29 มิ.ย. 2019 เวลา 11:05 • ไลฟ์สไตล์
“ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษที่ไหน ถูกกว่า !!”
เนื่องจากตอนนี้กำลังเกลาเนื้อหาหนังสือเล่มที่จะลงในโพสต์ต่อไปอยู่ ยังไม่เสร็จดี วันนี้เลยขอแทรกด้วยเรื่องเล่าเบาสมอง ใกล้ตัวนิดนึงละกันนะครับ
เรื่องงงงงง
“ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษที่ไหน ถูกกว่า !!”
ที่คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะว่าผมเคยเจ็บจากการซื้อหนังสือโดยไม่เทียบราคา และทำให้รู้สึกขาดทุนมาครั้งนึง จากนั้นก็จำมาจนถึงวันนี้เลยครับ 555555
หลังจากนั้นผมก็เดินเชคราคาก่อนจะซื้อทุกครั้ง
แน่นอนว่าร้านหนังสือภาษาอังกฤษที่เดินเทียบก็จะหนีไม่พ้น Asia Books ร้านสัญชาติไทย และ Kinokuniya ร้านสัญชาติญี่ปุ่น
** ต่อจากนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์นะครับ ไม่ได้จะดิสเครดิตร้านไหน หรือ เชียร์ร้านไหนเป็นพิเศษเน้อ **
สิ่งที่ผมค้นพบมีเยอะมาก ขอนำมาเปรียบเทียบคร่าวๆ “เล่า” ให้ฟังทีละข้อละกันครับ
ขออุบเรื่องราคาไว้ส่วนท้ายสุดละกันนะครับ มาดูเรื่องอื่นๆกันก่อน
👩🏻‍💼 อันดับแรกเรื่องการบริการ อันนี้คงแล้วแต่สาขาครับ แต่ส่วนตัวผมชอบการบริการของ Asia Books สาขา Central World มากที่สุด
แต่โดยรวมทุกที่บริการดีนะครับ
📂 เรื่องการห่อปก หลายๆคนคงมองว่าคงไม่แตกต่างกัน แต่สำหรับคนจริงจังเรื่องหนังสือแบบผมมันแตกต่างกันมากครับ 😂
Asia Books จะห่อด้วยพลาสติกใส ตัดให้เข้ารูปกับแต่ละเล่ม
ส่วน Kino ใช้ปกสำเร็จรูปที่มีขอบสวยงาม มีโลโก้ร้านด้วย
ส่วนตัวผมชอบ Asia Books มากกว่าเพราะปกมีขอบ ของ Kino พอมาเข้าชั้นหนังสือแนวตั้งแล้วปกมันจะยับๆ
แถมอีกนิดนึงคือ Asia Books ยินดีห่อปกให้ทุกออเดอร์นะครับ แต่ Kino ไม่ห่อหนังสือลดราคาให้ผม 😭😭
💳 ระบบสมาชิก อันนี้อาจจะลงรายละเอียดเยอะหน่อยนะครับ เพราะแต่ละที่ต่างกันพอสมควร
Asia Books จะไม่มีค่าสมัครสมาชิก แต่มักจะให้ฟรีเมื่อซื้อครบ 1,000 2,000 บาทแล้วแต่ช่วงครับ สิทธิพิเศษก็คือส่วนลดหนังสือภาษาอังกฤษ 10% และ ส่วนลดหนังสือภาษาไทย 5%
และยังเก็บสะสมคะแนนเพื่อไปแลกเป็นส่วนลดได้ด้วย
แต่ข้อเสียคือคะแนนมีอายุแค่ปีเดียว และต้องซื้อประมาณหมื่นกว่าบาท ถึงจะได้ลด 100 บาท คิดเป็นผลตอบแทนไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ
ถ้าคิดง่ายๆคือได้บัตรมาก็ดีครับ เพราะบัตรฟรี อย่าไปสนใจเรื่องคะแนน 5555555
Kinokuniya มีค่าสมัครสมาชิกรายปี ปีละ 500 บาท สิทธิพิเศษก็คือส่วนลดหนังสือภาษาอังกฤษ 10% และ ส่วนลดนิตยสาร 5% ไม่มีการสะสมคะแนนใดๆทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นตัดสินใจง่ายมากครับ ถ้าปีนึงคุณซื้อหนังสือเกิน 5,000 บาทสมัครเถอะครับ คุ้ม !!
ส่วนตัวผมมีสมาชิกของ Asia Books ส่วน Kino นั้นไม่ได้ทำครับ เพราะผมซื้อหนังสือจากหลายๆร้าน จึงไม่คุ้มที่จะจ่ายค่าสมาชิก
📚 ความหลากหลายหนังสือที่มีให้เลือก อันนี้แล้วแต่ความใหญ่ของแต่ละสาขาเลย มีเยอะที่สุดผมยกให้ Kino สาขา Paragon รองลงมาคือ Asia Books สาขา Central World ครับ
เรื่องการแบ่งหมวดหมู่ของชั้นหนังสือ Kino ทำได้ดีกว่า
แต่ชั้นหนังสือแนะนำด้านหน้าร้าน Asia Books ทำได้น่าสนใจกว่าครับ
💸 ประเด็นสำคัญที่สุดของวันนี้ เรื่องราคาครับ !!
ต้องยอมรับว่าแต่ละเล่ม แต่ละร้านก็ราคาไม่เหมือนกัน บางเล่ม Asia Books ถูกกว่า บางเล่ม Kino ถูกกว่า
แต่จากประสบการณ์ตรงการเดินเทียบราคาของผม เฉลี่ยแล้ว Kino จะถูกกว่า Asia Books อยู่หลายเล่มครับ
1
ขอยกตัวอย่างเล่มที่ผมโดนหนักๆคือ A Song of Ice and Fire หนังสือ Game of Thrones นั่นเอง หนังสือเซตนี้มี 6 เล่มครับ ผมซื้อทีละ 3 เล่ม
3 เล่มแรกผมซื้อกับ Asia Books ในราคาเล่มละประมาณ 350 บาท ลด 10% จากบัตรสมาชิก เหลือเล่มนะ 300 ต้นๆ
แต่ 3 เล่มหลัง ผมซื้อที่ Kino ในราคาตั้งยังไม่ลดบัตรสมาชิกอยู่ที่เล่มละประมาณ 250 !! แถมพอไปดูราคาของสามเล่มแรกก็ราคาถูกเหมือนกันครับ ต่างกันเกือบ 100 นึงเลยทีเดียว
2
หลังจากนั้นผมก็เลิกซื้อ Asia Books อยู่พักใหญ่ๆเลย แต่ก็กลับมาซื้อเพราะพอเชคราคาแล้วบางเล่มของ Asia Books ก็ถูกกว่าก็มี
เพราะงั้นเรื่องราคาผมแนะนำว่าถ้าใครเดินซื้อที่ Paragon กับ Central World ที่มีทั้ง 2 ร้าน และมีเวลาก็ลองเดินเชคดูครับ เพราะสองร้านนี้อยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไหร่
1
** เอ้อ อีกเรื่องนึงครับ Kinokuniya ราคาหนังสือเล่มเดียวกัน แต่คนละ lot ก็ราคาไม่เท่ากันนะครับ เค้าปรับราคาหนังสือตามอัตราแลกเปลี่ยน เพราะงั้นเลือกในกองเดียวกันอาจจะได้ราคาถูกกว่าก็ได้ครับ
1
🚩สุดท้ายคือเรื่องโปรโมชั่นลดราคา
อันนี้สั้นๆง่ายๆเลยครับ Asia Books ลดบ่อยกว่าลดเยอะกว่าด้วย แถมถ้าใครชอบไปงานหนังสือ Asia Books ชอบไปจัดบูธชื่อ Bookazine (เป็นชื่อร้านในเครือเดียวกัน) เอาหนังสือมาลดราคาถึง 90% เลย !!! ผมเองไปำด้หนังสือมาจากบูธนี้เยอะอยู่
หนังสือดีๆเล่มละ 50-60 บาท ซื้อไม่ต้องคืดเลยครับเอาจริง 😂
สรุปคือ ถ้าจะให้แนะนำว่าควรซื้อร้านไหน ผมแนะนำไม่ได้ครับ เพราะผมซื้อทั้งสองร้าน ร้านไหนถูกกว่าผมก็ซื้อร้านนั้น ถ้าราคาเท่ากันจริงๆ ผมจะซื้อ Asia Books เพราะห่อปกดีกว่า และอาจจะมีแต้มไปใช้เล่นๆในอนาคตได้ครับ
1
— — — — — — —
ก็จบไปแล้วนะครับกับ #เทคนิดการซื้อหนังสือ ของผม
ในโพสต่อๆไปก็จะนำเรื่องน่าสนใจของหนังสือแต่ละเล่มมาเล่าให้ฟังเรื่อยๆนะ สนใจก็กดติดตามเพจ “เล่า” ไว้เพื่อที่จะไม่พลาดเนื้อหาดีๆในอนาคตครับ
ติดตามเรื่อง “เล่า” ผ่าน facebookได้ที่
#เล่า #เล่าหนังสือ #เล่าความรู้ #unfold #ส่งเสริมการอ่าน #ส่งเสริมการเรียนรู้
โฆษณา