13 มิ.ย. 2019 เวลา 10:13 • ประวัติศาสตร์
ดวงดาวที่ดูเหมือนจะกลมแต่ก็แอบบูดๆเบี้ยวๆ เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำที่เราขนานนามว่า ดาวโลก นี้ดูเหมือนจะสงบราบเรียบดีจนมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ
แต่จริงๆแล้วมันหาได้อยู่อย่างสงบนิ่งไม่
ก็ดั่งที่เราเห็นๆกัน มันระบายความพลุ่งพล่านที่สะสมไว้ภายในออกมาเป็นระยะๆ ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดทำเอาสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่บาดเจ็บ ล้มตายกันไปไม่น้อยเลย
เหตุการณ์ที่โด่งดังในอดีตที่คนไทยคุ้นชินได้ยินบ่อยคงเป็นที่ปอมเปอี อิตาลี
มนุษย์ และสัตว์น้อยใหญ่ที่หนีไม่ทัน ต่างโดนเถ้าถ่านและลาวา หินร้อน ที่ภูเขาไฟวิสุเวียสพ่นออกมาถล่มทับถมจนเกิดภาวะ พอกแข็ง
กลายเป็นมัมมี่จมอยู่ใต้กองเถ้าภูเขาไฟ รอให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้าเกียวกับวิถีชีวิตแบบชาวปอมเปอี ที่แท้จริงเป็นเช่นใด
แต่เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดจนเกิดปรากฏการณ์แบบปอมเปอีใกล้ๆกับบ้านเราเคยเกิดขึ้นไหม...
แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเคยเกิด และสถานการณ์ก็ไม่ต่างกับปอมเปอีเท่าไหร่
ภูเขาไฟแทมโบรา(Tambora)แห่งเกาะซุมบาวา
ประเทศอินโดนีเชีย คือบ่อเกิดแห่งมหันตภัยร้ายนี้
ปากปล่องภูเขาไฟแทมโบรา
ในวันที่10-15เมษายน คศ1815
200กว่าปีมาแล้ว ในสมัยรัชกาลที่2แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เหตุการณ์ผ่านไปจนปี คศ 1980จึงมีการค้นพบโดยบังเอิญ โดยคนงานที่มาทำงานชักลากไม้แถวหมู่บ้านแพนคาสิลา เกาะซุมบาวา ห่างจากกรุงจาการ์ตา ราว1300กิโลเมตร
ทั้งชาวบ้านแถวนั้นและคนงานต่างพากันขุดค้นหาของเก่าที่ฝังอยู่ใต้ดินราว2-3เมตรมาร้อยกว่าปี
กันเพลิน
จนเมื่อ ศจ.ฮาราลเดอร์ ซีเกริดสัน
(Haraldur Sigurdson) แห่งมหาวิทยาลัยไรด์
ไอสแลนด์(University of Rhode Island) USA
ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟที่เคยไปศึกษาเหตุการณ์ที่ปอมเปอีมาก่อน เข้ามา
เมื่อใช้เรดาร์สำรวจดูจึงพบว่า ใต้ซากเถ้าภูเขาไฟลึกลงไปเพียง2-3เมตรนั้นนั้นมีกลุ่มหมู่บ้านที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากแม้จะดำเป็นตอตะโกไปบ้าง
ทุกอย่างถูกสตาฟไว้ด้วยเถ้าภูเขาไฟ สิ่งของในบ้านถ้วยชามรามไห เครื่องมือเหล็กและทองแดงรวมถึงผู้คนด้วย
มีเหยื่อรายหนึ่งที่ลาโลกนี้ไปในท่านั่ง ที่เอวมีกล่องยาสูบทำด้วยทองแดง และมีหอก วางไว้ข้างกาย
สวมแหวนประดับพลอย สร้อยข้อมือและสร้อยคอประดับด้วยทองแดง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนนี้เป็นอย่างดี
เหยื่ออีกรายอยู่ในท่านั่งเช่นกัน
แต่ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมา คล้ายกับจะปกป้องตัวเองจากอันตราย และก็เสียชีวิตอยู่ในท่านั้นและอยู่อย่างนั้นจนมีการขุดค้นพบในภายหลัง
จากการระเบิดของมันในครั้งนั้น ทำให้มันถูกจัดอันดับโดย w.w.w. epiedisastars.com
ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับภัยพิบัติใหญ่ๆของโลก
ให้เป็นอันดับหนึ่งของโลกในเรื่องความรุนแรง
ความสุงของแทมโบราก่อนจะเกิดการปะทุขึ้นครั้งนั้นคือ 13000ฟุตจากระดับน้ำทะเล หลังจากระบายอารมณ์อันแสนเกรี้ยวกราด อยู่ราว5วัน5คืนจบลง ความสุงของมันลดเหลือราว9000ฟุตจากระดับน้ำทะเล
ด้วยความรุนแรงที่คาดว่า
แรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่า
52,000 เท่า นั้น
มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ราว10,000คน
แต่ความรุนแรงที่แท้ทรูยังส่งผลต่อจากนั้นอีก
ชาวโลกราว82,000ต้องล้มตายเนื่องจากความอดอยากและโรคภัย เสียงคำรามของมันได้ยินไปไกลหลายพันไมล์
ส่งเถ้าถ่านราว175,000,000,000ลูกบาศก์เมตร
ขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศโลก ทำให้สภาพอากาศในปี คศ 1816 ถูกเรียกว่า ปีที่ไม่มีฤดูร้อน
เนื่องจากเขม่าเถ้าถ่านนั้นขึ้นไปบดบังแสงอาทิตย์ทำให้อุณหภูมิของโลกลดลง3อาศาเซลเซียสเลยทีเดียว จากนั้นยังส่งผลให้หิมะตกอย่างผิดปกติในหลายพื้นที่บนโลก กระทบกับการเพาะปลูกในยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ ต้นไม้ใบหญ้า สัตว์โลกน้อยใหญ่รวมทั้งคน ล้มตายไปอีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเกินแสนคนกันเลยทีเดียว
อันเนื่องมาจากความอดอยาก หิวโหย
แต่ประเทศไทย ไม่ทราบว่ามีการบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้รึเปล่า ไม่สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้
หากส่งผลถึงยุโรปและอเมริกา ขนาดนั้น
สยามเองก็คงไม่รอดแหละ ให้นึกถึงหมอกควันที่คละคลุ้งปกคลุมเมืองไปทั่ว แต่คราวนั้นมันเกิดขึ้นทั่วโลกเท่านั้นเอง
นอกจากใจตัวเองที่เอาชนะยาก
ก็ธรรมชาตินี้แหละที่มนุษย์เอาชนะไม่เคยได้เลย
...เศร้า....
โฆษณา