20 มิ.ย. 2019 เวลา 15:46
ข้อคิดในการใช้ชีวิตของแจ็คหม่า
1. คุณสามารถทำผิดพลาดเป็นพันครั้งได้ แต่สิ่งเดียวที่ไม่นับเลยคือ “การยอมแพ้”
หม่า หยุน หรือ แจ็ค หม่า เกิดเมื่อปี 1964 ในครอบครัวนักดนตรี ช่วงวัยเด็กของเขาอาจไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะเรียนไม่เก่ง ต้องซ้ำชั้นอนุบาลถึง 7 ปี และมักจะถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้ออยู่เสมอ ด้วยความที่เป็นเด็กตัวเล็กกว่าคนอื่น
แต่เขามีความแตกต่างจากเด็กทั่วๆไป เด็กทั่วๆไปมักใช้เวลาหมดไปกับการเที่ยวเล่น แต่เขากลับเลือกใช้เวลาทุกเช้าวันละ 40 นาที มุ่งมั่นไปกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยปั่นจักรยานไปยังโรงแรม เพื่อคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และอาสาทำหน้าที่เป็นไกด์ทัวร์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งชื่อ "แจ็ค" ของเขาก็มาจากชื่อที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งตั้งให้เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารนั่นเอง
แจ็คหม่า สอบเข้ามหาลัยถึง 3 ครั้งกว่าจะสำเร็จ สมัครงาน 40 กว่าที่ถึงจะได้รับงาน วันหนึ่งมี KFC เข้ามาเปิดร้านในประเทศจีน KFC ประกาศรับตำแหน่งที่ต้องการ 23 ตำแหน่งผู้สมัคร 24 คน คนเดียวที่ไม่ได้คือ แจ็ค หม่า
ครั้งหนึ่ง เคยสมัครไปเป็นพนักงานเสริฟในโรงแรมกับญาติ ปรากฏว่าญาติก็ได้ตำแหน่งไป แม่มองดู แจ็คหม่าแล้วก็ถอนหายใจ แจ็ค หม่ามองว่าชีวิตช่วงก่อนที่จะอายุ 30 ของเขานั้น ถือเป็นการฝึกซ้อมของเขา เพราะเขาผิดหวังและพ่ายแพ้มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญของแจ็คหม่า ก็คือ หัวใจของเค้าไม่เคยยอมแพ้ เขาคิดเสมอว่าเขายังพอมีโอกาสอยู่ ท้ายที่สุดเขาก็ได้เป็นครูในมหาวิทยาลัยอยู่ 5 ปี และได้รับการโหวตว่าเป็นครูดีเด่น
ตอนที่ได้ปริญญาดุษฎีจากฮ่องกง เค้าบอกว่าเค้าไม่เคยฝันเลยว่าจะได้ เค้าเป็นคนที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง ในช่วงเริ่มต้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและความล้มเหลวจนชิน แต่ถึงแม้เขาจะถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่านับไม่ถ้วน ก็ไม่เคยทำให้เขาหมดหวังและยังคงพยายามหางานต่อไป โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "การถูกปฏิเสธซ้ำ ๆ เป็นเหมือนบทเรียนของมหาวิทยาลัยในชีวิตจริงก็เท่านั้นเอง"
สำหรับคนทั่วไป เราจะเชื่ออะไรสัก​อย่าง​ก็ต่อเมื่อ เรามองเห็น แต่ตอนที่ทำธุรกิจในมุมของแจ็คหม่า ไม่มีเงิน ไม่มีทรัพยากร แต่เรามี'' ความเชื่อ''​ในอนาคต มีความฝัน ทำผิดพลาดเป็นร้อยครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ''​การไม่ยอมแพ้''​
1
2. เวลาเลือกงาน คุณควรจะเลือกงานจากหัวหน้าที่เก่ง เพราะเราจะได้เรียนรู้จากเค้า เพื่อจะได้เห็นว่าหัวหน้าที่ดีเป็นยังไง
อายุ 30-40 ช่วงเวลาการลองผิดลองถูก อยากทำอะไรทำเลย
อายุ 40-50 ช่วงเวลาที่ทำอะไรที่เราถนัด ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น
อายุ 50 ขึ้นไป ทำอะไรที่พัฒนาศักยภาพคน
3. ความรวยมาพร้อมกับความรับผิดชอบ
เงินหมื่นล้านที่เค้ามีไม่ใช่เงินของเค้าแต่เป็นความรับผิดชอบที่สังคมมอบให้เค้า นักธุรกิจที่แท้จริงไม่ได้รู้แค่วิธีหาเงิน แต่ต้องรู้วิธีใช้เงินด้วย นักธุรกิจไม่ใช่แค่หาเงินแล้วสร้างแต่ปัญหา แต่ต้องใช้เงินนั้นแก่ปัญหาให้คนอื่นด้วย
4. จงแสวงหาปัญญา (wisdom) ไม่ใช่แค่ความรู้ (knowledge)
3
สิ่งที่ถูกสอนในโรงเรียนตอนนี้ แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ก็คือ เกิดจากความรู้เมื่อ 200 ปีที่แล้ว เราจะเอาชนะหุ่นยนต์ได้ยังไงจากความรู้
200 ปีที่เราถูกสอนมา หุ่นยนต์แม้ว่าจะมีชิพ แต่มนุษย์นั้นมีหัวใจ 20 ปีที่แล้ว เราสอนคนให้เหมือนหุ่นยนต์ มีความรู้ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่อีก 20 ปีข้างหน้า มนุษย์จะเหมือนคน อนาคตโลกจะไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความรู้อีกต่อไป แต่จะขับเคลื่อนด้วยปัญญาและประสบการณ์ โลกเก่าเราขับเคลื่อนด้วยการผลิต แต่โลกใหม่จะขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์
Smart คือ คนฉลาดรู้ว่าต้องการอะไร
Wisdom คือ คนที่รู้ว่าอะไรที่เค้าไม่ต้องการ
โลกจะเต็มไปด้วยข้อมูล ต้องเลือกให้เป็น อะไรที่ไม่จำเป็น เราถึงต้องให้เด็กเรียนดนตรี กีฬา ศิลปะ ให้เราไม่เหมือนหุ่นยนต์ สิ่งที่โลกควรโฟกัส ไม่ใช่ EQ
EQ จะเป็นประโยชน์ในการทำให้คุณก้าวไปข้างหน้า
ส่วน IQ จะช่วยให้คุณมองเห็นความเชื่อมโยงต่างๆ
แต่สำหรับตัวเขาเอง เชื่อว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะ LQ ซึ่งมาจากคำว่า LOVE แจ็คหม่าเชื่อเสมอว่า ถ้าคุณอยากได้ความเคารพ คุณต้องมี LQ เพราะความรักจะทำให้เราใส่ใจผู้อื่น และทำให้เราแตกต่างจากหุ่นยนต์
1
5. เราเกิดมาเพื่อมีความสุข
มีคนถามมาว่าเคยมีเรื่องที่เสียใจบ้างไหม เค้าตอบว่า มี เค้าเสียใจที่ให้เวลากับครอบครัว ภรรยาน้อยไป ภรรยาเคยบอกว่าเค้าไม่เป็นสามีของเธอ แต่เป็นสามีของอาลีบาบา เพราะฉะนั้น เราเกิดมาไม่ใช่แค่เพื่อทำงาน แต่เกิดมาทำให้เราและคนของเรามีความสุขด้วย
If you don’t Give Up, You still have a chance. Giving Up is a greatest failure.
(Jack Ma l Founder of Alibaba)
1
ขอบคุณที่มาจาก Secret Sauce - The standard podcast และ https://money.kapook.com/view99134.html
ภาพจาก Pinterest
โฆษณา