1 มิ.ย. 2019 เวลา 11:10 • การศึกษา
วันนี้แอดจะมาแนะนำหนังสือนวนิยายเชอร์ล็อค โฮล์มส์ของแพรวสำนักพิมพ์ เป็นชุดที่น่าอ่านมากๆครับ
เล่มที่1 ตอนแรงพยาบาท (A Study in scarlet)
เนื้อหาเริ่มต้นเป็นการพบและรู้จักกันเป็นครั้งแรกของโฮล์มส์ และหมอวัตสันตัวเอกของเรื่อง หมอวัตสันได้พบว่าโฮล์มส์เป็นนักสืบที่ปรึกษา ทำงานร่วมกับตำรวจนักสืบเพื่อช่วยงานราชการ และขณะเดียวกันก็รับจ้างบุคคลอื่นๆสืบสวนเรื่องต่างๆด้วย
ด้วยความรอบรู้ในหลายๆด้าน ความสามารถ ความคิด และการทำงานของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ ที่แปลกแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ทำให้หมอวัตสันต้องแปลกใจ และประทับใจจนทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนรักกันในไม่ช้า
เล่มที่2 ตอนจัตวาลักษณ์ (The Sign of Four)
คราวนี้เป็นคดีที่มีสาเหตุมาจากการทรยศหักหลัง สมบัติที่ถูกขโมย คำมั่นสัญญาลับของอดีตนักโทษสี่คน และประวัติศาสตร์การเมืองของอินเดีย ซึ่งผู้เขียนเขียนจากมุมมองของชาวอังกฤษในยุคนั้น ที่อาจผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงอยู่บ้าง
เมื่อกล่าวเฉพาะเนื้อหาโดยรวมและการเดินเรื่องที่โฮล์มส์ ได้ทำการสืบสวนและวางอุบายเพื่อจับตัวคนร้าย เป็นปริศนาซ้อนปริศนาที่มีโฮล์มส์เท่านั้นที่สามารถคลี่คลายได้
1
เล่มที่3 ตอนหมาผลาญตระกูล
(The Hound of the Baskervilles)
เรื่องนี้ตัวละครได้ออกไปผจญภัยนอกเมือง ในสถานที่ที่เป็นทุ่งหญ้า เมื่อเซอร์ชาร์ลส์ บาสเกอร์วิลล์ ถูกพบเสียชีวิตในสวนบริเวณคฤหาสน์ของเขา ในสภาพที่ดูเหมือนหัวใจวาย แต่เพื่อนสนิทเชื่อว่าเป็นฝีมือของสัตว์ที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ ซึ่งตามล้างผลาญคนในตระกูลนี้ เรื่องถึงเชอร์ล็อค โฮล์มส์ที่ถูกตามตัวมาไขปริศนาลึกลับนี้
เล่มที่4 ตอนหุบเขาแห่งภัย (The Valley of Fear)
หุบเขาแห่งภัย แสดงความโหดร้ายขององค์กรฆาตกรรม ความหวาดกลัวของประชาชนคนธรรมดา หรือชาวบ้านผู้ยากไร้ที่ต้องอดทนใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว ความอยุติธรรมที่ชาวบ้านทั่วไปต้องกล้ำกลืนฝืนรับ และท้ายสุดอิสรภาพของพวกเขาที่ไม่มีพวกที่คอยกดขี่ข่มเหงเหล่านั้น
เซอร์อาเทอร์ โคแนน ดอยล์ ทำให้เราเห็นด้านมืดของมนุษย์ได้ชัดเจน นับเป็นเรื่องที่น่าติดตามอีกเรื่องหนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบหนังสือชุดเชอร์ล็อค โฮล์มส์ เพราะความสามารถพิเศษของโฮล์มส์นั้นน่าทึ่งเสมอ
เล่มที่5 ชุดการผจญภัย
(The Adventures of Sherlock Holmes)
การผจญภัยของโฮล์มส์ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากรู้สึกตรึงใจ ดังนั้นถ้าคุณอยากฆ่าเวลา หรืออยากเผชิญความท้าทายในการช่วยแก้ปัญหาที่ยังหาคนแก้ไม่ได้ ซ้ำยังได้รู้เรื่องราวอีกด้านหนึ่งของโลกสมัยวิกตอเรียด้วย หนังสือเล่มนี้เหมาะมากครับ
เล่มที่6 ชุดจดหมายเหตุ
(The Memoirs of Sherlock Holmes)
เป็นเรื่องสั้นที่มีประเด็นของคดีแปลกพิศดารน่าติดตามในแบบของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ และเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวพี่ชายของเขาให้เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นในคดีสุดท้ายยังเปิดเผยความลับของโฮล์มส์ที่มีกับศัตรูตัวฉกาจของเขาด้วย
เล่มที่7 ชุดคืนชีพ (The Return of Sherlock Holmes)
เป็นหนังสือรวมเรื่องของเชอร์ล็อค โฮล์มส์เล่มแรก หลังจากเหตุการณ์การตายหรือหายตัวไปของเขาในปัจฉิมปัญหา เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายในตอนจดหมายเหตุ
เมื่อเรื่องสั้นเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์ออกมา ผู้อ่านหลายคนมีความเห็นว่า โคแนน ดอยล์ เขียนเรื่องเหล่านี้ขึ้นเพียงเพื่อต้องการเอาใจผู้อ่านที่เรียกร้องให้เชอร์ล็อค โฮล์มส์กลับมา ไม่ใช่เป็นเพราะเขาอยากเขียนขึ้นเองเพื่อให้ตัวละครเอกตัวนี้มีชีวิตในโลกหนังสืออีก เนื้อหาบางเรื่องจึงอาจอ่อนด้อยไปบ้าง แต่ในขณะเดียวกันผู้อ่านอีกหลายคนก็ยังคงประทับใจในเรื่องราวเหล่านี้ และพร้อมจะใช้ความคิดติดตามแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆกับโฮล์มส์และวัตสัน
เล่มที่8 ชุดลาโรง (His Last Bow)
โฮล์มส์และวัตสัน จะได้พบกับคดีที่แปลกและท้าทาย
ทั้งเรื่องการปล่อยข่าวที่น่าตกใจ การลักพาตัว การขโมย การทรยศหักหลัง ฯลฯ แต่ไม่ว่าอย่างไรเชอร์ล็อค โฮล์มส์ก็สามารถคลี่คลายปัญหาด้วยสติปัญญาแบบไม่เหมือนใคร
แม้โคแนน ดอยล์ จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้ผ่านช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดในงานเขียน ชุดเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ของเขาไปแล้ว แต่หลายคนเห็นว่าเรื่องราวต่างๆในหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานที่ดีมากอีกชุดหนึ่ง จึงหวังว่าผู้อ่านจะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินไม่แพ้เรื่องในชุดอื่นๆที่ผ่านมา
เล่มที่9 ชุดบันทึกคดี
(The Case-Book of Sherlock Holmes)
แม้ว่าความลึกลับซับซ้อนของคดีจะไม่มีความแยบยลเท่าเรื่องเอกๆ ของ โฮล์มส์ ในอดีต แต่ก็ยังมีความโดดเด่นตามมาตรฐาน ซ้ำยังแสดงให้เห็นภาพของความชั่วร้ายที่เหมือนชีวิตจริงยิ่งกว่า นักอ่านที่ไม่ชอบเรื่องสืบสวนสอบสวน ก็ยังสามารถอ่านได้อย่างสนุก
เล่มที่10 ตอนเรื่องส่วนตัวของเชอร์ล็อค โฮล์มส์
(The Private Life of Sherlock Holmes)
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนเดียวในชีวิตของเขา ที่หมอวัตสันไม่กล้าเปิดเผยให้ใครรู้ จนกระทั่งหลานชายของหมอวัตสันเองได้นำเอาบันทึกมาเปิดเผย หลังจากที่หมอวัตสันได้เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งในเรื่องนี้ยังมีการไขปริศนาของสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อคเนสอีกด้วย
เล่มที่11 ตอนผจญมัจจุราช
(The Seven-Per-Cent Solution)
เนื้อหาเป็นเรื่องที่นำเอานิสัยในการเสพติดโคเคนของโฮล์มส์ มาขยายให้ลึกซึ้งมากขึ้น โดยให้หมอวัตสัน กับไมครอฟต์ พี่ชายของโฮล์มส์ ทำอุบายพาโฮล์มส์ไปรับการบำบัดรักษาอาการเสพติดโคเคน โดยความช่วยเหลือของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ นายแพทย์ชาวออสเตรีย ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ นับเป็นความพยายามที่จะทำให้ตัวละครในนวนิยายเป็นเหมือนบุคคลที่มีชีวิตจริง โดยการนำตัวละครไปเกี่ยวโยงกับบุคคลที่มีตัวตนจริง และมีชีวิตร่วมสมัยกับโฮล์มส์เข้ามามีบทบาทด้วย ทั้งยังสร้างเหตุการณ์น่าระทึกใจ ให้บุคคลทั้งสามเข้าไปมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสงครามยุโรปไปพร้อมกัน
เล่มที่12 ตอนพิชิตโรคระบาดมหาภัย
(The West end Horror)
คราวนี้ผู้เขียนกำหนดให้ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ได้เข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมจากโรคร้าย ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันอยู่ในย่านเวสต์เอนด์ ซึ่งเป็นย่านการละครสำคัญของลอนดอนช่วงยุคเฟื่องฟู อันเป็นราวปลายศตวรรษที่ 19 แน่นอนว่าเมื่อโฮล์มส์ได้พบคดีอันน่าฉงน เขาย่อมไม่ถอนตัวออกไปกลางคัน บุคคลจริงผู้มีชื่อเสียงของวงการละคร ที่ได้รับการนำเข้ามามีบทบาทในนวนิยายตอนนี้มีหลายคนด้วยกัน แม้กระทั่งตัว เซอร์อาร์เทอร์ โคแนน ดอยล์ เองก็ยังถูกเอ่ยถึง
เล่มที่13 ชุดพิเศษ
(The Exploits of Sherlock Holmes)
เป็นเรื่องสั้น 12 เรื่องที่เขียนโดย อาเดรียน โคแนน ดอยล์
บุตรชายคนเล็กของเซอร์อาร์เทอร์ โคแนน ดอยล์ ร่วมกับ จอห์น ดิกสัน คาร์ นักเขียนเรื่องสืบสวนสอบสวนชาวอเมริกัน ประกอบด้วยคดีของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ อีก 12 เรื่อง
นับได้ว่าเป็นหนังสือเชอร์ล็อค โฮล์มส์ ในยุคหลังเซอร์อาเทอร์ โคแนน ดอยล์ ที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งทีเดียว ตัวละครต่างๆมีลักษณะใกล้เคียงกับเรื่องที่ผู้แต่งเดิมเขียนขึ้นเอง ผู้เขียนทั้งสองคนไม่ได้พยายามแสดงตัวว่ามีความสามารถเหนือกว่าผู้แต่งเดิม
เรื่องราวทั้ง 12 เรื่องมีคุณภาพแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่เป็นเรื่องน่าติดตามมีเหตุการณ์ที่ลึกลับน่าตื่นเต้น เหตุการณ์ที่ชวนขัน เรื่องของการใช้เล่ห์อุบายแบบต่างๆ ทุกเรื่องคลี่คลายและปิดฉากอย่างรวดเร็วทันใจตามแบบเรื่องสั้น และเมื่ออ่านถึงหน้าสุดท้าย น่าจะทำให้ผู้อ่านหลายคนต้องนึกเสียดายที่เรื่องราวของ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ และหมอวัตสันได้จบลงเสียแล้ว
หลังจากอ่านจบแอดก็เสียดายจริงๆที่ไม่มีการเขียนต่อ แต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจที่ยังมีการสร้างภาพยนต์ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเชอร์ล็อค โฮล์มส์สามารถมอบความสุขให้เราได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ
โฆษณา