31 พ.ค. 2019 เวลา 08:45 • ประวัติศาสตร์
สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ผู้เปลี่ยนโลกด้วยแอ๊ปเปิ้ล ตอนที่ 11
Apple เปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงของโลก
พฤษภาคม ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) Apple ได้เปิด Apple Store เป็นครั้งแรกที่เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา
Apple Store ก็ไม่ต่างอะไรกับคอมพิวเตอร์ของ Apple สตีฟให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างละเอียด ทั้งพื้น ชั้นวางของ และทั้งร้านก็เต็มไปด้วยกระจกใส
สตีฟได้ทำให้ Apple ขึ้นเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลกได้สำเร็จ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ ผู้คนไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้ในการผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลงอีกด้วย
1
ในยุค 90 คนส่วนมากฟังเพลงจากแผ่นซีดี แต่สตีฟเกิดปิ๊งไอเดียใหม่ๆ
สตีฟได้ซื้อโปรแกรมที่สามารถเอาเพลงออกจากแผ่นซีดีและเก็บเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์
ไฟล์นี้คือ “MP3”
สตีฟตั้งชื่อโปรแกรมนี้ว่า “iTunes”
ในเวลานั้น บริษัทอื่นๆ ก็ได้มีการผลิตเครื่องเล่น MP3 ออกมามากมาย และสตีฟก็คิดว่า Apple ก็ต้องผลิตเครื่องเล่น MP3 ออกมาเช่นกัน
ตุลาคม ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544)ในงานแถลงข่าวที่แคลิฟอร์เนีย สตีฟได้ล้วงเข้าไปในกระเป๋าและหยิบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งออกมา อุปกรณ์ชิ้นนั้นมีขนาดเล็ก
“นี่คือ iPod” คือคำกล่าวของสตีฟ
ในช่วงแรก iPod ใช้ได้แค่กับ Mac เท่านั้น แต่ในปีค.ศ.2002 (พ.ศ.2545) สตีฟก็ได้จัดการให้ iPod ใช้กับ Microsoft Window ได้
พอเรื่องเป็นอย่างนี้ ยอดขายของ iPod จึงพุ่งทะลุเพดาน
แต่ถึง iPod จะขายดีมาก แต่ผู้คนในอุตสาหกรรมดนตรีนั้นกลับไม่ค่อยปลื้มเท่าไร
คนส่วนมากสามารถแบ่งปันไฟล์ MP3 กันได้ เพียงแค่ซื้อซีดีมาแผ่นเดียว แล้วก็แบ่งปันไฟล์เพลงให้คนอื่นๆ ได้
ผู้คนในธุรกิจเพลงต่างคิดกันไม่ออกว่าจะทำเงินได้อย่างไร ในเมื่อสามารถแบ่งปันเพลงกันได้อย่างนี้ ไม่มีใครคิดออก ยกเว้นสตีฟ
3
สตีฟมาคิดว่า หากผู้คนสามารถซื้อเพลงได้ในราคาถูกและสะดวกสบายอย่างนี้ หากจะคิดเงินซักนิดคงไม่เป็นไร
ค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) Apple ได้เปิด iTunes Music Store
iTunes Music Store ไม่ใช่ร้านขายซีดีเพลง แต่เป็นโปรแกรมซื้อขายเพลง ซึ่งสตีฟได้ใช้พรสวรรค์ในการโน้มน้าวคนของเขา โน้มน้าวให้บริษัทเพลงหลายแห่งยอมขายเพลงใน iTunes ในราคาเพลงละ 99 เซ็นต์
เพียงแค่เปิดวันแรก Itunes Music Store สามารถขายเพลงได้กว่า 275,000 เพลง
ในไม่ช้าทุกคนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการไปซื้อซีดีที่ร้านขายซีดี เปลี่ยนเป็นซื้อเพลงผ่าน iTunes
ใกล้จบซีรีย์นี้แล้วนะครับ จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามตอนต่อไปนะครับ
โฆษณา