"พญาครุฑ" เก่งแค่ไหนกัน? แล้วทำไมครุฑกับนาค ถึงไม่ถูกกัน?
เปิดตำนาน ครุฑ กับ นาค (ตอนที่1)
วันนี้ผมหาข้อมูลมาเล่าให้ฟังครับ😊
เพื่อความลื่นไหลในเนื้อหา........
หยิบตำนานเก่าเล่าอิง ปุราณะคำภีร์ ของศาสนาฮินดูผสมผสานตำนานไทย ต้นกำเนิดเหล่าทวยเทพ ...
📌สืบเนื่องจากครั้งบรรพกาล ก่อนการกำเนิด"ครุฑ" และ"นาค"
บิดาแห่งพญาทั้ง2เหล่า นามว่า "พระกัศยปเทพบิดร" ได้รับพระราชทานเมีย13นาง ซึ่งเป็นพระธิดาของ"พระทักษะปชาบดี" ผู้มีเศียรเป็นแพะ
จริงๆ"พระทักษะปชาบดี" มีพระธิดาถึง 52คน
ในบรรดาเมียทั้ง13คนนั้น มีอยู่2คน จัดว่าเป็นคู่อริกัน ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่...
คือ ...นาง"วินตา" และ นาง "กัทรุ"
นางทั้ง2 ต่างก็เป็นที่โปรดปราณของพระกัศยปเป็นอันมาก
📌อยู่มาวันหนึ่ง "พระกัศยป" ได้ประทานพรให้แก่นางทั้ง2 ตามต้องการ
นางทั้ง2 มีความต้องการมีบุตรเหมือนกัน แต่ความต้องการแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง...
"หนึ่งนาง" ต้องการ บุตรเป็นจำนวนมากๆ เพื่อปกป้องและเป็นกำลังแก่ตนเอง(เน้นปริมาณ)😁
"ส่วนอีกนางหนึ่ง" ต้องการบุตรที่เก่งกาจเข้มแข็งที่สุด จำนวนไม่ต้องเยอะ(เน้นคุณภาพ)😁
พระกัศยป จึงร่ายมนต์เสกให้ตามต้องการ!!!
นางกัทรุ ซึ่งต้องการลูกมากๆ ได้ลูกเป็นพญานาค 1000ตน" มีพิษร้ายกาจสุดจะทานทน
นางวินตา ต้องการบุตรเข้มแข็ง จึงได้ไข่เพียงไป 2ฟอง ซึ่งจะฟักเป็นตัวในภายหลัง....
นางทั้ง2 ต่างพึงพอใจเป็นอันมาก ต่างเฝ้าดูการเติบโตของลูก
ฝ่ายนางกัทรุ ได้บุตรเป็นพญานาค ตนแล้วตนเล่า นางดีใจเป็นอันมาก
ยิ่งจำนวนเพิ่ม ยิ่งฮึกเหิมและได้ใจ กำเริบเสิบสาน คอยกลั่นแกล้ง"นางวินตา"อยู่เนืองนิจ
แต่ด้านนางวินตา กลับรอแล้วรอเล่า ไข่ก็ยังไม่ฟักซักที ต้องทนรออยู่เพียงลำพัง
เวลาผ่านไป เกินกว่านางจะรอได้อีก...!!!
ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และ ความความรักต่อลูก
นาง"วินตา"จึงตัดสินใจ ทุบไข่ใบหนึ่งออกดู เพราะอยากรู้ว่าจะเป็นยังไง?
และแล้ว......เรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้น.......
ภายในมีเทพ นามว่า "อรุณ"
"ตามตำนาน" เล่าขานมา เทพผู้ใดที่มีความเก่งกาจสามารถนั้น จำต้องบำเพ็ญตบะเพื่อสร้างร่าง และภวนาบารมี...เป็นเวลานานมาก เพื่อความเข้มแข็งของอิทธิฤทธิ์ เวทย์คาถาต่างๆ
"ดังนั้น" หากถูกปลุกขึ้นก่อน จะบำเพ็ญไม่ครบ
"พระอรุณ" ซึ่งมีถูกปลุกก่อนเวลาอันควร สร้างร่างได้ไม่สมบูรณ์ จึงเกิดมามีแค่ "ครึ่งตัวบน"
กลายเป็นเทพ "พิการ" และเป็นเหตุให้พระอรุณโกรธมาก
จึงสาป "นางวินตา" ผู้เป็นแม่ว่า ขอให้นางไปเป็นทาส"นางกัทรุ" ไปอีก 500ปี จนกว่า ไข่ใบที่2จะฟัก
แล้วเมื่อใดก็ตามที่เทพในไข่ใบที่ 2 ผู้เป็นลูกฟักออกจากไข่ เขาจะเป็นผู้ปลดปล่อยนางออกจากคำสาปและช่วยให้เป็นอิสระ
จากนั้น พระอรุณก็เหาะหนีไป ภายหลังไปอยู่กับพระอาทิตย์ ไปเป็นบุตรบุญธรรม ทำหน้าที่ขับรถม้าให้พระอาทิตย์.....
ด้วยเหตุที่พระอรุณขับรถม้าของพระอาทิตย์ เวลาพระอาทิตย์จะขึ้น เราจึงเห็น"อรุณรุ่ง" มาก่อนนั่นเอง
📌ตัดมา อีกช่วงเวลาหนึ่ง....
ในพิธีการกวนเกษียรสมุทร ของบรรดาเหล่าเทพ และ ยักษ์อสูร ซึ่งจะเกิดน้ำอมฤตขึ้น ซึ่งดื่มแล้วเป็นอมตะ
แต่ในการกวนเกษียรสมุทรนั้นไม่ใช่จะได้เฉพาะน้ำอมฤตเพียงอย่างเดียว แต่จะเกิดของวิเศษขึ้นอีก 14 อย่าง....
ปฏิมากรรม พิธีกวนเกษียรสมุทร ที่สุวรรณภูมิ
หนึ่งในนั้นคือ "ม้าอุจไฉศรพ"
ซึ่งในระหว่างพิธีดังกล่าวนั้น....
นางวินตา และนางกัทรุ ได้พนันกันว่า หางของม้า ที่เกิดขึ้นมานั้น จะมีสีอะไร?
ถ้าหากใครแพ้พนัน ต้องเป็นทาสของอีกฝ่ายนึงไปอีก 500ปี
ด้าน "นางกัทรุ" ทายว่า "สีดำ"
ส่วน "นางวินตา" ทายว่า "สีขาว"
มาถึงตรงนี้ ก็คงไม่ต้องเดาแล้วครับ ว่าใครจะทายผิด....
แน่นอนครับ!!! "นางวินตา" ทายผิด เพราะถูก"พระอรุณ" สาปไว้อยู่แล้ว....
"ที่พีค" กว่านั้นคือ จริงๆนางวินตาทายถูกครับ สีของหางม้าจริงๆคือสี "ขาว" แต่ด้วยเล่ห์กลของนางกัทรุ
นางกัทรุให้นาค ลูกๆของนางแปลงกายไปเป็นขนสีดำ ไปแซมอยู่ที่หางของม้า ทำให้หางม้าออกมามีสีดำสนิท
ซึ่งด้วยเล่ห์กลนี้นางวินตา จึงตกเป็นทาสไป อีก500ปี ต้องทนทุข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
📌เวลาก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้า สำหรับความเป็นทาส
"นางวินตา" ถูกกลั่นแกล้งไม่เว้นวัน จากนางกัทรุและบรรดาลูกนาคทั้งหลาย ต้องทนร้องไห้ทุกวัน
เวลาผ่าน อย่างยาวนาน......จนได้เวลา!!!
ไข่ฟัก ออกมาเป็นตัว!!!.....
ปรากฎการณ์แปลก อันเป็นมหามงคล...
เกิดฟ้าร้องสะเทือนเลื่อนลั่น เกิดแสงเจิดจรัสไปทั่วทั้ง3โลก เหล่าเทวดา นางฟ้า ต่างตกในเป็นอันมาก
"เทพบุตร" จุติขึ้นแล้ว !!!
"เวนไตย" คือชื่อก่อนเป็นพญาครุฑ
มีกายเป็น "คนครึ่งนก" รูปร่างสูงใหญ่เทียมฟ้า สง่างาม เปล่งรัศมีสุดจะบรรยาย ยามสยายปีกดูมีอำนาจบารมียิ่งนัก....
"นาม" ของเทพบุตรครึ่งนกคือ "เวนไตย"
สร้างความเกรงขามไปทุกสารทิศ....
รวมไปถึงเหล่าบรรดา"พญานาค" ทั้ง1000 ตน ซึ่งบัดนี้เติบใหญ่เต็มที่ เกิดตระหนกตกใจเป็นอันมาก
นางกัทรุ และบรรดาลูกๆรู้ดีว่าภัยมาแล้ว เพราะการมาของลูกนางวินตาเป็น"เทพบุตร" จุติอย่างแน่นอน นางหวั่นกลัวเป็นอันมาก...
ย้อนนึกไปถึงคำขอพรของนางวินตา "ข้าขอเพียงบุตร2คน ที่เก่งกาจและ เข้มแข็งกว่าบุตรทุกองค์ของนางกัทรุ" ความกลัวของนางกัทรุถึงขีดสุด
แต่เนื่องจากคำมั่นที่"นางวินตา"มีไว้กับ "นางกัทรุ"
นางจึงยังถือไพ่เหนือกว่า...
ทำให้ทั้งนางวินตาและบุตรต้องตกเป็นทาสไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อความลับที่ถูกปกปิดมานาน และยังคงเป็นความลับต่อไป เวนไตยและมารดาจำต้องทนรับใช้นางกัทรุและลูกๆต่อไป
แต่ด้วยความกตัญญูของ เวนไตย จึงทนไม่ได้อีกต่อไปกับการที่เห็นแม่ต้องเป็นทาส และถูกรังแก
จึงอยากปลดปล่อยแม่ให้เป็น"อิสระ"
📌เวนไตยจึงไปขอกับนางกัทรุว่าทำเช่นไร มารดาของตนจึงจะได้เป็นอิสระ
นางกัทรุเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะกำจัดเวนไตยไปซะ โดยการวางแผนให้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้กับเวนไตย
นั่นคือ..ให้บุกไปสวรรค์ ไปชิงเอาน้ำอมฤตที่อยู่กับพระอินทร์มาให้นางและลูกๆกิน
ซึ่งนางก็คาดว่า "ตายแน่" เพราะไม่มีใครจะสู้กับเหล่ากองทัพเทวดาได้อีกทั้งยังมีพระอินทร์ด้วยยิ่งเป็นไปไม่ได้
แต่หาก"รอด" มาได้ นางกับลูกๆก็ได้ดื่มน้ำอมฤต ซึ่งจะทำให้เป็นอมตะไปตลอดกาล
นางกัทรุจึงแจ้งแก่ เวนไตยว่า ให้ไปเอาน้ำอมฤตมาให้ แล้วจะปลดปล่อยนางวินตาไปเป็นอิสระ
"เวนไตย" ด้วยความที่อยากช่วยมารดาจึงไม่สนหน้าอินทร์ หน้าพรหมแล้ว ยังไงก็ต้องทำให้ได้!!!
จบตอนนี้ก่อนนะครับ ยาวเกิน เดี๋ยวไม่มีคนอ่าน😁😁😁
ความเป็นพี่น้องของ2ตระกูล จะถูกชำระอย่างไร? ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายปราชัย...
ติดตามตอนต่อไป ...."บุกสวรรค์ ชิงน้ำอมฤต"
ที่มา : I am cappuccino
- 50
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
