23 มิ.ย. 2019 เวลา 02:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เปิดทำเนียบงานวิจัยลวงโลก
ตอนที่ 5 เลือดหยดเดียว (บทจบ) (ค.ศ. 2003-2018)
ปราสาทที่ไร้เสาเข็ม ไฉนเลยจะยืนค้ำฟ้าอยู่ได้
ต่อจากตอนที่แล้ว https://www.blockdit.com/articles/5d05d2ad126af710040cd910
ในปี 2014 เมื่อ Walgreens wellness center ประเดิมใช้ miniLab ของ Theranos ที่มลรัฐแอริโซนาได้ไม่นาน ทั้งหมอทั้งคนไข้ก็ร้องเรียนเข้ามาที่ Theranos อย่างไม่ขาดสาย ลูกค้าหลายคนเดินเข้า Walgreens หวังว่าจะเสียเลือดแค่หยดเดียว แต่กลับถูกเจาะเลือดแบบมาตรฐาน แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือผลตรวจเลือดที่มีความคลาดเคลื่อนมาก คนไข้บางรายตรวจพบปริมาณโพแทสเซียมในเลือดสูงมาก ทำให้เกิดอาการแตกตื่น ต้องแอดมิดตัวเองเข้าโรงพยาบาลเพื่อที่จะพบว่าผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาลเป็นปกติ บางคนได้ผลตรวจเลือดมาว่าปกติ แต่ไม่ทันไรเกิดอาการหัวใจวายซะงั้น หมอหลายต่อหลายคนร้องเรียนเข้ามาที่แล็บทดสอบของ Theranos ซึ่งอยู่ในความดูแลของ Alan Beam หัวหน้าแล็บผู้มีดีกรีแพทย์
Alan แจ้งคำร้องเรียนไปถึงผู้บริหารครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข เขาเกิดความท้อแท้และละอายใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่สร้างอันตรายให้คนไข้ จึงยื่นซองขาวลาออก ความรู้สึกผิดทำให้ Alan ตัดสินใจเปิดโปงความชั่วของ Theranos ให้คนนอกฟังแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างเปิดเผย เพราะ Elizabeth ส่งนักสืบติดตามดูเขาอย่างใกล้ชิด
ไม่ใช่แค่ Alan เท่านั้นที่คันปากอยากแฉ Tyler Shultz เป็นพนักงานอีกคนที่ไม่สามารถอดทนดูพฤติกรรมของ Theranos ได้ Tyler เป็นหลายชายแท้ๆของ George Shultz อดีตนักการเมืองใหญ่ในสภาที่รับตำแหน่งกรรมการบนบอร์ดของ Theranos คุณปู่ George ชื่นชม Elizabeth มาก จน Tyler ตัดสินใจสมัครเข้าทำงานทันทีที่จบการศึกษา เขารับหน้าที่ดูแลการตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องมือ แต่ก็พบว่า Elizabeth สั่งให้ทีมวัดผลเลือกนับเฉพาะข้อมูลที่ผ่านเกณฑ์ ส่วนเทสครั้งไหนไม่ผ่านเกณฑ์ก็ให้ทิ้งไป Tyler ทนเห็นวิธีขี้โกงแบบนี้ไม่ได้ จึงแอบปริ๊นข้อมูล ยัดใส่เสื้อ แล้วก็ตบเท้าลาออก
ในระหว่างที่ Elizabeth กำลังเสพสุขอยู่ท่ามกลางชื่อเสียงเงินทอง มีกลุ่มคนส่วนน้อยที่เกิดความกังขาในเทคโนโลยีของเธอ หนึ่งในนั้นคือคุณหมอนักเขียนบล็อกที่ตั้งข้อสังเกตว่า เด็กที่ไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมจะสามารถสร้างเครื่องมือแพทย์ขั้นสูงที่ไม่เคยมีมาก่อนได้อย่างไร หลังจากขุดคุ้ยดูก็พบว่า Theranos อ้างอิงแค่งานวิจัยจาก predatory journal ที่แทบไม่มีคนอ่าน เมื่อเห็นดังนั้นสัญชาตญาณบล็อกเกอร์ของคุณหมอก็กระตุก หลังจากเขียนแซะบนบล็อกไม่นานก็มีกลุ่มคนที่สงสัย Theranos เป็นทุนเดิมติดต่อเข้ามามากมาย คุณหมอจึงส่งเรื่องนี้ให้นักข่าวสืบสวนสอบสวนที่ Wall Street Journal นามว่า John Carreyrou
เมื่อได้ชิ้นข่าวคุกรุ่น นักข่าวชั้นเซียนอย่าง John ก็ออกล่าทันที เขาได้รับการติดต่อจากทั้ง Alan Beam Tyler Shultz และพนักงานสายกบฏบางคน รวมถึงเมียของ Ian Gibbons พนักงานที่ฆ่าตัวตายไปก่อนหน้า ทำให้ได้ข้อมูลกลโกงของ Theranos นอกจากนี้เขายังเดินทางลงใต้ไปสัมภาษณ์หมอที่ร้องเรียนผลการตรวจเลือดหลายคน หลังจากได้พยานหลักฐานครบถ้วน บทความสืบสวนก็ถูกร่างขึ้น
Tyler Shultz
ด้วยจรรยาบรรณที่ดีของนักข่าว John ติดต่อขอสัมภาษณ์ Elizabeth เพื่อฟังความอีกข้าง เขาส่งลิสต์คำถามให้เธอล่วงหน้าแต่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าพบ คำถามที่ค่อนข้างจำเพาะเจาะจงทำให้ Elizabeth เกิดไหวตัวทัน เธอคาดเดาได้ทันทีว่าพนักงานกบฏเหล่านั้นคือใคร จึงให้ทั้งนักสืบและทนายมือหนึ่งออกตามล่าพยาน พยานทุกคนรวมทั้งหมอที่ให้ปากคำได้รับการติดต่อจากมาเฟียทนาย David Boies ซึ่งขู่ให้พวกเขาปิดปาก ไม่งั้นทุกคนจะถูกฟ้องจนหมดตัวทั้งชั่วโคตร คนที่โดนหนักสุดคือ Tyler Shultz เพราะปู่ของเขาดันเข้าข้าง Elizabeth นำทนาย 3 คนมาข่มขู่ถึงที่บ้าน ครอบครัว Tyler สู้คดีกับ Theranos จนสิ้นเงินไปกว่า 4 แสนดอลลาร์
Elizabeth พยายามทำทุกทางเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ John ตีพิมพ์บทความ ไม่ว่าจะด้วยการใช้ทนายข่มขู่ หรือเข้าทาง Rupert Murdoch เจ้าของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Theranos แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งนักข่าวจิกไม่ปล่อยอย่าง John ไว้ได้ เมื่อบทความถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวันที่ 16 ตุลาคม 2015 แผ่นดิน Theranos ก็ลุกเป็นไฟ Elizabeth ถูกเชิญไปออกรายการทีวีเพื่อให้ความเห็น แต่เธอก็โกหกหน้าตายอย่างไร้ยางอาย
เมื่อขาวฉาวแพร่ออกไป หน่วยงานรัฐทุกหน่วยก็กรูเข้าไปรุมตรวจสอบ Theranos จนพบความจริงว่า miniLab ของ Theranos นั้นใช้งานไม่ได้ การตรวจเลือดเกือบทั้งหมดจาก 250 รายการ ทำบนเครื่องตรวจเลือดที่ซื้อจากบริษัทอื่นมาแกะ มีแค่ประมาณ 12 รายการที่ทำบนเครื่อง Edison ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนจนเกินรับได้ นอกจากนี้ ทั้งแล็บและพนักงานของ Theranos ก็ไร้มาตรฐานสิ้นดี เลือดผู้ป่วยถูกเก็บที่อุณหภูมิไม่ถูกต้อง น้ำยาเคมีต่างๆก็หมดอายุ เหตุนี้ก็เพราะ Sunny ผัวของ Elizabeth ไล่คนเก่งๆที่แข็งข้อออกหมด เหลือไว้แค่คนทำงานไม่เป็นที่ไม่กล้าตั้งคำถามกับนายใหญ่ของบริษัท
Elizabeth ถูกฟ้องหลายข้อหา เธอถูกแบนไม่ให้ควบคุมดูแลแล็บอย่างน้อย 2 ปี ต้องจ่ายค่าปรับในฐานะหลอกลวงผู้ถือหุ้น 5 แสนดอลลาร์ และห้ามก่อตั้งบริษัทมหาชนอีก 10 ปี รัฐแอริโซนาเรียกร้องให้ Theranos รับผิดชอบที่ขายผลตรวจเลือดไร้คุณภาพไปถึง 1.5 ล้านเทส คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ Theranos ยังถูกฟ้องจากคนไข้หลายรายอีกด้วย
ภายใน 6 เดือน Theranos ร่วงจากมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ จนไม่เหลืออะไรเลย พนักงานทั้ง 800 คนถูกให้ออก Sunny เองก็ถูก Elizabeth บอกเลิกและถีบหัวส่ง แต่แค่นั้นยังไม่สาสมกับชีวิตของคนไข้มากมายที่ตกอยู่ในอันตรายจากการวินิจฉัยโรคที่ไม่ถูกต้อง และพนักงานจำนวนมากที่ต้องทำงานด้วยความกลัวจนเสียสุขภาพจิต รวมถึงผู้ถือหุ้นอีกมากมายที่โดนหลอกจนเขางอก
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไรก็ช่างเหลือเชื่อ John Carreyrou เขียนถึง Elizabeth ในหนังสือชื่อ Bad Blood: Secrets and Lies in a Silicon Valley Startup ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีที่สุดในปีนี้ว่า เขาคิดว่า Elizabeth วัย 19 ปีนั้นมีความตั้งใจจริงที่จะสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยคน แต่อิทธิพลแย่ๆจากคนรอบข้างอย่าง Sunny รวมถึงวิธีการทำงานของ Tech company ใน Silicon Valley ที่เน้นแต่จะสร้าง minimum viable product เพื่อบุกตลาดแม้ว่าสินค้ายังไม่ได้คุณภาพ ยุทธวิธีนี้เป็นสิ่งที่ Steve Jobs ไอดอลที่ Elizabeth บูชา ใช้มาหลายครั้ง มารยาเหล่านี้สร้างค่านิยมที่ผิดๆให้กับเธอ ผลักให้เธอโกหกขายฝันครั้งแล้วครั้งเล่า จนความจริงไล่ตามคำโกหกไม่ทัน ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์หรือซอฟแวร์อาจจะเป็นเรื่องพอรับได้ เพราะ bug ที่มีไม่อาจฆ่าใคร แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์มันไม่ใช่แบบนั้น นอกจากนี้เรายังต้องโทษเหล่านักลงทุนที่มัวเมากับความรุ่งเรืองของบริษัท Tech company รุ่นแรกๆ จนมอง Silicon Valley เป็นเหมือนขุมทองที่จะต้องรีบจับจอง ด้วยความหวังว่าวันหนึ่งบริษัทที่ทำกำไรอย่าง Facebook หรือ Google จะโผล่มา ความโลภที่มีจึงลดความเฉลียวใจ ปล่อยให้บริษัทลวงโลกอย่าง Theranos ตั้งอยู่ได้ถึง 13 ปี สร้างผลกระทบร้ายแก่ชีวิตของคนมากมาย
John Carreyrou
ทว่าจวบจนปัจจุบัน Elizabeth ยังไม่เคยต้องไปรับกรรมในคุกเลยแม้แต่วันเดียว ถึงแม้ในขณะที่กำลังสู้คดีพัลวันอยู่ ก็ยังมีข่าวว่าเธอกำลังดิ้นรนหาเงินสร้าง startup บริษัทใหม่ด้วยซ้ำไป
เพราะความยุติธรรมก็เหมือนฝน ตกยังไงก็ไม่ทั่วฟ้า
#นักวิจัยไส้แห้ง
อ้างอิง
Bad Blood: Secrets and Lies in a Silicon Valley Startup โดย John Carreyrou เรื่องราวลงลึกของ Theranos หนังสือสนุกมากวางไม่ลง และกำลังจะถูกสร้างเป็นหนัง โดยมี Jennifer Lawrence มาเล่นเป็น Elizabeth Holmes นะเออ
โฆษณา