27 มิ.ย. 2019 เวลา 07:56 • ปรัชญา
:: ถ้าหากคนเรามุ่งพัฒนาแต่ด้านวัตถุหรือด้านวิทยาศาสตร์
แต่ละเลยมิติด้านคุณธรรมไป โลกจะเป็นอย่างไร? ::
“ถ้าเรามุ่งพัฒนาทางโลก ทางรูปธรรม วัตถุนิยม หรืออยู่กับกายภาพมากเกินไปจนขาดมิติด้านจิตใจ
ซึ่งเป็นเรื่องของนามธรรมไป เมื่อเอาวัตถุหรือเอากายภาพมาตั้ง
วัตถุหรือกายภาพเหล่านั้นมันกระตุ้นเร้าความโลภ ความอยาก
ความละโมบ มากระตุ้นเร้าให้เกิดความแก่งแย่ง ซึ่งจะนำมาซึ่งโทสะหรือความโกรธ
ความมุ่งทำร้ายและจิตใจที่เกรี้ยวกราดเบียดเบียนกัน
ทั้งหมดนี้มันทำให้ยิ่งเกิดความลุ่มหลงคือโมหะ
เพราะฉะนั้นพอไปอยู่กับวัตถุนิยมหรืออยู่กับกายภาพมากๆ สุดท้ายแล้วจิตใจจะต่ำลง
ไปอยู่กับความโลภจัด โกรธจัด หลงจัด ถ้าไม่มีกระบวนการเรียนรู้
ในขณะเดียวกันถ้าเราไม่ไปอยู่กับทางโลกวัตถุนิยมเกินไป
หัดบาลานซ์ปรับสมดุลมาในด้านของจิตใจบ้าง
โลภน้อยลงได้ไหมหรือไม่โลภบ้างในบางสถานการณ์
ถ้าเคยโกรธเคยโวยวายเคยปล่อยตัวเองไปตามกระแสความ
เกรี้ยวกราด เราก็โกรธน้อยลงได้ไหม เท่าทันมันมากขึ้นได้ไหม
ลดละมันได้ไหม หรือบางครั้งเราไม่โกรธได้ไหม
ส่วนที่เคยหลง ลุ่มหลงกับความเชื่อ กระแสแนวคิด ค่านิยม เทรนด์ต่างๆ
ถ้าเรามองทะลุ มองเห็นคุณค่าแท้ คุณค่าเทียม
มีปัญญาเห็นสัจธรรมความจริงของชีวิตของโลกแล้วต้านได้มากขึ้นไหม
ถ้าเรามาในเส้นทางนี้ได้เราก็จะบาลานซ์ได้
วัตถุภายนอกซึ่งเป็นของกลางๆ ให้คุณก็ได้ ให้โทษก็ได้
ถ้าไม่พัฒนาจิตใจมันก็มักจะพัฒนาไปในทางที่เป็นโทษ
แต่ถ้าเราบาลานซ์มันมาในทางที่เป็นประโยชน์บ้าง เป็นคุณมากขึ้น
และลดผลกระทบของความเป็นโทษจากวัตถุนิยมลงไปได้
ถึงจุดหนึ่งพอมันสมดุลมันก็จะเป็นฐานชีวิตที่มั่นคง
ของครอบครัวและของชุมชน..ทำให้พัฒนาทางด้านจิตใจได้สูงยิ่งขึ้นไป
พัฒนาทางวัตถุที่ได้สูงยิ่งขึ้นไป พัฒนาวัตถุที่ไม่ทำลายล้างมนุษยชาติ เพราะว่า
มนุษย์ที่พัฒนาจิตใจก็จะใช้วัตถุที่พัฒนาไปนั้นไปในทางที่เป็นคุณ ไม่เป็นโทษ”
จากบทสัมภาษณ์ พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ในหนังสือ New Heart New World โลกเปลี่ยนไป เมื่อใจเปลี่ยนแปลง
.
.
:: If we strive to develop only in possessions or science but shun virtue, what will become of our world? ::
“If we only focus on the development of worldly affairs and materialism, or rely too much on tangible matters, we are bereft of the spiritual dimensions, which are abstract matters. Putting physical matters first triggers greed and desire. Competition then arises, resulting in anger, and the desire to hurt and offend others. All of these lead to overindulgence and rage. Therefore, if we revel in physical matters, our minds eventually become low. If we lack the process of learning, we will get too caught up in greed, anger, and infatuation.
“In the meantime, if we balance our minds and don’t spend too much time on worldly matters, we will become less greedy and more giving in certain situations. If we have lashed out, reacted badly, and ridden the waves of anger, can we do that less, or abstain altogether?
“We have become infatuated and obsessed with some beliefs, notions, values, and trends. If we can see through all their true and false ideals, and have the wisdom to perceive the world and things as they are, can we try to resist them?
“If we tread this path, we can create balance. External things are commonplace, as they can both benefit and harm us. If we fail to develop our minds, these things can destroy us. But if we gravitate toward something useful and virtuous, these adverse effects of materialism will be reduced. At one point when everything is balanced, we can bring stability to our communities and families’ lives, which leads to a greater development of the mind and advancement in the material world. In this case, it will not become a threat to humanity because humans whose minds are developed will make good use of these developments rather than abuse them.”
From an interview with Phramaha Pongnarin Thitavangso in the book ‘New Heart New World’.
#DTGO #AddingValueInEverythingWeDo #NewHeartNewWorld #Inspiration
โฆษณา