20 มิ.ย. 2019 เวลา 06:32 • ธุรกิจ
คุณคิดว่าเราควรถามเรื่องคุณภาพสินค้ากับใคร ระหว่างผู้ที่เคยซื้อ หรือผู้ที่ขายสินค้าให้เรา
ทำไมผมถึงตั้งคำถามนี้ขึ้นมาให้เป็นประเด็น ทุกคนลองคิดภาพตามครับ คนขายสินค้าก็อยากขายสินค้าหรือบริการได้ ซึ่งคนขายก็พยายามไม่บอกข้อเสียของสินค้าตัวเองถึงแม้จะเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆก็ตาม เพราะอะไรหรอ เพราะแค่ข้อบกพร่องหรือข้อเสียนิดเดียวก็สามารถทำให้ลูกค้าบางคนถึงกับปฏิเสธหรือว่าเลื่อนเวลาที่จะซื้อออกไปทันที
ซึ่งถ้าหากเราถามคนขายว่าสินค้าของคุณนั้นมีคุณภาพไหม ผมมั่นใจว่า90%ของการตั้งคำถามนี้ จะได้คำตอบว่ามีคุณภาพหรือดีอย่างแน่นอน
มันเหมือนกับเวลาโฆษณาขายเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวนั่นแหละครับ ที่ทุกแบรนด์ก็จะประกาศตนว่า ตัวเองนั้นมียอดขายอันดับ1ของโลก หรือยอดขายอันดับ1ในประเทศนั้นๆ หรือแม้กระทั่งว่ายอดขายอันดับ1 กี่ปีซ้อน อะไรประมาณนี้
ซึ่งคำถามที่คุณควรตั้งคำถามนั่นก็คือ ทางบริษัทเอาอะไรมาการันตีหรือมาวัดว่าสินค้าคุณเป็นอย่างที่โฆษณาจริง อันดับ1นั้นมันกี่ปีที่แล้ว บางที่มันเป็นช่องว่างในการทำการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้มาใช้สินค้าหรือบริการของผู้ขาย โดยอาศัยจิตวิทยาด้านการโฆษณา เพราะจะมีสักกี่คนที่จะเข้าไปสืบหรือไปหาข้อมูลมาว่า สิ่งที่ผู้ขายพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่
ดังนั้นการที่เราถามคุณภาพของสินค้า เราควรจะถามจากผู้ที่ซื้อสินค้ามาใช้จริงมากกว่าผู้ขาย ไม่ใช่หรือ?
ซึ่งถ้าผู้ที่ใช้จริงส่วนใหญ่ยอมรับว่าดี ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ซื้อสินค้านั้นใช่ไหม
สิ่งที่คุณควรถามจากผู้ขายสินค้าโดยตรงนั้นไม่ได้ถามว่าคุณภาพของคุณดีหรือไม่ เพราะคำถามนี้ต้องให้ผู้ที่ซื้อมาใช้จริงเป็นคนตอบคำถามนี้
แต่สิ่งที่คุณควรถามผู้ขายนั้นคือ "สินค้าของคุณมีข้อเสียหรือข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง" มากกว่าจริงไหม เพราะว่าสินค้าทุกชิ้นบนโลกใบนี้มันมีทั้งข้อดี และข้อเสียอยู่ในตัว มันอยู่ที่ว่าข้อเสียเหล่านั้นคุณยอมรับมันได้หรือไม่ ก็เท่านั้นเอง
ถ้าถูกใจบทความนี้อย่าลืมกดLikeเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ หรือถ้าอยากบอกต่อให้โลกรู้ก็กดShareได้เลยครับ
ติดตามช่องทางบน App Blockdit ของเราได้โดยค้นหาคำว่า : ความรู้วันละหน้ากระดาษ
โฆษณา