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง
.
👉 ด้านราคาหุ้น