14 มิ.ย. 2019 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
มาตาฮารี สายลับสาวอันตราย
เราอาจจะได้เคยชมภาพยนตร์สายลับหลายๆ เรื่อง สิ่งที่เห็นคือความตื่นเต้น ความหรูหรา ห้อมล้อมด้วยหญิงสาวมากหน้าหลายตา
สำหรับวันนี้ผมจะนำเสนอเรื่องของสายลับสาวคนหนึ่งที่เก่งจนได้รับสมญานามว่าเป็นสายลับอันดับหนึ่งของโลก
นั่นคือ “มาตาฮารี”
มาร์กาเร็ท เกอร์ทรูด เซลเล (Margaretha Geertruida Zelle) เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมปี ค.ศ.1876 (พ.ศ.2419) ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวัยเด็กจนถึงช่วงที่เป็นสาว เธอมักจะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องผู้ชายอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการที่เธอเป็นเมียน้อยของครูใหญ่จนต้องลาออก หรือการเป็นเมียน้อยของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคู่ก็เริ่มที่จะออกลายความเจ้าชู้ ตัวมาร์กาเร็ทเองนั้น ก็เก็บแต้มกับทหารทั้งค่ายลับหลังสามี จึงเป็นประเด็นที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีถดถอยลงมาอย่างรวดเร็ว
1
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อลูกชายของทั้งคู่ถูกวางยาพิษ เธอกับสามีจึงตกลงหย่าร้างกัน โดยเธอได้ยกลูกสาวให้กับสามี ส่วนตัวเธอได้ออกเดินทางไปยังฝรั่งเศส
มาร์กาเร็ทได้เดินทางมาฝรั่งเสศและเปลี่ยนชื่อเป็น “มาตาฮารี “ ที่แปลว่าดวงตาแห่งรุ่งอรุณ ที่นี้เธอเริ่มงานเต้นระบำเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย และด้วยความที่เธอเป็นนักเต้นที่มีความสามารถบวกกับความสวย จึงมีชายที่เป็นบุคคลระดับสูงเข้ามาดูการแสดงของเธออยู่เสมอ
ในเวลาไม่นาน สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ได้เริ่มขึ้น นักเต้นคนอื่นๆ ต่างพากันตกงาน มีเพียงแต่มาตาฮารีที่ยังคงมีงานเต้นอยู่สม่ำเสมอ จนประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มจับตาดูเธอเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นสายลับให้กับประเทศฝ่ายมหาอำนาจกลาง เนื่องจากเธอมีความสามารถในการแทรกซึมเข้าไปยังบุคคลชั้นสูง
แต่ความจริงแล้วที่เธอทำอย่างนั้น เนื่องจากว่าเธอกำลังตกหลุมรักกับนายทหารจากประเทศรัสเซียคนหนึ่งชื่อวาดิม จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อนำเงินที่ได้ไปเลี้ยงดูเขา ด้วยเหตุนี้เองในวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ทางการจากประเทศฝรั่งเศสจึงได้เดินทางมาเสนองานสายลับให้กับมาตาฮารี ซึ่งเธอก็ตอบตกลงในทันที
ด้วยความที่เธอมีเส้นสายกับคนชั้นสูงหลายคน จึงทำให้เธอมีฝีมือจารกรรมข้อมูลที่เก่งกว่าสายลับทุกคนในยุคนั้น เพราะเธอใช้วิธีการสืบจากการร่วมหลับนอนกับคนเหล่านั้น ก่อนจะเลียบเคียงเอาข้อมูล จนทำให้เธอได้ข่าวที่เป็นความลับทางการทหารมาอย่างง่ายดาย จนกลายเป็นสุดยอดจารชนแนวหน้าของโลก
ทุกครั้งที่มาตาฮารีได้รับข่าวหรือข้อมูลสำคัญ ก็มักจะนำข่าวที่ได้มาไปบอกกับคนรักชาวรัสเซียอยู่เสมอ เจ้านายของเธอคือ “จอร์จ ลาดู (George Ladu)” จึงเบี้ยวเงินและปฏิเสธความช่วยเหลือ นอกจากนี้ลาดูยังแกล้งเธอด้วยการหาเรื่องให้เธอถูกจับในข้อหาเป็นจารชน กว่าเธอจะหนีมาได้ก็ลำบากพอสมควร
มาตาฮารีจึงหักหลังฝรั่งเศสด้วยการขายข่าวให้กับนานาชาติไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เยอรมนี รัสเซีย ทำให้เธอกลายเป็นตัวอันตรายของหลายๆ ชาติ
ชีวิตของเธอได้สิ้นสุดลงเมื่อทางการฝรั่งเศสได้หลักฐานที่ว่าเธอขายความลับของรัฐบาลให้กับเยอรมนี มาตาฮารีจึงถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิต
โฆษณา