1 มิ.ย. 2019 เวลา 05:19 • ความคิดเห็น
เรื่องเล่าของชาว 80's
เรื่องเล่าที่ถ่ายทอดลงใน blockdit อาจเป็นมูลเหตุให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในโลกของนักเล่าเรื่องแห่งนี้สงสัยว่า "แอดเพจนี้เกิดมานานหรือยัง" หรือคืออยากรู้ว่าแก่รึเปล่านั่นเอง
ซึ่งจริงๆ คงมีคนอายุมากกว่าผมที่โลดโผนใน blockdit แห่งนี้เช่นกัน แต่ท่านเหล่านั้นอาจจะไม่ค่อยเผยตัว อาจจะด้วยพวกเราอายุอานามก็เกินครึ่งชีวิตไปแล้วแล้วเล็กๆ การจะออกตัวว่าแก่ก็ดูจะทำร้ายตัวเองมากไป
ผมไม่ได้แก่ แค่เกิดมาดูโลกนานไปนิด พอจะทันเห็นเหตุการณ์แปลกๆ หรือมีชีวิตในยุคที่ไม่ได้สะดวกสบายอย่างทุกวันนี้ อย่าคิดว่าประเทศเราไม่เจริญ เราเจริญก้าวหน้าไปไวมากๆ อย่างน้อยก็เรื่อง "ส้วม" ที่สมัยนี้หาบ้านที่มีส้วมหลุมคงยากเต็มที แต่ผมก็ทันใช้ของที่บ้านนะ จะบอกให้!
ผมเกิดในยุคที่....
~เด็กๆใช้เม็ดข้าวเหนียวแทนกาว
~ต้มกาวแป้งเปียกใช้เอง สองวันก็บูด
~ใช้น้ำลายและหนังยางแทนยางลบ
~ใช้แก้วใส่น้ำอัดลมขัดพื้นห้องเรียน
~ต้มเทียนใส่น้ำมันก๊าดทำ wax ใช้เอง
~ทันยุคเด็กกิน"ตัวดูดน้ำ"แล้วเสียชีวิต
~การแพทย์ยังไม่ก้าวหน้า "หมอน้อย" ยังต้มยาแจก คนมารักษาเป็นร้อยๆ
~แม่ชม้อย ติดคุกพันปี
~ทำว่าวเอง พร้อมทำสายป่านชุบเศษแก้ว
~ทำดินระเบิดแบบบ้านๆเองหลังห้องครัว
~เหรียญบาทที่ใหญ่เท่าเหรียญสิบบาทในตอนนี้
~ปักชื่อบนเสื้อนักเรียนเองด้วยสะดึง
~ของเล่นสุดเท่ห์ต้องที่แถมกับรองเท้าและชุดนักเรียน
~ก๊วยเตี๋ยวชามละ สองบาท
~รีโมตทีวีคือด้ามไม้กวาด
~พรีเซนเตอร์ลูกอมคือ ดาราเรื่อง "ขวานฟ้าหน้าดำ"
~เบอร์โทรศัพท์บ้านขอยากเย็นกว่าสัมปทานน้ำมัน
~มีโทรศัพท์ต้องมีสมุดหน้าเหลืองที่เล่มเขื่องกว่า textbook
~โทรศัพท์ยังเป็นแบบใช้นิ้วหมุนตามช่องตัวเลข
~ดอกเบี้ยออมทรัพย์ 12%
~ทำใยแมงมุมจากเปลือกส้มกับไม้บรรทัด
~เห็ดหูหนูขาวคือของหายากแพงแสนแพง
~โรตีสายไหมขายกันแบบหยอดเหรียญเสี่ยงตัวเลข
~โทรเลข คือ การสื่อสารที่ไวที่สุด
~แผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ทเป็นของนิยมสำหรับฟังดนตรี
สมัยนี้เรื่องเหล่านี้คงเป็นเรื่องล้าสมัย หรือบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ ช่วงเวลาเพียงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มี internet ทุกอย่างเปลี่ยนไปไวเหลือเกิน อาจจะเพราะเราเข้าถึงข้อมูลได้ไวเพียงเสี้ยววินาที ในขณะที่อดีตข่าวจากคนไกลอาจจะต้องอาศัยจดหมายที่เดินทางราวสัปดาห์กว่าจะถึงมือ
โลกอดีตจึงต่างจากปัจจุบันมากมาย หลายๆ อย่างเปลี่ยนไปตามยุค ครอบครัวขยายกลายเป็นครอบครัวเดี่ยว บ้านเดี่ยวกลายเป็นคอนโด เพื่อนบ้านกลายเป็นคนแปลกหน้า สามล้อถีบกลายเป็น uber อาหารไทยกลายเป็นข้าวปั้น เส้นใหญ่กลายเป็นโซบะ มะระผักกาดกลายเป็นผักเม็ด ผลไม้คัดส่งนอกคนไทยกินของตกเกรด ชีวิตเรียบง่ายกลายเป็น slow life
ชีวิตที่ทันสมัยกลายเป็นอันตรายที่มาเงียบๆ ทั้งโรคที่มากมายกลายพันธ์ุได้ง่ายๆ ย้ายมากับเรือบิน โรคสาระพัดที่เกิดจากชีวิตที่สบายหรืออยู่กับที่จนเกินไปก็ยังมี สมัยก่อนใครจะรู้จัก burn-out syndrome หรือชีวิตชาวบ้าน อะไรคือ mid-life crisis คงจะงงกันตาแตกว่ามันคืออะไรคำศัพท์พวกนี้
ชีวิตที่เครียดมากขึ้นเพราะความต้องการที่มากขึ้น เร็วขึ้น และเปรียบเทียบมากขึ้น แต่อยากมีชีวิตที่เชื่องช้า จะว่าไปเกิดเป็นคนยุคนี้อาจจะยากกว่าอดีต
เด็กๆ ต้องเรียนพิเศษตั้งแต่อนุบาล
โตมาหน่อยต้องเข้าโรงเรียนดีๆ
พูดให้ได้หลายๆ ภาษา
เข้ามหาลัยเรียนคณะดีๆ จะมีภาษีขึ้นอีกถ้าจบโท
งานต้องดี เงินดี มีชีวิตติดกระแส
กินคลีน ฟิตเนส วิ่ง ปั่น เข้าสวนสาธารณะ
เข้าวัดฟังธรรมะ นั่งสมาธิ
ลาออกจากงานไวๆ
ใช้ชีวิตอิสระ
มี passive income
ดูแล้วต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนรุ่นเก่ามากโขทีเดียว ยิ่งเขียนไปก็ยิ่งรู้สึกว่าเกิดมานานก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว ออกจะเห็นใจคนรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังเติบโต เพราะโลกมันหมุนไว การค้นหาตัวตนจึงไม่ง่าย เพราะทุกอย่างเปลี่ยนได้ทุกเสี้ยววินาที
ป้ายเตือน!! คนแก่ 5555
เพราะฉะนั้น ผมถือว่า "คนแก่" ก็เป็นคำเรียกขานที่ไม่ได้น่าน้อยใจแต่อย่างใด
ออกจะภูมิใจเล็กๆ ที่ได้เห็นโลกในยุคที่เปลี่ยนแปลงไวสุดขีด และกำลังเฝ้ามองว่ามันกำลังหมุนไปในทิศทางใดอย่างใจจดจ่อ
#แด่คนหนุ่มทุกคน จากใจคนเริ่มแก่คนหนึ่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา