30 พ.ค. 2019 เวลา 16:05 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อเลิกบ่น ผมมั่นใจและการันตีชีวิตของคุณผู้อ่านได้เลยว่า
“ดีขึ้นอย่างแน่นอน”
ผมเลยอยากจะมาแชร์ว่าตั้งแต่ผมเริ่มทำภารกิจนี้ คือ “ภารกิจเลิกบ่น” ว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง
และนี่เป็นสิ่งที่ผมได้หลังจากการ ’เลิกบ่น’ เรื่องราวในชีวิตต่างๆ ให้กับคนอื่นและตัวเอง
1. มีความรู้สึกไวต่อสิ่งลบๆช้าลง และสามารถเปลี่ยนมุมมองให้มองจากลบให้กลายเป็นบวกได้ไวขึ้น เพื่อที่จะไม่เสียเวลากับการหมกมุ่นในเรื่องนั้น
1
2. โกรธคนอื่นน้อยลง ควบคุมอารมณ์ในส่วนโกรธได้ไวมากขึ้น สามารถทราบและรู้สึกตัวได้ไวขึ้น ว่าตอนนี้ ‘เรากำลังโกรธนะ’ เลยพูดกับตัวเองในใจว่า “กุ้กๆ!” ดังๆ แล้วก็ลืมมันไป(ซึ่งส่วนนี้เอง ผู้อ่านลองทำดูก็ได้นะครับ แป้ปเดียวหายโกรธ แล้วเราจะลืมว่า อ้าว เรากำลังจะโกรธ 555555 ไร้สาระแต่ผมว่าเวิค)
3
3. มีสมาธิมากขึ้น ไม่ลน ไม่ร้อน เมื่อรู้สึกว่าอะไรหลายอย่างกำลังถาโถมเข้ามา พูดง่ายกว่านั้นก็คือ รู้สึกว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถควบคุมมันได้ ไม่ใช่ให้มันควบคุมเรา”
2
4. ยิ้มมากขึ้น เพราะเลือกที่จะยิ้มแทนการบ่น ใบหน้าเลยยิ้มแย้มแจ่มใส
1
5. คนเข้าหามากขึ้น เพราะตั้งแต่เลิกบ่น ก็สามารถยิ้มได้มากขึ้น คนอื่นเลยคิดว่าเราแฮปปี้ ก็เลยอยากเข้ามาหาเรา และแฮปปี้ไปด้วย
6. ความคิดดีขึ้น เพราะการบ่นคือการพูดแต่สิ่งไม่ดี พอพูดในสิ่งที่ไม่ดี ก็จะเข้าหูเรา หูเราไปสมอง สมองส่งออกมาเป็นความคิด สุดท้าย “ความคิดไม่ดี”
2
ฉะนั้นตัดปัญหาด้วยวิธีการ “เลิกบ่น”
จริงๆผมรู้สึกว่าประโยชน์มันมีเยอะกว่านี้นะครับ
แต่ผมยังคงมองไม่ออกว่ามีอะไรเติมจากนี้บ้าง
ถ้าผู้อ่านอยากเริ่มลองทำ “ภารกิจ” นี้ดู ลองหาหนังยางมาสักเส้น เอาใส่ไว้ที่ข้อมือสักข้าง
พอรู้สึกว่าอยากจะบ่น ให้ดีดหนังยางใส่ตัวเอง “ดีดแรงๆให้รู้สึกเลย” แล้วสมองมันจะจำแล้วบอกกับเราว่า
“เลิกบ่นซะ เดี๋ยวก็เจ็บอีกหรอก”
ภารกิจนี้จะกินระยะเวลาประมาณ 21 วัน
ลองทำดูครับ
วิธีนี้ผมได้มาจากหนังสือ “หนังยางล้างใจ” และก็อีกเล่มคือ “ชีวิตดีขึ้น เมื่อเลิกบ่น”
ถ้าใครอยากจะอ่านเพิ่มเติม ก็ไปหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปเลยครับ
มาที่มุมมองผู้อ่านกันบ้าง
เวลาที่คุณผู้อ่านรู้สึกว่าตัวเองอยากที่จะ “บ่น”
ผู้อ่านมีวิธีรับมือกับมันยังไงกันบ้างเหรอครับ
มาลองแชร์กันได้ที่ใต้คอมเม้นต์ได้เลยนะครับ
ขอบคุณครับ
#สรุปของฉันในวันนี้
Pic from Over application
โฆษณา