11 มิ.ย. 2019 เวลา 13:08
The Unknown Woman of the Seine: โมนาลิซ่าแห่งโลกหลังความตาย เมื่อการสิ้นลมหายใจกลายเป็นศิลปะ
1
ทุกวันนี้ ผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาฝรั่งเศสเพื่อชื่นชมรอยยิ้มปริศนาของโมนาลิซ่า ทราบหรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ร้อยกว่าปี เคยมีอีกหนึ่งรอยยิ้มที่สร้างความหลงไหลให้ชาวปารีสได้ไม่แพ้กัน ต่างกันแค่... ร้อยยิ้มที่ว่านี้ไม่ได้มีที่มาจากภาพวาดชวนฝัน แต่มาจากใบหน้าของศพนิรนามในแม่น้ำแซน
1
“l’Inconnue de la Seine,” หรือ the Unknown Woman of the Seine เป็นประติมากรรมเลื่องชื่อที่มีประวัติความเป็นมาดำมืดที่สุดชิ้นหนึ่งของฝรั่งเศส
ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 20 มีคนพบศพของสาวน้อยนิรนามลอยมาตามแม่น้ำแซน ศพที่ว่าถูกส่งไปยังโรงเก็บศพสาธารณะของกรุงปารีสเพื่อประกาศหาญาติพี่น้อง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครมารับกลับไป ระหว่างนี้มีพนักงานดูแลศพผู้หนึ่งเกิดพึงใจในใบหน้าที่สวยงามแต่เศร้าสร้อยของหญิงสาว จึงแอบสร้างงานศิลปะจากใบหน้าของเธอเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก…
เรื่องโรแมนติก (แต่น่าขนลุก) ถูกเล่ากันไปมาในหลายเวอร์ชั่น บ้างก็ว่าสาวน้อยคงผิดหวังจากความรักเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย บางก็ว่าไม่ใช่ เพราะทรงผมของหญิงสาวดูเก่ากว่าอายุจริงมาก เป็นไปได้ประติมากรรมหน้าสาวน้อย อาจจะถูกสร้างไว้ก่อน คือราวปี 1850-80
บ้างก็ว่าเป็นเรื่องเหลวไหล คนตายที่ไหนจะมีรอยยิ้มสวยงามแบบนี้ ใบหน้าแห่งความตายน่าจะถูกสร้างขึ้นจากแบบที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วมาผูกเรื่องสร้างกระแสมากกว่า บ้างก็ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มาจากฝรั่งเศสด้วยซ้ำ แต่เป็นช่างชาวเยอรมัน ที่บังเอิญลองทำภาพจำลองของลูกสาว และเด็กสาวเจ้าของใบหน้า ก็น่าจะมีอายุอยู่ระหว่าง 15-16 ปี
1
เรื่องเล่าของ Unknown Woman of the Seine ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่น หนึ่งในนั้นคือตำนานจากเกาะอังกฤษ ที่เล่าว่า
"นานมาแล้วในเมืองลิเวอร์พูลมีพี่น้องฝาแฝดหน้าตาสะสวย หนึ่งในนั้นตกหลุ่มรักหนุ่มผู้ดีจากปารีสและติดตามคนรักกลับฝรั่งเศส หลายปีผ่านไปเมื่อแฝดในอังกฤษอยู่ในวัยแก่ชรา เธอเดินทางไปท่องเที่ยวในฝรั่งเศสและพบเหตุการณ์น่าตกใจ ใบหน้าของเธอกลายเป็นของตกแต่งที่มีอยู่ทุกที่ในปารีส หญิงสาวจำได้ทันทีว่าใบหน้านี้เป็นของฝาแฝดที่หายตัวไปและเกิดความปิติในใจเล็กๆ ฝาแฝดของเธอคงความอ่อนวัยไว้ได้นิรันดรในขณะที่ตัวเธอนั้นกำลังโรยรา"
 
จริงเท็จไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ รอยยิ้มทรงเสนห์ของสาวลึกลับกลับกลายเป็นงานศิลปะชิ้นดัง ที่ศิลปินและกวีหลายคนพยายามตีความตามหาความหมายในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 อาลแบร์ กามูว์ นักเขียนและนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ได้เปรียบเทียบความงามของรอยยิ้มแสนบริสุทธิ์นี้ว่า “คล้ายกับปริศนาในรอยยิ้มของโมนาลิซ่า ผู้คนมากมายต่างครุ่นคิดถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้ม เธอคนนี้กำลังคิดอะไร มาจากไหน มีสถาณะอย่างไนทางสังคม และจบชีวิตลงด้วยสาเหตุอะไร”
ความโด่งดังของใบหน้าปริศนากลายเป็นค่านิยมความงามของสาวฝรั่งเศสและเยอรมันช่วงปี 1920s-1930s ว่ากันว่าในสมัยนั้น สาวๆ บ้านไหนก็อยากจะมีใบหน้าและร้อยยิ้มที่สวยบริสุทธิ์ประดุจรูปปั้น ในเวลาเดียวกันตัวก็อปปี้ของ Unknown Woman of the Seine หรือ สาวน้อยนิรนามแห่งแม่น้ำแซนก็ถูกผลิตซ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อส่งขายทั่วไปในยุโรปเพื่อเป็นของประดับบ้านในวงวารผู้ดีมีอันจะกิน
1
ถ้าคิดว่านี่ประหลาดแล้ว อย่า ยังไม่หมดเท่านั้น…
ในปี 1958 Dr. Peter Safar ได้คิดค้นวิธีปั๊มหัวใจช่วยคนจมน้ำหรือ CPR (cardiopulmonary resuscitation) และมีไอเดียจะถ่ายทอดวิธีปฎิบัตินี้แก่บุคคลทั่วไป เขาเลือกให้บริษัททำของเล่นในนอร์เวย์ออกแบบหุ่นจำลองเพื่อใช้ฝึกซ้อมในโรงเรียน Asmund Laerdal
เจ้าของโรงงานตัดสินใจผลิตหุ่นจำลองที่ว่าโดยถอดแบบใบหน้าจากหญิงสาวที่เคยจมน้ำเสียชีวิตและให้ชื่ออย่างไพเราะเพราะพริ้งว่า Resusci Anne…. ใช่แล้ว ต้นแบบของ Resusci Anne ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ ก็คือสาวน้อยนิรนามแห่งลำน้ำแซนคนนี้นี่แหละ
ปัจจุบัน Resusci Anne (หรือ CPR Annie) ยังคงทำหน้าที่เป็นหุ่นรุ่นมาตรฐานที่ถูกใช้มากที่สุดในสหรัฐฯ นั่นทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตอย่างขบขันว่า สาวน้อยนิรนามแห่งแม่น้ำแซนคงเป็นใบหน้าที่ถูกจูบมากที่สุดในโลก
มีใครเคยจูบเธอบ้างหรือเปล่า?
โฆษณา