ทีม Theranos เลือกที่จะมุ่งเป้าพัฒนาเฉพาะเครื่องมือวินิจฉัยโรคจากเลือดโดยผสมผสานเทคนิคเชิง microfluidic และชีวเคมี เข้าด้วยกัน Elizabeth วาดภาพไว้ว่า คนไข้เพียงแค่เจาะเลือดจากปลายนิ้วใส่ลงในเครื่องอ่าน ซึ่งจะแยกพลาสมาส่งไปทำปฏิกิริยากับ antibody ที่มีความจำเพาะกับสารเคมีต่างๆในเลือด หลังจากทำปฏิกิริยาเสร็จแล้ว เครื่องมือก็จะส่งข้อมูลออนไลน์ไปให้หมอ Elizabeth ตั้งใจว่าเครื่องมือของเธอจะสามารถวัดสารได้เกือบทุกชนิด มีขนาดเล็ก และสามารถซื้อไปใช้ในครัวเรือน เธอเชื่อมั่นว่าบริษัทของเธอจะพลิกโฉมอุตสาหกรรมการแพทย์ให้ดีขึ้นสำหรับทุกคน
วิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่และสายสัมพันธ์อันกว้างขวางของ Elizabeth ทำให้ Theranos ได้ผู้บริหารมือดีและนักลงทุน Venture capital มาร่วมเป็นกรรมการได้หลายคน ด้วยอายุที่น้อยแสนน้อย ภาพลักษณ์ดูดีชาญฉลาด ความสามารถในการตรึงผู้ฟังให้หลงใหลในเสียงทุ้มต่ำผิดหญิงและดวงตาสีฟ้ากลมโตที่แทบไม่กระพริบ รวมถึงการแต่งตัวด้วยเสื้อคอเต่าสีดำเลียนแบบศาสดา Jobs ทำให้ Elizabeth เป็น CEO รุ่นใหม่ที่ทุกคนจับตามอง ขนานนามว่านางคือ Steve Jobs ภาคสตรีที่จะทำให้แผ่นดิน Silicon Valley ต้องสั่นสะเทือนด้วยเทคโนโลยีที่จะปฏิวัติวงการแพทย์
ไม่ว่าข้างในบริษัทจะปั่นป่วนแค่ไหน แต่ความสุกใสของภาพพจน์บริษัททำให้สื่อทั้งหลายต่างพากันให้ความสนใจ Elizabeth Holmes หนังสือนิตยสารระดับโลก เช่น Forbes Fortune หรือ New York Times เรียงรายมาขอให้เธอขึ้นปก เวทีไหนๆก็อยากให้เธอไปพูด ไม่ว่าจะเป็น TED Talk หรือเวทีอภิปรายกระทบไหล่ Bill Clinton และ Jack Ma
ในปี 2014 Theranos ได้รับการประเมินค่าอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ Elizabeth มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ เธอจึงกลายเป็นเศรษฐีพันล้านหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่สร้างทรัพย์สินมาด้วยมือของเธอเอง Elizabeth ทำตัวแบบเซเลป จ้างบอดี้การ์ดชุดดำหลายคนรายล้อม จ้างเชฟส่วนตัวที่ตามเธอไปทุกที่ และเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เธอยังจ้างบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่เจ้าเดียวกับที่ Apple เคยใช้มาทำ PR ให้บริษัท และจ้างทนายมือหนี่งของประเทศ นามว่า David Boies มาเป็นทนายประจำบริษัท
แต่วิมานในอากาศของ Elizabeth นั้นลอยอยู่บนฟ้าได้ไม่นาน