15 มิ.ย. 2019 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
ชิอูเนะ ซูงิฮาระ (Chiune Sugihara) นักการทูตชาวญี่ปุ่นผู้ช่วยเหลือชาวยิว 40,000 ชีวิต
บทบาทของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้น อาจจะไม่น่าประทับใจหรือมีภาพลักษณ์ที่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นการบุกและฆ่าชาวจีน การร่วมมือกับเยอรมนี
แต่ในบรรดาชาวญี่ปุ่น ก็ยังมีคนใจบุญที่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่
หนึ่งในนั้นคือ “ชิอูเนะ ซูงิฮาระ”
5
ซูงิฮาระเป็นนักการทูตชาวญี่ปุ่นที่ประจำการอยู่ที่ประเทศลิทัวเนีย ด้วยความที่เขาสามารถพูดภาษารัสเซียได้อย่างคล่องแคล่วและเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในแมนจูเรีย
1
หน้าที่ของเขาในเวลานั้นคือการจับตาดูความเคลื่อนไหวของโซเวียตและเยอรมนีให้กับญี่ปุ่น แต่ต่อมาก็ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษ
ในช่วงเวลาที่เขามาอยู่ที่ลิทัวเนียได้ไม่นาน ฮิตเลอร์ได้บุกเข้ายึดโปแลนด์และเริ่มทำการสังหารหมู่ชาวยิวครั้งใหญ่ จนทำให้มีชาวยิวจำนวนมากพยายามลี้ภัยมายังประเทศลิทัวเนีย แต่กลายเป็นต้องมาติดอยู่กับโซเวียต
1
ซูงิฮาระได้ใช้ตำแหน่งของเขาช่วยเหลือชาวยิวด้วยการให้พวกเขาติดต่อลี้ภัยไปญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นทางเลือกที่ดีที่จะหนีจากค่ายกักกันของฮิตเลอร์
แต่ในตอนนั้นทางญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะออกวีซ่าให้กับผู้ลี้ภัยและเรียกตัวซูงิฮาระกลับประเทศ ซึ่งหากเขาขัดคำสั่ง ทั้งตัวเขาเองและที่บ้านก็จะต้องตกอยู่ในอันตราย
แต่ด้วยความยึดมั่นในความดี ซูงิฮาระฮาระตัดสินใจขัดคำสั่งของญี่ปุ่น เขาขอเลื่อนวันกลับประเทศออกไป ก่อนที่จะร่วมมือกับภรรยาลักลอบเขียนวีซ่าให้กับชาวยิวตลอด 29 วันในปีค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) และออกวีซ่าแบบครอบครัวให้ชาวยิวเฉลี่ย 300 เล่มต่อวัน
ซูงิฮาระถึงกับโยนตราวีซ่าเปล่าๆ และประทับตราของตัวเองให้กับชาวยิวที่เหลืออยู่ในวันที่ตนเองโดนบังคับให้ออกจากลิทัวเนีย ซึ่งแม้ว่านี่จะนับเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่สำหรับเขาแล้ว เขาคิดว่าวีซ่าและตราประทับเหล่านี้อาจจะช่วยเหลือคนได้
หลังจากที่ออกจากลิทัวเนีย ซูงิฮาระก็ได้เดินทางไปมาในอีกหลายประเทศ ก่อนที่จะถูกจับเป็นนักโทษสงครามโดยโซเวียต และต้องใช้ชีวิตในค่ายกักกันนักโทษอยู่ราวๆ 18 เดือน ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับญี่ปุ่นและโดนบังคับให้ออกจากงาน
เรื่องราวของซูงิฮาระได้เงียบหายไปจากประวัติศาสตร์อยู่นานจนกระทั่งเหล่าชาวยิวได้เริ่มออกตามหาตัวเขา และทำให้เรื่องราวของชายผู้ช่วยเหลือชาวยิวไปกว่า 40,000 รายคนนี้กลายเป็นที่จดจำของโลกและทำให้เขาได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติในเวลาต่อมา
1
โฆษณา