15 มิ.ย. 2019 เวลา 16:51 • กีฬา
ผู้ที่ทำให้บาร์เซโลน่าพ่ายแพ้สิ้นท่ามานานเกือบทศวรรษ (ตอนที่ 2)
1
หลังจากความพยายามตามหาตัวแทนการ์เลส ปูโยลถูกท่านชีคอัล-เคไลฟี่ (เจ้าของทีมเปแอสเฌ) ทำลายถึง 3 ครั้งติด บาร์เซโลน่าก็ไม่สามารถหาเซ็นเตอร์แบ็กที่ถูกใจได้จนต้องถอย ฆาเบียร์ มัสเชราโน่ กลางรับร่างเล็กลงไปยืนคู่ เฌราร์ ปิเก จนกระทั่งได้ ซามูเอล อูมิติตี้มาในปี 2016
แต่บาร์เซโลน่าก็ยังไม่หยุดแหย่เท้าลงบ่อน้ำมัน ปี 2017 พวกเขาสร้างวีรกรรมครั้งใหม่ และมันทำให้สโมสรเสียหลายร้อยล้านปอนด์มาจนถึงทุกวันนี้
ก่อนที่ชาบี (Xavi Xavier Hernandez) มิดฟิลด์ตาเหยี่ยวจะอำลาทีมในปี 2015 บาร์ซาคาดหวังว่าจะมีเด็กจากลามาเซียสักคนก้าวขึ้นมาสานงานต่อ แต่ไม่มีใครทำได้ แม้แต้ เชสก์ ฟาเบรกาส (Cesc Fabregas) ตัวเทพจากลามาเซียและอาร์เซนอล ก็ทำไม่ได้ ไปเซ็น อังเกร โกเมซ, เดนิส ซัวเรส เข้าทีมมา ก็ยังไม่ใช่คำตอบ
ช่วงมกราคม 2017 สื่อสเปนและฝรั่งเศสเริ่มตีข่าว บาร์ซ่าหาตัวแทนชาบี้ได้แล้ว พวกเขาต้องการตัว มาร์โก แวร์รัตติ (Marco Veratti) ห้องเครื่องจากปารีสฯ พร้อมจะจ่าย 80 ล้านยูโรทันที
1
หลังจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีก 2016-17 รอบ 16 ทีม แลกแรกจบ บาร์เซโลน่าโดนเปแอสเฌถล่มถึง 4-0 แต่ฟอร์มของแวร์รัตติไปเข้าตานักเตะบาร์ซ่า
"ตอนที่แวร์รัตติล้มลงบนพื้นสนามและได้รับบาดเจ็บ ผมเดินไปบอกอินิเอสตาว่า นั่นน่ะ ทายาทของคุณ"
1
อินิเอสตา (Iniesta) พยักหน้า แล้วกล่าวสั้น ๆ ว่า "ใช่" แบลส มาตุยดี้ อดีตนักเตะของปารีสฯ เปิดเผย
"พวกเราต้องการแวร์รัตติ และแวร์รัตติก็ต้องการย้ายมา"
"แวร์รัตติ คือผู้เล่นที่เราอยากให้ย้ายมา ทีมโค้ชเชื่อว่าเขาดีพอที่จะเล่นในแผงกองกลางของบาร์ซ่า" โจเซป บาร์โตเมว" ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าเปิดเผยตรงไปตรงมา
ไม่ว่ามาร์โกจะเป็นนิวชาบี, นิวอินิเอสตา, หรือนิวอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญกว่าคือ บาร์เซโลน่าต้องการตัวเขาเป็นที่สุด ในซัมเมอร์ที่จะถึงนั้นเลย
1
บรรดาสื่อยังคงโหมข่าวความต้องการตัวแวร์รัตติ และความเหมาะสมที่จะเป็นตำนานอาลซูกราน่าคนต่อไป ตามสไตล์บาร์เซโลน่า
ไม่เพียงเท่านั้น กระแสข่าวแวร์รัตติอยากย้ายทีมก็มาเป็นระยะ ๆ ยิ่งปารีสฯ แห้วทั้งแชมป์ยุโรปและแชมป์ลีกเอิง ข่าวก็ยิ่งพัดโหมกระหน่ำ
ช่วงปลายเดือนมิถุนายน สำนักข่าวฝรั่งเศส เลอ กิ๊ป (L'Équipe) ออกบทความพิเศษ อ้างถึงสัมภาษณ์ของแวร์รัตติว่า นักเตะคิดเรื่องย้ายทีมจริง เพราะสงสัยในความทะเยอทะยานของต้นสังกัด แต่ความคิดก็เปลี่ยนไปในที่สุด
"เมื่อผอ.กีฬาคนใหม่ อันเตโร เอนริเก มาถึง สิ่งแรกที่ผมทำคือกลับจากการพักผ่อนช่วงซัมเมอร์เพื่อเข้าพบเขา
หลังจากได้คุยกันครั้งแรก ผมก็บอกเขาทันทีว่า ดีครับ ผมจะอยู่ต่อ"
7 กรกฎาคม 2017 โดนา ดิ คัมปลิ เอเยนต์ส่วนตัวของ มาร์โก แวร์รัตติ ผู้พยายามผลักดันให้ลูกค้าย้ายสโมสร ให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาเลี่ยนแบบโคตรจัดเต็ม
"เรารู้ว่านักเตะน้อมรับกับคำเชิญให้ไปเล่นให้บาร์ซ่า แต่เมื่อต่อสายหาเปแอสเฌและได้คุยกับท่านประธาน เขาพูดเลยว่า แวร์รัตติไม่ได้มีไว้ขาย ก็เลยไม่มีค่าฉีกสัญญา " ดิ คัมปลิยกสัมภาษณ์ของประธานสโมสรบาร์เซโลน่าขึ้นมา เพื่ออธิบายสถานการณ์ว่าทำไมถึงไม่มีการยื่นข้อเสนอเกิดขึ้น
"การปฏิเสธข้อเสนอ 100 ล้านยูโรมันกลายเป็นเรื่องของความภาคภูมิใจ คุณรู้มะ ว่าท่าน นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ พูดอะไรกับผม?"
"เขาบอกว่านักเตะมีสัญญาถึงปี 2021 และเขาก็ไม่มีทางปล่อยแวร์รัตติไป เพราะเป็นนักเตะที่เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์และเป็นศูนย์กลางของทีม"
"เขาบอกว่าหากเขาขายนักเตะไป เก้าอี้ของเขาจะร้อนและคนที่โดฮาจะไม่ให้อภัยเขา"
"มาร์โก แวร์รัตติ คือนักโทษของ Emir (ผู้นำกาตาร์)"
หลังจากนั้น แวร์รัตติต้องรีบออกมาขอโทษขอโพยแทนเอเย่นต์ ยืนยันว่ามีความสุขดีกับต้นสังกัด เขามีความเคารพสโมสรที่ทำให้เขาเป็นเขาในทุกวันนี้
"ประโยคนั้นไม่ใช่ของผม และผมได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่"
"ผมหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งและจะโฟกัสไปที่การทำงานหนักให้ดีที่สุดสำหรับสโมสร"
19 กรกฎาคมปีเดียวกัน แวร์รัตติแถลงการณ์ขอบคุณ ดิ คัมปลิและเปลี่ยนเอเย่นต์เป็น มิโน ไรโอล่า
ต่อมามีการเปิดเผยว่า แวร์รัตติไม่เคยอยากย้ายสโมสรเลย
"มีนักเตะมากมายย้ายเข้าและออกจากเปแอสเฌ แวร์รัตติเป็นคนเดียวที่ผมไม่เคยเห็นทีท่าว่าเขาจะอยากออกจากทีมเลย เขาแค่อยากได้สัญญาใหม่เท่านั้นเอง" คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตเฮดโค้ชกล่าว
เดือนสิงหาคม แวร์รัตติได้ต่อสัญญาใหม่กับสโมสรปารีส แซ็ง แชร์แม็งต์
1 ปีต่อมา มีข่าวลือว่า ไรโอล่านำแวร์รัตติไปเสนอขายให้บาร์เซโลน่า แต่ได้รับคำตอบว่า "ไม่" เนื่องจากเซ็นสัญญากับ อาร์ตู (Arthur) แล้ว
เรื่องของแวร์รัตติกับบาร์เซโลน่าจึงถึงฉากจบบริบูรณ์ ทว่า เขากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดศึกใหม่ระหว่างสองสโมสร
ในซัมเมอร์เดียวกันกับที่เกือบเสียแวร์รัตติ สโมสรเปแอสเฌรับรู้ว่าบรรดานักฟุตบอลกำลังรู้สึกถึง "ความไม่ทะเยอทะยาน" ของสโมสร พวกเขาต้องทำอะไรสักอย่าง
ย้อนกลับไปตอนศึกแชมเปี้ยนส์ลีก 2017 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปารีสฯ อุตส่าห์เปิดบ้านยิงขึ้นนำในเลกแรก 4-0 แต่กลับแพ้บาร์เซโลน่า 1-6 ตกรอบด้วยประตูรวม 5-6 นับเป็นการคัมแบ็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกมหนึ่งในประวัติศาสตร์ UCL และคนที่เป็นพระเอกก็ไม่ใช่ ลีโอเนล เมสซี่ แต่เป็น เนย์มาร์ จูเนียร์ (Neymar Jr.)
เกมดำเนินไปถึงนาทีที่ 88 แล้วและผลคะแนนรวมก็หยุดอยู่ที่ 5-3 บาร์เซโลน่าต้องการ 3 ประตูขึ้นไปถึงจะพลิกนรกได้ ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
เนย์มาร์ กดฟรีคิกนาทีที่ 88 สังหารจุดโทษนาทีที่ 91 และถวายพานให้แซร์กี โรแบร์โต้หลุดไปยิงนาทีที่ 95 จบเกม เนย์มาร์ถีบปารีสฯ ตกรอบเฉยเลย
แต่นั่นกลับเป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายระหว่างดาวยิงท่าเยอะจากบราซิลกับเจ้าบุญทุ่มแห่งคาตาลัน
เนย์มาร์มักมีข่าวไม่พอใจสถานะในทีมที่ต้องเป็นเพียงเงาของ ลีโอเนล เมสซี่ ตลอดมา และในเมื่อสื่อคาตาลันเลือกที่จะยกย่องเมสซี่แทนที่จะเป็นผู้กอบกู้ทีมอย่างเขา มันทำให้เขารู้ตัวว่า อนาคตของเขาคงไม่ใช่ที่บาร์เซโลน่าอีกต่อไป
ถึงคุณพ่อของจูเนียร์ออกมาปฏิเสธข่าวภายหลังว่านั้นไม่ใช่ความจริง แต่ก็เป็นที่รู้กันว่่า แม้นักเตะจะเคารพเมสซี่และรักที่ได้อยู่ในทีมในฝัน แต่เขาก็มีอีกหนึ่งความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง หากยังเล่นอยู่กับเมสซี่
นั่นคือการได้เป็นเจ้าของถ้วยรางวัล บังลงดอร์
ปารีสฯ ต้องการสร้างโปรเจ็กใหม่ที่มีสตาร์นำทีม แวร์รัตติบอกสโมสรว่า เขาต้องการ เนย์มาร์ จูเนียร์
ปารีสฯ มองเห็นว่าการได้ตัวเนย์มาร์นั้นเป็นดีลที่ดีต่อทีมมหาศาล ทั้งประกาศตัวเรื่องความทะเยอทะยาน, รายได้จากสตาร์, ผลงานใน UCL ที่น่าคาดหวังกว่าเดิม, แถมยังได้แก้เผ็ดบาร์ซ่าที่ถีบพวกเขาตกรอบและเอาคืนเรื่องแวร์รัตติด้วย
แต่นักเตะสเปนทุกคนมีค่าฉีกสัญญา กฎการจ่ายเงินคือ นักฟุตบอลต้องเอาเงินไปให้ตัวกลางอย่างลาลีกา แล้วให้ลาลีกามอบเงินให้สโมสรต้นสังกัดอีกที (สโมสรปลายทางจ่ายเองไม่ได้ และนักเตะก็จ่ายให้ต้นสังกัดโดยตรงไม่ได้)
สำหรับเนย์มาร์นั้นมีราคาสูงถึง 222 ล้านยูโร ปารีสฯ เงินถึงแต่ซื้อไม่ได้ เพราะบาร์ซ่าขู่จะฟ้องละเมิดกฎ Financial Fair Play (FFP)
สุดท้ายปารีสแก้แก้มด้วยความร่วมมือกับนักฟุตบอล ด้านเนย์มาร์นั้นจะได้เงิน 300 ล้านยูโรมาจากการเป็น 2022 World Cup Ambassador ที่จะจัดที่กาตาร์ และยังเป็น Global Brand Ambassador ของ แบงค์ชาติกาตาร์อีก (QNB) ทำให้เขาสามารถเบิกเงิน 222 ล้านยูโร มาจ่ายค่าฉีกสัญญาให้ตัวเอง แม้ลาลีกาไม่รับเงิน อ้างว่ากลัวผิดกฎ FFP แต่ที่สุดแล้วยูฟ่าก็ชี้แจ้งว่าไม่ผิด เนย์มาร์สามารถย้ายทีมได้
ส่วนกรณีของคิเลี่ยน เอมบาปเป้ ปารีสฯ ใช้วิธียืมตัวจากโมนาโกหนึ่งปี แล้วค่อยจ่าย 180 ล้านยูโร (145 ล้าน+ ad-on) ในปี 2018 ปารีสฯ ได้ทั้งเนย์มาร์และเอมบาปเป้ในซัมเมอร์ 2017 แบบที่ว่ากฏการเงินก็ทำอะไรไม่ได้
เรียกได้ว่าท่านประธานโจเซปคงได้แต่ร้องบัดซบในห้องทำงาน ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ กันเลยทีเดียว
จนถึงตอนนี้ บาร์เซโลน่าก็ยังหาตัวแทนเนย์มาร์ไม่ได้ ทั้ง เดมเบเล่ (88 ล้านปอนด์) และ คูตินโญ่ (142 ล้านปอนด์) ก็ยังไม่สามารถพาบาร์ซ่าไปถึงรอบชิงยูซีแอลแบบเนย์มาร์ทำได้อีกเลย รวมไปถึงค่าลิขสิทธิ์และค่าเสื้อหลายร้อยล้่านที่ขาดหายไปจากการไม่มี เนย์มาร์ จูเนียร์
มีข่าวลือว่า ก่อนที่จะเสียเนย์มาร์ บาร์ซ่าแอบย่องไปเป่าหูนักเตะคนหนึ่ง เรียกว่าเป่าหูเอเย่นต์คนสนิทดีกว่า บาร์ซ่าไปยุคุณแม่ซึ่งเป็นนายหน้าของ อาเดรียน ราบิโอต์ ให้ไม่ต่อสัญญากับปารีสฯ ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2019 บาร์เซโลน่ายินดีที่จะเฝ้ารอเพื่อที่จะได้ตัวนักเตะฟรี ๆ ส่วนฝั่งนักเตะนั้นก็ยินดีที่จะย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว ได้ทั้งโอกาสลงเล่นและได้ทั้งเงินโบนัสก้อนใหญ่จากบาร์ซ่าด้วย
สิงหาคม 2017 ราบิโอต์ให้สัมภาษณ์ว่า เขายังไม่รีบร้อนเรื่องต่อสัญญา ขอโฟกัสที่ผลงานในสนามก่อน ท่ามกลางข่าวเชื่อมโยงกับหลายสโมสร
1
ก่อนเปิดซีซั่น 2018 ราบิโอต์ก็ยังไม่ยอมเซ็นสัญญาใหม่ เรื่องราวทุกอย่างมาเฉลยในเดือนธันวาคม ก่่อนที่สัญญาของราบิโอต์จะเข้าสู่ช่วงหกเดือนสุดท้าย
นางเวโรนิกา คุณแม่และเอเย่นต์ส่วนตัวเปิดเผยว่าลูกชายของเขาจะย้ายออกจากปารีสฯ ในซัมเมอร์ 2019 เป็นการ "ซื้ออิสระให้ตนเอง" แต่ปฏิเสธข่าวบรรลุข้อตกลงกับบาร์เซโลน่า เพราะยังไม่มีสิทธิคุยกับสโมสรอื่นจนกว่าจะถึงวันที่ 1 มกราคม
ท่าน อัล-เคไลฟี่ แก้เกมด้วยการประกาศว่า ราบิโอต์จะสามารถย้ายทีมได้ในเดือนมกราคม 2019 (ก่อนหมดสัญญาหกเดือน) ด้วยราคาเพียง 10 ล้านยูโร! สำหรับทีมใดก็ได้ ยกเว้น บาร์เซโลน่า
วันที่ 30 มิถุนายน 2019 นี้ สัญญาของราบิโอต์กับปารีสฯ จะหมดลงอย่างเป็นทางการ เขาสามารถย้ายทีมได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนเซ็นสัญญา ส่วนหนึ่งเพราะ ไม่ค่อยมีใครอยากทำธุรกิจกับคุณแม่เขี้ยวลากดินของเขา ที่เรียกค่าตัวเน็ต 15 ล้านยูโร และค่าเหนื่อยระดับ 170,000 ปอนด์/สัปดาห์ (10 ล้านยูโรต่อปี) และต้องมาเรียกความฟิตขนานใหญ่ เนื่องจากราบิโอต์ถูกดร็อปจากทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ธันวาคม 2018
ฝั่งเปแอสเฌเริ่มเล่นเกมโต้กลับบ้าง ช่วงซัมเมอร์ 2018 ท่านชีกยื่นเงิน 90 ล้านยูโรให้บาร์เซโลน่าแลกกับการได้ตัวมิดฟิลด์รองแชมป์โลก อิวาน ราคิติช (Ivan Rakitic) ซึ่งนั่นเป็นมูลค่าที่สูงเกินกว่าที่บอร์ดบริหารของบาร์ซ่าประเมินเอาไว้หลายเท่า แต่ทว่าเฮดโค้ช เอร์เนสโต บัลเบร์เด ไม่ต้องการเสียนักเตะไปและตัวนักเตะก็ไม่ได้อยากย้ายทีม ดีลนี้จึงล่มไปแบบเงียบ ๆ
ไม่ใช่ว่าเงิน (ที่ไม่มากพอ) จะชนะทุกสิ่งเสมอไป ทั้งแมนซิตี้, บาร์เซโลน่า, และเปแอสเฌ ต่างต้องการจอมทัพของสโมสรอายักซ์ อัมสเตอร์ดัม เฟรงกี เดอ ยอง (Frenkie de Jong)
ทีมที่หงายไพ่ก่อนคือฝั่งปารีส ด้วยราคาสูงถึง 80 ล้านยูโร แต่ความมุ่งมั่นที่จะเป็นสานต่อตำนานของโยฮัน ครัฟฟ์ก็ทำให้ เดอ ยอง เลือกไปคาตาลันด้วยราคา 75 ล้านยูโร (ไม่รวมโบนัสอีก 11 ล้านยูโร) เตรียมเปิดตัววันที่ 1 กรกฎาคม 2019 นี้ แบบไร้คู่แข่ง
และไม่ใช่ทุกคนที่ เงินจะซื้อไม่ได้ ถึงแม้ว่าที่บาร์เซโลน่าจะมีทั้งเพื่อนรักและตำนานผู้เป็นไอดอลรออยู่ แต่มันก็อาจมีบางสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น
มัทไธจน์ เดอ ลิกต์ (Matthijs de Ligt) ปราการหลังวัย 19 ปีจากสโมสรเดียวกับเดอ ยอง คือนักฟุตบอลที่คุณได้ยินชื่อถี่ที่สุดในซัมเมอร์ 2019 นี้ ใคร ๆ ก็ต่างอยากได้เขาไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล, แมนยู, แมนซิตี้, อาร์เซนอล, ยูเวนตุส, บาเยิร์น, บาร์เซโลน่า ทุกวันเต็มไปด้วยการคาดเดาว่าเซนเตอร์สุดฮอตคนนี้ไปลงเอยที่ใด
เริ่มที่ ลิเวอร์พูลและแมนซิตี้ แล้วสโมสรก็ปฏิเสธไป จากนั้นก็ค่อย ๆ ถอยกันทีละสโมสรด้วยค่าเหนื่อยที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสียดฟ้า
บาร์เซโลน่าคือตัวเต็งในการได้สัญญา ตกลงราคา 75 ล้านปอนด์กับอายักซ์แล้ว ค่าเหนื่อยโอเคแล้ว ติดอยู่ที่ค่านายหน้าที่ต้องจ่ายให้มิโน ไรโอล่าที่ยังแกว่งอยู่ระหว่าง 10 - 20 ล้านปอนด์
อยู่ดี ๆ ก็มีข่าวว่า ไรโอล่ากำลังเจรจาอยู่กับปารีสฯ และกลายเป็นตัวเต็งทันที ตอนแรกมีข่าวว่าปารีสฯ ยินดีจ่ายค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ตามที่นักเตะต้องการ เรื่องไปไกลถึงข่าวที่ว่า ปารีสฯ ยินดีจ่าย 340,000 ปอนด์/สัปดาห์ ครอบครัวเดอลิกต์กำลังหาบ้านใหม่ในปารีสอยู่
ส่วนตัวเดอ ลิกต์เอ่ยแค่ว่า "ขอเวลาคิดก่อนนะครับ ยังไม่รู้ว่าหัวใจต้องการอะไร อยากไปอยู่ที่ทีมเป็นตัวหลักและได้ลงเล่นเยอะ ๆ ครับ"
แม้ยังไม่สรุปว่าอนาคตของเดอ ลิกต์จะไปลงเอยที่ปารีสหรือไม่ แต่แว่วมาว่า ท่านประธานโจเซป บาร์โตเมว หัวฟัดหัวเหวี่ยงพอควรเลย รวมไปถึงตัวเฮดโค้ช บัลเบร์เด ที่ถึงขั้นจะล้มดีลซื้อกองหลังคนอื่นในซัมเมอร์นี้ไปเลย หากไม่ได้ตัวเดอ ลิกต์มาร่วมทีม
แม้ว่าเอเย่นต์ มิโน ไรโอล่า ออกมาปฏิเสธข่าวตกลงค่าเหนื่อยกับปารีส ฯ ได้แล้วว่าเป็น "ข่าวมั่ว" แต่ก็ทำให้เห็นเกมนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ซะแล้วสำหรับเจ้าบุญทุ่มทั้งหลาย
สงครามเจ้าบุญทุ่มระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ ปารีส แซ็งต์ แฌร์แม็ง ยาวนานมาตั้งแต่ปี 2012 และยังไม่มีทีท่าจะจบง่าย ๆ เพราะมีข่าวว่าบาร์ซ่าจะเอาเนย์มาร์คืนด้วย และยังมีการแย่งตัวเอ็นด็อมเบเล่ของลียงกันอีก
ที่สำคัญ มันไม่ใช่แค่การทะเลาะตบตีกันระหว่างสองสโมสร แต่มันส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้ตลาดซื้อขายนักฟุตบอลของสโมสรยุโรป รวนกันไปหมด นั่นเลยเป็นเหตุผลว่า หลายสโมสรเริ่มที่จะพยายามเอาตัวเองออกจากวังวนนี้ ด้วยการที่พยายามจะยกระดับสโมสรให้เป็นเต้ยในยุโรป เพื่อที่จะทำให้นักฟุตบอลตัวหลักในทีมไม่อยากย้ายทีมอื่นอีก ในขณะเดียวกันก็พยายามจะปั้นเยาวชนขึ้นทีมชุดใหญ่ให้ได้มากที่สุด
เรื่องเล่่าของ Transfer War ระหว่างมุมน้ำเงินจากปารีส กับ มุมแดงเลือดหมูจากคาตาลันจบลงเพียงเท่านี้ แต่ในชีวิตจริง ศึกนี้ยังอีกยาวและเละตุ้มเป๊ะได้กว่านี้อีก
รูป : Teerapong Yordpakdee
โฆษณา