15 มิ.ย. 2019 เวลา 16:45 • กีฬา
ผู้ที่ทำให้บาร์เซโลน่าพ่ายแพ้สิ้นท่ามานานเกือบทศวรรษ (ตอนที่ 1)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สงครามในสนามบานปลายออกไปนอกสนาม มันเป็นเรื่องของ "เกมจบ คน(รวย)ไม่จบ" เมื่อการลงทุนมหาศาลกลายเป็นปัจจัยหลักสำหรับทีมฟุตบอลที่ต้องการความสำเร็จระดับทวีป นักฟุตบอลเวิร์ลคลาสกลายเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม สงครามเศรษฐีในตลาดซื้อขายนักฟุตบอลจึงก่อตัวขึ้น
แต่ไม่มีศึกนอกสนามใด จะมันและต่อเนื่องเท่า สงครามเย็นระหว่าง สโมสรบาร์เซโลน่า กับ ปารีส แซ็งต์ แฌร์แม็ง
ในอดีต ถ้าพูดถึงฉายา "เจ้าบุญทุ่ม" ชื่อของสโมสรบาร์เซโลน่าก็ลอยขึ้นมาทันที มันเกิดขึ้นในยุคที่ "ลา มาเซีย" หรืออคาเดมี่ของบาร์เซโลน่ายังไม่มีประสิทธิภาพพอ พวกเขาจึงต้องทุ่มซื้อดาวดังมากมาย ก่อนที่หลุยส์ ฟานกัลจะริเริ่มไอเดีย สร้างบาร์เซโลน่าให้ยิ่งใหญ่ด้วยลามาเซีย หลังจากนั้นประมาณ 10 ปี แนวคิดก็กลายเป็นจริง ในยุคของ โจเซป เป็ป กวาร์ดิโอล่า อดีตเด็กลามาเซียที่เลื่อนชั้นจากโค้ชทีมเยาวชนขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ พาเหล่ายอดมนุษย์ลามาเซียคว้าแชมป์ UCL 2 สมัย, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 2 สมัย, แชมป์ลาลีกา 3 ปีติด, โคปา เดลเรย์ 2 สมัย ในช่วงปี 2008-2012
ในช่วงเวลาที่ลามาเซียกำลังครองโลกฟุตบอล ได้เกิดการเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลโดยมหาเศรษฐีหลายต่อหลายทีม หนึ่งในนั้นคือการเทคโอเวอร์สโมสรปารีส แซ็งต์ แฌร์แม็ง ในปี 2011 โดยกลุ่มทุนจากกาตาร์ (Qatar Sports Investments) นำโดยนายนาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ (Mr. Nasser Al-Khelaifi) ผู้ซึ่งบาร์ซ่าคาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นตัวแสบที่สุดสำหรับพวกเขาในอีกไม่กี่ปีถัดมา
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา นักฟุตบอลเทพปานใดก็ต้องมีวันอำลา เช่นเดียวกับนักฟุตบอลจากลามาเซียที่ทยอยแขวนสตั๊ดไปทีละคนสองคน ในเมื่อผลิตผลใหม่จากลามาเซียยังบ่มไม่เข้าที่ พวกเขาจึงต้องกลับมาลงทุนอีกครั้ง วิธีที่ง่ายและเร็วคือการมองหาตัวที่มีแววจะเป็นนักฟุตบอลเวิร์ลคลาส ทำให้หลายทีมทั่วยุโรปเสียคีย์แมนให้บาร์เซโลน่า
แต่ในที่สุดพวกเขาก็พลาดท่าให้ยักษ์ตัวใหม่จากกรุงปารีส
จุดเริ่มต้นคือการถึงวัยใกล้เกษียณของ การ์เลส ปูยอล (Carles Puyol) กองหลังสุภาพบุรูษกัปตันทีม บาร์ซ่าไม่นิ่งนอนใจ ควานหาคู่หูคนใหม่ของ เฌราร์ ปิเก (Gerard Piqué) จนไปเจอ ติอาโก้ ซิลวา (Thiago Silva) ซึ่งกำลังถึงจุดพีกของอาชีพในปี 2012 ด้วยวัย 28 ปี
"ผมเคยอยากจะเล่นให้บาร์เซโลน่า"
"ผมชื่นชมและนับถือทีมนั้นตั้งแต่ผมยังเด็ก แต่ว่า ชีวิตมันก็เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ยากลำบาก และบางครั้ง คุณก็ต้องเลือกเดินคนละเส้นทางกับความฝัน"
"ผมจะได้ (ค่าเหนื่อย) น้อยกว่าที่เปแอสเฌ แล้วทำไมผมต้องได้เงินน้อยกว่าเพื่อที่จะเล่นให้พวกเขาล่ะ? ผมถามตัวเอง ว่า"
"ทำไมนักฟุตบอลต้องเป็นคนเสียสละตลอด"
"เปแอสเฌกำลังเดินถูกทาง เราก็มีความท้าทายมากมายรออยู่ข้างหน้า"
คำเปิดใจของติอาโก้ในปี 2016 นั้น ทำให้เราไม่ต้องการคำอธิบายเพิ่มอีก
2 ปีต่อมา ปูยอลประกาศแขวนสตั๊ด กองหลังดาวรุ่งอย่างมาร์ก บาร์ตรายังไม่ได้รับความไว้วางใจ บาร์ซ่าชี้เป้าไปที่ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังจอมบุกของเชลซี
"ใช่ครับ พวกเขาพยายามอยู่หลายรอบแล้วทุกอย่างก็ดูดี แต่ที่สุดแล้วผมก็รู้สึกว่าทีมที่ต้องการตัวผมจริง ๆ คือ เปแอสเช"
บาร์เซโลน่าสอบถามเชลซีถึงการเซ็นสัญญากับลุยซ์ตั้งแต่ปี 2012 แต่พวกเขาดันหันเหไปหาติอาโก้ ซิลวา เมื่อชวดได้ตัวจึงหันกลับมาหาลุยซ์ แต่ไม่ทันแล้ว การเปลี่ยนทิศของสโมสรทำให้่ลุยซ์คิดได้ว่า ใครกันแน่ที่จริงจังกับเขามากกว่า นั่นทำให้เปแอสเชเป็นผู้ชนะอีกแล้ว ในปี 2014
ปี 2013 ปารีสฯ เซ็นสัญญากองหลังดาวรุ่งสัญชาติบราซิลมาจากโรม่าด้วยราคาที่สูงถึง 31.4 ล้านยูโร ซึ่งสูงมากสำหรับเด็กอายุ 19 ปีในตอนนั้น ในช่วงปีแรก มาร์กวินญอส (Marquinhos) ยังไม่ได้รับโอกาสมากนัก แต่ทักษะของเขาก็ไปเข้าตาทีมแมวมองของบาร์ซ่าจนได้
ปี 2014 บาร์เซโลน่าใช้กลยุทธแอบตอดนักเตะ ยื่นคำขาด "Take it of leave it" แปลว่า "ไม่ย้ายตอนนี้ เราไม่เอาแล้วนะ" พร้อมกับใช้สื่อเล่นข่าว จนทำให้ตัวมาร์กวินญอสนั้นหวั่นไหวกับยักษ์แห่งคาตาลันตามสไตล์นักฟุตบอลอเมริกาใต้ ร้อนไปถึงประธานสโมสร คุณนาสเซอร์ อัลเคไลฟี่ ต้องลงมาเดินหมากด้วยตัวเอง เขาสั่งให้ทีมมอบสัญญาใหม่ที่มาร์กวินญอสปฏิเสธไม่ลงทันที มาร์กวินญอสต่อสัญญาถึง 2019
แต่ท่านชีคเริ่มไม่โอเคแล้ว
เส้นความอดทนขาดสะบั้น เมื่อทีมจากสเปนหาญกล้าไปแตะนักเตะอิตาเลี่ยนที่เป็นดั่งลูกรักของท่านประธานในช่วงซัมเมอร์ 2017
รูป: Teerapong Yordpakdee
โฆษณา