7 มิ.ย. 2019 เวลา 08:30 • สุขภาพ
มะเร็งตับ...มะเร็งที่ทำสถิติสังหารคนไทยมากที่สุด
ตับถือเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ด้วยขนาดที่พอๆกับสุนัขพันธ์ุชิวาว่า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าตับนั้นมีความสำคัญกับมนุษย์มากเพียงใด ไม่เช่นนั้นธรรมชาติก็คงไม่สร้างให้มันมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้
ตับนั้นเป็นอวัยวะที่เรียกได้ว่าทำงานไปซะทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ มีหน้าที่ต่างๆมากมาย ซึ่งตรงกันข้ามกับอวัยวะส่วนใหญ่ที่มักมีหน้าที่หลักๆเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น โดยหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของตับก็คือ การกรองและทำลายสารพิษจากเลือดที่มาจากระบบทางเดินอาหาร
อาหารและสารต่างๆที่พวกเรากินเข้าไป ไม่ว่ามันจะมีประโยชน์หรือเป็นพิษต่อร่างกายก็ตาม สารอาหารทั้งหมดนั้นจะถูกดูดซึมที่ลำไส้ส่วนต่างๆ และเข้าสู่กระเเสเลือดก่อนที่มันจะไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย โดยธรรมชาติได้สร้างอวัยวะหนึ่งขึ้นมาเพื่อเป็นด่านตรวจสอบอาหารและสารต่างๆเหล่านั้น ใช่แล้วครับ อวัยวะนั้นก็คือตับนั่นเอง เลือดทุกหยดที่ไหลผ่านลำไส้แล้วหอบเอาอาหารและสารต่างๆมานั้น มันจะต้องผ่านตับเป็นอวัยวะแรกเสมอ ดังนั้นตับจึงเปรียบเสมือนอวัยวะพลีชีพที่คอยเสียสละรับสารพิษต่างๆเกือบทั้งหมดไว้กับตัวเอง หลายๆคนอาจเคยได้ยินบ่อยๆว่าอาหารนี้หรือยานั้นเป็นพิษต่อตับ ซึ่งสาเหตุก็เป็นแบบนี้นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก เพราะตับนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ มันมีความเชี่ยวชาญในการกำจัดสารพิษต่างๆเป็นอย่างดี นอกจากนี้ธรรมชาติยังให้ความสามารถพิเศษอย่างอื่นกับมัน โดยตับนั้นเปรียบได้ดั่งวูล์ฟเวอรีน เป็นอวัยวะที่มีความสามารถแบ่งตัวเพื่อทดแทนเซลล์ที่ตายไปได้สูงมาก ตับที่เหลือเพียง 25% นั้นสามารถฟื้นฟูกลับมาใหม่ให้เหมือนเดิมได้ ไม่มีอวัยวะใดๆภายในร่างกายที่สามารถทำได้แบบนี้ ดังนั้นจึงต้องบอกว่าตับเป็นอวัยวะที่ถึกทนมาก นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลาตับเป็นโรคหรือมะเร็ง มันมักไม่มีอาการใดๆจนกระทั่งเป็นมากเกินไปแล้วถึงจะเริ่มรู้ตัว
1
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนได้มากที่สุดในโลกก็คือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเริ่มมีอาการตอนที่มะเร็งลุกลามใหญ่โตเเล้ว ในชีวิตการทำงานผมแม้จะไม่ได้มีโอกาสดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งมากนัก แต่ก็เคยเจอผู้ป่วยมะเร็งตับ 2 คน ที่ก่อนหน้านี้เป็นคนที่ญาติๆต่างบอกว่าแข็งแรงดีทุกอย่างเหมือนคนปกติ แต่อยู่ดีๆก็ล้มป่วย อ่อนเพลีย กินไม่ได้ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือน เมื่อพามาโรงพยาบาล ผมคลำท้องดูก็พบตับที่มีขนาดโตคับช่องท้อง และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนผู้ป่วยก็มีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตไปโดยที่ญาติพี่น้องยังไม่ทันเตรียมใจได้เลย
อย่างที่ผมเคยเล่าไปในบทความเรื่อง”มะเร็ง…และต้นกำเนิดของพวกมัน”... มะเร็งนั้นเกิดจากการกลายพันธ์ุของยีนที่ควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ ใครสนใจย้อนกลับไปอ่านภายหลังได้ โดยสาเหตุที่ทำให้เซลล์ตับกลายพันธุ์กลายเป็นเซลล์มะเร็งนั้นมีมากมาย เพราะตับถือเป็นด่านแรกของสารพิษต่างๆ แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ”ไวรัสตับอักเสบ”
ไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซีนั้นทำให้ตับอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง โดยไวรัสตับอักเสบเหล่านี้จะติดเชื้อผ่านทางเลือดเป็นหลัก ดังนั้นคนกลุมเสี่ยงก็คือ การใช้ของมีคมร่วมกัน การมีเพศสัมพันธ์ และคนที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับเลือด เป็นต้น ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีที่เด็กสมัยใหม่ที่เกิดหลังปี 2535 นั้น จะได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสนี้ทุกคน ทำให้เด็กตั้งแต่กลุ่มนี้เป็นต้นไปจะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งตับน้อยลงกว่าเดิมมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม ภูมิต้านทานก็อาจตกลงได้เช่นกันเมื่อโตขึ้น ดังนั้นคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวไปก็ควรไปฉีดวัคซีนกระตุ้นด้วยเสมอ ส่วนใครติดเชื้อแล้วปัจจุบันก็มีการยารักษาแล้ว ที่สำคัญก็คือการตรวจร่างกายประจำปี ซึ่งจะพอสามารถบอกได้ว่าตับของคุณอักเสบอยู่หรือไม่ ถ้าอักเสบก็จะได้รีบรักษาก่อนมันจะกลายเป็นมะเร็งนั่นเอง
4
นอกจากนี้ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆที่พบได้บ่อยเช่นเดียวกัน เช่น โรคตับแข็ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาวะไขมันเกาะตับที่พบได้บ่อยๆในคนอ้วนที่เป็นโรคเบาหวานและไขมัน สารพิษอะฟลาท็อกซินที่พบได้เยอะๆในพวกถั่วป่น พริกป่นที่ชื้นๆ เป็นต้น และก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่ช่วยเสริมให้เกิดมะเร็ง เช่น บุหรี่ เบาหวาน น้ำดื่มที่ปนเปื้อน เป็นต้น
เมื่อเนื้อตับมีก้อนมะเร็งที่ใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว แม้ว่าตับจะเป็นอวัยวะที่อึดถึก สุดท้ายมันก็จะเริ่มทำงานได้น้อยลง อย่างที่บอกไปว่าตับเป็นอวัยวะหน้าด่านที่คอยกำจัดสารพิษต่างๆ เมื่อตับทำงานน้อยลงก็แปลว่าสารพิษต่างๆจะไม่ถูกตรวจสอบอีกต่อไป แต่จะไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เวียนหัว สติเลือนลางลง และที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือสารพิษสะสมทั่วร่างกาย ตัวตากลายเป็นสีเหลืองหรือที่เรียกว่าดีซ่าน จากคนที่แข็งแรง ก็ทรุดโทรมลงกลายเป็นผู้ป่วยเต็มตัว
หลายคนอาจคิดว่าแม้ตับไม่ทำงานแล้ว แต่ถ้าไม่กินอาหารที่เป็นพิษก็คงไม่มีอาการอะไร ก็ต้องบอกว่าอันที่จริงแล้วอาหารทุกชนิดมีพิษครับ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ที่มันไม่มีพิษก็เพราะมีตับคอยเก็บกวาดให้นั่นเอง ดังนั้นผู้ป่วยในระยะท้ายๆ การกินอาหารทั่วไปก็ถือว่าเป็นพิษต่อร่างกายแล้ว
และอย่างที่บอกไป ตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่มากมายเต็มไปหมด นอกจากกำจัดสารพิษแล้วตับก็ยังมีหน้าที่อื่นๆอีก เช่น ช่วยเรื่องการแข็งตัวของเลือดไม่ให้เลือดออกง่าย ช่วยสะสมแป้งและน้ำตาลไว้เป็นพลังงานยามฉุกเฉิน สร้างน้ำดีไว้ช่วยย่อยอาหาร เก็บสะสมวิตามินต่างๆ เป็นต้น ซึ่งหน้าที่เหล่านี้ก็จะเสียหายไปด้วยเช่นกัน
1
เมื่อผู้ป่วยถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับแล้ว อันที่จริงก็ยังมีการรักษาให้หายได้อยู่หลายวิธี แต่ก็มีข้อแม้ที่สำคัญก็คือ ต้องมาตรวจเจอในตอนที่มันยังไม่สายเกินไป ถ้าก้อนยังไม่ใหญ่เกินไปและยังไม่กระจายไปไหน ปัจจุบันก็มีทางเลือกมากมายที่จะเอาก้อนนั้นออกไปจากร่างกาย
1
ในระหว่างที่เล่าเรื่องมาทั้งหมดนี้ ผมก็ได้พูดถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆสอดแทรกไปหมดแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของผู้อ่าน ว่าจะวางแผนในการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นได้อย่างไร และขอย้ำอีกครั้งว่าการตรวจร่างกายประจำปีเป็นทางหนึ่งที่ทำให้พวกเราสามารถรู้ว่ามีโรคต่างๆได้ตั้งแต่ยังเป็นไม่มากและยังพอรักษาได้ ดังนั้นไม่ควรกลัวว่าตรวจแล้วจะเจอโรค แต่ควรกลัวว่ามีโรคโดยที่ไม่รู้ตัวจะดีกว่า
บางทีร่างกายของเรา ถ้าเราไม่ดูแลก็อาจกลายเป็นหน้าที่ของลูกหลานหรือคนที่คุณรักที่ต้องมาคอยดูแลในตอนที่มีความเจ็บป่วย ดังนั้นก็จงคิดว่าการดูแลสุขภาพนั้น มันคือหน้าที่ของคุณเองเสียดีกว่าครับ...
#Healthstory
อย่าลืมกดLike&Shareเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ^^
ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆจากปากหมออีกได้ที่
Blockdit : Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
[R]
UpToDate(แหล่งรวมข้อมูลทางการแพทย์โดยเน้นหลักฐานที่ทันสมัย)
- Epidemiology and etiologic associations of hepatocellular carcinoma
- Staging and prognostic factors in hepatocellular carcinoma
โฆษณา