2 มิ.ย. 2019 เวลา 03:16 • ประวัติศาสตร์
สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ผู้เปลี่ยนโลกด้วยแอ๊ปเปิ้ล ตอนที่ 13
บทสุดท้าย
สตีฟนั้นรักในการบริหาร Apple แต่ในปีค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) เขาก็เริ่มจะหยุดพัก ทุกคนรู้ว่ามะเร็งเริ่มจะกลับมาแล้ว
สตีฟได้เริ่มติดต่อนักเขียนชื่อ “วอลเตอร์ ไอแซคสัน (Walter Isaacson)” เพื่อขอให้ไอแซคสันเขียนชีวประวัติของเขา
วอลเตอร์ ไอแซคสัน (Walter Isaacson)
โดยปกติแล้วสตีฟมักจะไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องส่วนตัวและเป็นคนที่ค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัว แต่สตีฟกลับอยากให้เผยแพร่ชีวประวัติของเขา ราวกับเขาจะรู้ตัวว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มาก
1
เดือนเมษายน ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) สตีฟได้เข้ารับการปลูกถ่ายตับ ซึ่งก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด สตีฟได้บ่นว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้นดูน่าเกลียดมาก
4
อีกไม่กี่เดือนต่อมา สตีฟได้กลับมาทำงานอีกครั้งพร้อมอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนโลกแห่งเทคโนโลยีตัวใหม่
ค.ศ.2010 (พ.ศ.2553) สตีฟเปิดตัว iPad
iPad เป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่มีขนาดใหญ่กว่าหน้าจอ iPhone ทำให้อ่านข้อมูลได้ง่าย รวมถึงเล่นเกมส์ เช็คอีเมล์
เพียงแค่เปิดตัว Apple สามารถขาย iPad ได้ 300,000 เครื่องในเวลาแค่หนึ่งวัน
ค.ศ.1997 (พ.ศ.2540) Apple เป็นบริษัทที่จวนจะล้มละลาย แต่ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) สตีฟได้เปลี่ยนให้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
สิงหาคม ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) สตีฟก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ ในเวลานี้เขาป่วยหนัก ไม่สามารถทำงานหนักได้อีกต่อไป
3
สตีฟใช้เวลาอยู่บ้านกับลอรีนและลูกๆ โดยมีเพื่อนเก่าๆ ต่างแวะเวียนมาเยี่ยมสตีฟ หนึ่งในนั้นคือ “บิลล์ เกตส์ (Bill Gates)”
1
ทั้งคู่พูดคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ สตีฟบอกเกตส์ว่าเขารู้สึกขอบคุณลอรีนที่ทำให้เขายังคงสติดีเหมือนคนปกติอยู่บ้าง ซึ่งเกตส์ก็ตอบว่าเมลินดา ภรรยาของเขาเองก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน
1
สตีฟยังคงมีอาการไม่ดีและทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) สตีฟได้นอนอยู่ท่ามกลางครอบครัวซึ่งเฝ้าข้างเตียง คำพูดสุดท้ายของเขาคือ
“โอ้ว้าว โอ้ว้าว โอ้ว้าว”
1
5 ตุลาคม ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) สตีฟ จ๊อบส์เสียชีวิต
ผู้คนทั่วโลกรับรู้ข่าวนี้ด้วยความเศร้าโศก
Apple Store ทั่วโลกเต็มไปด้วยโน้ตที่ผู้คนนำมาแปะบนผนัง แสดงความไว้อาลัยสตีฟ
ผู้คนจำนวนมากวางลูกแอ๊ปเปิ้ลที่มีรอยถูกกัดทิ้งไว้บนพื้นเพื่อแสดงความอาลัย รวมทั้งมีการวางเทียนเป็นรูปแอ๊ปเปิ้ลบนทางเดิน
หลายคนรู้สึกว่าสตีฟได้เปลี่ยนแปลงโลกแห่งเทคโนโลยี เขาไม่ใช่คนที่คิดค้นคอมพิวเตอร์ เมาส์ หรือเครื่องเล่น MP3
ต่อให้ไม่มีเขา เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี
แต่สิ่งที่เขาทำ คือเขานำเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านั้นมาปรับให้เข้ากับชีวิตของผู้คน ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและสนุกขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน
บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) เพื่อนเก่าและคู่แข่งตลอดกาลของสตีฟได้กล่าวไว้อาลัยสตีฟ ความว่า “สำหรับพวกเราที่โชคดีพอที่ได้ร่วมทำงานกับเขา รู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ”
1
จบลงสำหรับซีรีย์ชุดนี้แล้วนะครับ ซีรีย์ชุดต่อไป “งานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน (The Boston tea party) น้ำชาสร้างอเมริกา” จะออกตอนแรกในวันพรุ่งนี้แน่นอนครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ
โฆษณา