15 มิ.ย. 2019 เวลา 09:36 • ท่องเที่ยว
เรื่องจริงของอาหารบนเครื่องบิน ที่คุณ(อาจ)ยังเคยไม่รู้
ผู้โดยสารโวยหนัก หลังพบว่าอาหารที่เสิร์ฟให้ทานบนเครื่องบินมีอายุกว่า 1 ปี กับอีก 4 เดือน!
"ชั้นจะยอมทานอาหารนี้ ก็ต่อเมื่อเที่ยวบินนี้จะพาชั้นไปถึงดาวอังคาร แต่ต้องไม่ใช่เที่ยวบินจากแดลลัสไปยังลอนดอน!..." ผู้โดยสารชายท่านนี้ได้กล่าวและโพสต์ลงโซเชี่ยลมีเดียร์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เรื่องมีอยู่ว่า..
ผู้โดยสารชายท่านนี้ได้เดินทางกับสายการบิน อเมริกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน AA50 เส้นทางจากเมืองแดลลัส,สหรัฐอเมริกา ไปยัง ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โดยก่อนการเดินทาง เขาได้ทำการสั่งอาหารพิเศษล่วงหน้าเป็นอาหารประเภท Vegan (หรืออาหารมังสวิรัตประเภทหนึ่งที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ของสัตว์ใดๆเลยเป็นส่วนผสม)
ในระหว่างการเดินทาง ทุกอย่างดูจะปกติดี เพราะเขาก็ได้รับอาหารตามที่ได้สั่งไว้ และเมนูที่ได้ในรับในวันนั้นคือ แกงกระหรี่ผักกับข้าวสวย
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อก่อนจะรับประทาน เขาได้เห็นถึงเดือนและปีที่ผลิต ระบุไว้หน้ากล่องอาหาร แล้วก็ต้องถึงกับผงะ สตั๊นไปสิบวิ เพราะเดือนผลิตนั้นคือ กุมภาพันธ์ ปี 2018 เท่ากับว่าอาหารกล่องนี้มีอายุยาวนานถึง 16 เดือนเลยทีเดียว
เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทานไม่ลง สุดท้ายลูกเรือก็เปลี่ยนอาหารธรรมดาที่เสิร์ฟบนเครื่องให้ทานเป็นการทดแทน
ข้อความในทวิตเตอร์ของชายผู้นี้ยังกล่าวอีกว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติ และเป็นเรื่องที่สายการบินควรจะทบทวนถึงความปลอดภัย เพราะจะแน่ใจได้จริงหรือกับอาหารประเภทแกงกะหรี่ที่เก็บมายาวนานเช่นนี้ แม้ทางสายการบินจะออกมาตอบ ว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติของอุตสาหกรรมการบินก็ตาม
แอร์ป้าอยากจะแชร์...
โดยปกติอาหารบนเครื่องบินที่ใช้เสิร์ฟมีทั้งอาหารสดและอาหารแช่แข็ง ซึ่งแน่นอนว่าอาหารหลักที่เป็น Main course คืออาหารแช่แข็ง
อ่านไม่ผิด คืออาหารแช่แข็งจริง ซึ่งอาหารแช่แข็งเหล่านี้จะมีอายุไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งอาจแตกต่างกันตามกฏเกณฑ์ของแต่ละบริษัท (แต่ 1 ปีกับ 4เดือน นี่ยังไม่เคยเจอเลยจริมๆนะ -"-)
เมื่อมีเที่ยวบิน อาหารเหล่านี้จะถูกโหลดขึ้นมาบนเครื่องตามจำนวนผู้โดยสาร ต่อจากนั้นจะเป็นหน้าที่ลูกเรือที่จะทำการอุ่นอาหารให้ร้อนและพร้อมเสิร์ฟบนเที่ยวบิน
ส่วนอาหารสด จะเป็นอาหารจำพวก สลัด ของหวาน ขนมปัง และผลไม้ ซึ่งอาจจะวางอยู่ในถาดพร้อมกับอาหารหลัก หรือเป็นอาหารว่างในเที่ยวบินที่ยาว
สถานที่ตั้งของบริษัทสายการบินก็มีส่วนสำคัญ เพราะนั่นหมายถึงการคัดสรร และสรรหาวัตถุดิบ อาจจะยากหรือง่ายแตกต่างกันตามท้องถิ่นและภูมิภาค ซึ่งอาจเป็นที่มาของอาหารแช่แข็งที่ทำให้มีอายุยาวนานกว่าปกติ
"เมื่อเครื่องบินไม่ใช่ร้านอาหาร" อาหารบนเครื่องบินจึงถูกจำกัดทั้งปริมาณและคุณภาพ
เมนูที่ใช้เสิร์ฟส่วนมากจะมี 2-3 ตัวเลือก โดยที่จะมีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลักดังนี้
1.มีไก่เป็นหลัก เพราะทานได้ทุกเพศทุกวัยทุกศาสนา
2.เป็นปลา หรือ เนื้อ และหมู ในบางสายการบิน
3.เมนูผัก หรือที่ไม่มีเนื้อสัตว์
ฉะนั้นหากท่านเป็นผู้ที่มีความต้องการพิเศษทางด้านอาหาร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสั่งอาหารล่วงหน้าในขณะจองตั๋ว เช่นผู้ที่แพ้อาหาร หรือมีโรคประจำตัว และอาหารสำหรับเด็กเล็ก (เพราะในบางสายการบินไม่มีอาหารเด็กเล็กบริการให้ ต้องทำการสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น อย่างเช่น Korean Air เป็นต้น)
แล้วอาหารพิเศษบนเครื่องบินที่ต้องสั่งจองล่วงหน้ามีอะไรบ้าง เหมาะกับท่านหรือไม่...?
มารู้จักกับอาหารเหล่านั้นกันดีกว่า..
1.Vagen Food : อาหารมังสวิรัติสำหรับผู้ที่เคร่งครัด ไม่มีส่วนผสมของสัตว์ใดๆเลยเป็นส่วนผสม แม้แต่ นม เนย หรือ ไข่
2.Vegetarian Food : อาหารมังสวิรัติที่ไม่มี"เนื้อ"สัตว์เป็นส่วนผสม
3.Hindu Asian vegetarian Meals: อาหารสำหรับผู้นับถือศาสนาฮินดู ไม่มีส่วนผสมของเนื้อวัว
4.Gluten Free : อาหารไม่มีส่วนผสมของแป้งสาลี
5.Seafood : อาหารทะเล
6.Low sodium Food : อาหารที่ปรุงแบบใช้โซเดียมต่ำ จะมีรสชาติจืด
7.Muslim Meals : อาหารที่ไม่มีส่วนผสมของหมู ถูกหลัก Halal
8.Jian Meals : อาหารสไตล์อินเดีย ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ และพืชที่อยู่ใต้ดิน เช่นแครอท ฯ
9.Child Meals : อาหารเด็กน้อย ที่มาพร้อมขนม
/Infant Meals :อาหารเด็กเล็ก พวกอาหารบด มักจะมาเป็นผลไม้บด หรือผักบด
10.Kosher Meals : อาหารตามหลักศาสนาสำหรับผู้เคร่งครัด
ดังนั้นหากท่านเป็นหนึ่งในผู้ต้องการอาหารพิเศษเหล่านี้ อย่าลืมสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น เพราะหากท่านไม่ทำ อาหารเหล่านี้ก็จะไม่มีโหลดบนเครื่องบิน เมื่อขึ้นไปบนฟ้า แอร์ป้าอีก10 คน หรือแม้แต่กัปตัน ก็จะไม่สามารถเสกให้ท่านได้ ทำได้แค่เพียงหาสิ่งที่มีบนเครื่องบินเท่าที่จะทำได้อย่างสุดความสามารถ..
และเมื่อท่านตัดสินใจดีแท้แน่นอนที่จะสั่งอาหารพิเศษมา นั่นแปลว่าท่านจะต้องทานอาหารนั้นเป็นตัวเลือกอันดับแรก
กล่าวคือ ทุกคนมีสิทธิ์ในการรับอาหาร 1 ชุดต่อ 1 มื้อ เป็นมาตรฐาน ยกเว้นเสียแต่ว่าอาหารบนเครื่องบินจะมีจำนวนเกิน หรือมากพอที่จะสำรองให้สำหรับผู้โดยสารอื่นๆได้ เช่นมีผู้โดยสารไม่รับอาหารในวันนั้น อาหารก็จะมีมากพอสำหรับผู้ที่ขอเพิ่มได้
แปลว่า หากท่านทานแล้วไม่ชอบ เพราะอาหารพิเศษไม่อร่อย หันไปข้างๆเห็นคนทานอาหารธรรมดาแล้วดูน่าทาน เกิดอยากจะเปลี่ยนขอเป็นอาหารธรรมดาขึ้นมา เราจะให้ท่านได้ก็ต่อเมื่อมีอาหารเพียงพอตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่หากท่านไม่พอใจ และรับไม่ได้ สิ้นสุดตัวเลือกสุดท้ายก็คืออาหารของลูกเรือ หรือของแอร์ป้าๆ ตาดำๆ ที่จะสละให้ท่านได้ทุกเมื่อทุกเวลา...👀
รู้เช่นนี้แล้วคิดให้ดีก่อนสั่งเด้อออ เพราะปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง...
Enjoy your meals🍽
#แอร์ป้าห้าดาว
กดไลค์ และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ😊
Credit ข่าว
โฆษณา