10 มิ.ย. 2019 เวลา 13:09
จิตวิทยากับเทพปกรณัม : ปมปิตุฆาต
จำได้สมัยหนุ่มๆ ไปลงเรียนวิชาเลือกคือวิชา "เพศศึกษา" กะว่าเวลาเรียนคงฉายหนัง 18+ รัวๆ จึงเลือกลงอย่างไม่ลังเล
แต่ผิดคาด ไม่เคยมีเลย เนื้อหาแบบ 18+ ที่ฝันไว้ มีแต่เรียนโรคจิตเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการพัฒนาการด้านจิตเพศในวัยเด็กทั้งเพศชายและหญิง
โดยบิดาของวิชานี้ คือ Sigmund Freud ได้ศึกษาเกี่ยวกับ การพัฒนาการในช่วงหนึ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน สำหรับเด็กชายเรียกว่า ปมอิดิปุส (Oedipus complex) หรือ ปมปิตุฆาต ส่วนในเด็กหญิงจะเรียกว่า ปมอิเรคต้า (Electra complex) หรือ ปมมาตุฆาต โดยที่มาของชื่อทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับตำนานกรีกโบราณโดยตรงเลยทีเดียว ดังเรื่องราวต่อไปนี้
1
Sigmund Freud
Oedipus complex เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเด็กชาย โดยจะรู้สึกชิงชังบิดาของตนเอง แต่จะชื่นชอบในมารดาของตน (ต่อไปขอเรียกแทนว่าพ่อ จะสั้นได้ใจความดี และคำว่ามารดาด้วยเช่นกัน ขอแทนด้วยคำว่า แม่) ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้สึกดังกล่าว คงต้องค้นคว้าเอาเองนะครับ
ที่มาของตำนานเกี่ยวกับ Oedipus complex มาจากชายหนุ่มที่ชื่อว่า Oedipus เรื่องมีอยู่ว่า Oedipus เป็นบุตรชายที่ถือกำเนิดจากบิดาชื่อ Laius และมารดา Jocasta
เนื่องจากสมัยหนุ่ม Laius พ่อของ Oedipus ได้ทำบาปร้ายแรง เนื่องจากได้ลักพาตัวเด็กน้อย Chrysippus ไปแล้วฆ่าจนตาย (ชักนองเลือดน่ากลัว....จัง) พ่อของ Chrysippus พอรู้เรื่องจึงสาปแช่งให้กรรมสนอง Laius แต่ทว่าคำแช่งนั้นกลับตกไปถึง Oedipus ผู้อาภัพ โดยคำสาปแช่งนั้นมีใจความว่า
ให้บุตรของ Laius ที่เกิดมา จะเป็นผู้ฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของตนเอง และแต่งงานอยู่กินกับแม่แท้ๆ ของเขา (โหดมาก)
Laius เมื่อรู้อย่างนั้น จึงไม่เข้าใกล้ Jocasta เนื่องจากกลัวอดใจไม่ไหว แต่ทว่าในที่สุดก็ทนการยั่วยวนของ Jocasta ไม่ไหว เผลอไปมีอะไรเข้าจนได้ แถมครั้งเดียวเกิดตั้งท้องขึ้นอีกต่างหาก
และแล้วเมื่อ Oedipus ถือกำเนิดเกิดมา พ่อใจยักษ์ผู้กลัวตาย ก็จัดแจงเอาเข็มกลัดแทงข้อเท้าทั้งสองของทารกน้อย (ใจร้ายจริงๆ) แล้วให้ทหารนำเด็กทารกไปทิ้งบนเขา หวังให้สัตว์ร้ายต่างๆเอาไปกินเป็นของหวานหลังมื้อเย็น
แต่แล้วทหารใจดี กลับไม่เอาทารกไปทิ้ง ดันนำไปมอบให้พระราชา Polybus (ไม่ได้แปลว่า รถเมล์พ่วง นะครับ) แห่งเมือง Corinth ผู้ที่เลี้ยงดูทารกน้อยประดุจลูกชายตน
Phorbas ทหารผู้กำลังช่วยให้ ทารกน้อย Oedipus รอดชีวิต
เวลาผ่านไปจน Oedipus เติบใหญ่เป็นหนุ่ม ขาก็หายดีแล้ว ในงานเลี้ยงครั้งหนึ่งที่จัดขึ้นโดย Polybus มีแขกในงานคนหนึ่งรู้ความเป็นมาของ Oedipus จึงเรียกเค้าว่า คนชั่วช้าสามาร Oedipus รู้ดังนั้นจึงไปถามความจริงเอาจากผู้เฝ้าเทวสถาน ซึ่งแทนที่จะบอกเรื่องเชื้อสายที่แท้จริงของ Oedipus กลับเล่าถึงเรื่องคำสาปแช่งให้เค้าทราบแทน
Oedipus รู้ความดังนั้นจึงเตรียมหนีออกจากเมือง เนื่องจากกลัวว่าตนจะทำร้ายบิดาและมารดาตนเอง (พ่อแม่ตัวปลอม) และระหว่างทางที่เค้าหนีจากเมืองนั้นเอง เค้าได้พบกับชายที่ถือไม้เท้า ซึ่งเดินทางมาแสวงบุญ นั่งอยู่บนรถม้าลาก และกล่าวให้ Oedipus หลีกทางให้รถม้าผ่านไป แล้วฟาดไม้เท้าในมือไปยังศีรษะของ Oedipus พ่อหนุ่มเลือดร้อนกำลังหงุดหงิดพอดี เลยตอบโต้ซะจนชายบนรถม้าถึงแก่ความตาย
เวรกรรมนั้นมีจริงแท้แน่นอน และตามมาสนองไวทันใจยังกะติดจรวด ชายที่ Oedipus เพิ่งจัดการไปคือ Laius พ่อแท้ๆ ของเค้าเอง โดยที่ Oedipus ไม่ได้ทราบเลยว่าทำอะไรลงไป
เมื่อ Oedipus เดินทางมาถึงเมือง Thebes ซึ่งในเวลานั้นมีสัตว์ร้ายที่ชื่อว่า Sphinx เข้ามาอาละวาด สร้างความพรั่นพรึงให้แก่ชาวเมืองยิ่งนัก โดยเจ้า Sphinx จะถามปัญหาแก่ผู้ที่อาจหาญจะเข้าไปกำจัดมัน หากตอบคำถามผิด ก็จะจับโยนเข้าปากกร่วมๆ จนชาวเมืองตายไปหลายคน
ภาพ Oedipus กับ Sphinx โดย Gustave Moreau (French, Paris 1826–1898 Paris)
ผู้ดูแลเมืองตอนนั้น จึงประกาศว่าผู้ใดที่กำจัด Sphinx ได้ ผู้นั้นจะได้รับตำแหน่งราชาผู้ครองบัลลังค์ และได้ครอบครองราชนีหม่ายของเมือง Thebes แถมไปอีกด้วย
Oedipus ทราบข่าวจึงเดินทางไปไขปัญหาจาก Sphinx โดยไม่กลัวว่าจะตกเป็นของว่างยามบ่าย เมื่อเผชิญหน้ากับ Sphinx แล้ว คำถามที่ Oedipus ได้รับคือ
"อะไรเอ่ย ตอนเช้าเดินสี่ขา ตอนกลางวันเดินสองขา แต่พอตอนเย็นเดินสามขา ชะเอิงเอย......"
Oedipus ใช้หมองนั่งสมาธิ เชิญเณรน้อยอิคคิวเข้าร่าง ไม่ช้าก็...ปิ๊งๆ... Oedipus ตอบอย่างรวดเร็วว่า "คน" (คน ตอนเด็กคลานไปมา เหมือนเดินสี่ขา พอโตขึ้นก็เดินสองขา แต่พอเริ่มแก่ยักเย่ยักยัน เดินถือไม้เท้า เท่ากับเดินสามขา) พอคำตอบออกมาดังนั้น Sphinx เห็นว่าตอบถูก ก็อายเพราะหน้าแตก นึกว่าจะมีลาภปาก ก็เลยบินหนีจากไปอย่างรวดเร็ว
1
Oedipus จึงได้เป็นราชาของ Thebes และได้ครองราชนีหม่ายแสนสวยด้วยอีกต่างหาก แต่ทว่าต่อมาไม่นานเริ่มเกิดลางร้ายขึ้น ทั้งโรคระบาด และความรุนแรงต่างๆ เกิดขึ้นทั่วนคร Thebes
ในฐานะราชา Oedipus จึงต้องสืบหาต้นต่อของอาเพศครั้งนี้ จนในที่สุดมีชายตาบอดคนหนึ่งชื่อ Tiresias ได้พบกับ Oedipus แล้วบอกให้ทราบถึงต้นเหตุของเภทภัยที่เกิด ว่ามาจากตัวของ Oedipus เองนั่นหล่ะ ที่ฆ่าพ่อของตนเองตาย Oedipus ไม่เข้าใจ แถมไม่เชื่อและเข้าใจว่าเป็นแผนโค่นบัลลังค์ ของพี่ชายของ Jacasta (หรือคือลุงของเค้าเอง) จึงได้สั่งประหารชายตาบอดเสีย
แต่ต่อมาไม่นาน ข่าวการสิ้นพระชนม์ของราชา Polybus ก็มาถึง โดยราชาตายด้วยโรคชรา ทำให้ Oedipus ถึงกับงุงงง จนคิดออกถึงชาติกำเนิดของตน ว่าไม่ใช่บุตรแท้ของ Polybus ดังนั้นชายที่เค้าปลิดชีพไปต้องเป็นพ่อแท้ๆ ของตน และหญิงที่เค้าอยู่กินด้วยทุกวันนี้คือแม่แท้ๆ เช่นเดียวกัน (แต่พี่ท่านดันมีลูกด้วยกันไปแล้วถึง 4 คน) ทำเอา Oedipus บ้าคลั่ง ส่วน Jacasta เมื่อรู้เรื่องเกิดความอับอาย จึงผูกคอตนเองจนเสียชีวิตในห้องที่มีสัมพันธ์ครั้งแรกกับ Oedipus
1
Oedipus เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของแม่ จึงคว้าเข็มกลัดแทงเข้าที่ดวงตาทั้งสองข้าง จนบอดสนิท แล้วจึงสละราชสมบัติให้บุตรชาย แล้วรอนแรมไปยังที่ต่างๆ ทั่วอาณาจักร จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
1
เรื่องราวโศกนาฏกรรมดังกล่าว จึงเป็นที่มาของคำว่าOedipus complex ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
1
ส่วนเรื่องความเป็นมาของ Electra complex ผมต้องขอติดเอาไว้ถ้ามีโอกาส เพราะรู้สึกว่าส่วนใหญ่ตำนานกรีกมักเป็นเรื่องราวความไม่สมหวัง และความเศร้าเสมอๆ ครับ พักเรื่องเครียดๆ ไว้บ้างก็คงดี
หมายเหตุ : บางคนกลัวว่าลูกจะเป็น Oedipus complex ซึ่งความจริงการพัฒนาการที่มากขึ้น การเรียนรู้ และการสั่งสอนของพ่อแม่ จะทำให้ความรู้สึกในวัยเด็กดังกล่าวหายไปได้เอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา