วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เงินที่มีอยู่นั้นไร้ค่าทันที...
ทุกคนคงทราบดีว่าเงินตราเป็นแค่ตัวกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ทำให้เงินตราที่มันเป็นแค่เพียงกระดาษนั้นมีค่าขึ้นมาได้นั้นมันประกอบด้วย4ส่วนสำคัญได้แก่
1.ความน่าเชื่อถือ (Trust) ของประเทศที่เป็นเจ้าของเงินตราทั้งด้าน เศรษฐกิจ,สังคม,การเมือง
2.อุปสงค์/อุปทาน (Demand/Supply) ของค่าเงิน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
3.เสถียรภาพ (Stability) เพราะถ้ามีความเสถียรภาพน้อยราคาสินค้าในตลาดจะแกว่งทันที
4.ความกระจัดกระจาย(Spread) ถ้าหากเงินทั้งหมดไปอยู่ในมือของคนไม่กี่คน ลองคิดดูว่า ความน่าเชื่อถือ,อุปสงค์/อุปทาน และเสถียรภาพ จะยังคงมีอยู่ไหม?
ซึ่ง4ส่วนสำคัญนี้จะคอยขับเคลื่อนค่าเงินตราของประเทศนั้นๆ แต่ว่าวันนี้ผมจะมาขอพูดฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเงินตรา นั่นก็คือ “ความกระจัดกระจาย(Spread)”
ทุกคนลองนึกภาพตามนะครับ เงินตรามันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งหรือตัวเลขที่อยู่บนสมุดเงินฝากธนาคาร มันสามารถกลืนลงไปแล้วทำให้ท้องอิ่มได้ไหมครับ? คำตอบก็คือไม่ได้ ซึ่งเงินเป็นแค่สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ที่ทำให้เราสามารถนำมันไปแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือการให้บริการอื่นๆต่อไปได้ในปัจจุบันและอนาคต
แล้วถ้าหากเงินทั้งหมดที่มีนั้นมันไปตกอยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่คนละครับ คำตอบก็คือมันก็ไม่มีค่าอะไรนะสิ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เงินนั้นยังมีค่าอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันได้นั้น เป็นเพราะเงินนั้นถูกกระจายออกไปในทุกกระเป๋าของคนทุกคน ซึ่งจะมากจะน้อยนั้นมันเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำของชนชั้นสังคมครับ เรียกได้ว่าความกระจัดกระจายของเงินนั้นมันเหมือนน้ำที่ค่อยๆรดลงบนต้นไม้ไม่ให้ตายลง ซึ่งต้นไม้ก็เปรียบเสมือนระบบเศรษฐกิจทุนนิยม
แต่ถ้าเงินทั้งหมดส่วนใหญ่นั้นมันไปตกอยู่กับคนเพียงไม่กี่คนบนโลกใบนี้ มันจะส่งผลให้ความน่าเชื่อถือเงินนั้นหมดลง ซึ่งจะทำให้ไม่เป็นที่ต้องการของคนทั่วไปมันจะกระทบกับกลไกอุปสงค์/อุปทานของค่าเงิน พอไม่มีอุปสงค์จากคนทั่วไปและมีแต่อุปทานของคนที่มีเงินอยู่ในมือเพียงไม่กี่คน ก็กระทบเรื่องของเสถียรภาพของค่าเงิน ทำให้เงินที่มีอยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่คนนั้นก็ไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น สุดท้ายก็ต้องโปรยทิ้ง
ในความคิดของผมนั้น ฟันเฟืองสำคัญที่สุดในการทำให้เงินตรานั้นมีค่าคือ เงินที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นจะต้องถูกกระจัดกระจายออกไปอย่างทั่วถึงทุกคน อย่าไปกระจุกอยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่คน ไม่แน่สุดท้ายคนทุกคนอาจจะพึ่งสิ่งสุดท้ายในการดำรงค์ชีวิตให้อยู่รอดต่อไปได้ ก็คือปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ซึ่งมันก็อาจจะเป็นจุดจบของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม และต้นไม้ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมต้นใหม่ ก็จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งนึง ซึ่งจะเป็นวัฏจักรแบบนี้ไปแบบไม่มีวันจบสิ้น
ปล.อันนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และการคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองในการอ่านด้วยนะครับ
ถ้าที่ถูกใจบทความนี้อย่าลืมกดLike เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ หรือถ้าอยากบอกต่อให้โลกรู้ก็กดShareได้เลยจ้า
ติดตามช่องทาง FB Fanpage ของเราได้โดยพิมพ์ว่า : ความรู้วันละหน้ากระดาษ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
