2 ก.ค. 2019 เวลา 03:50
เปิดตำนาน "ครุฑ" กับ "นาค" (ตอนที่3 ตอนจบ)
"พญาครุฑ...คืนอิสรภาพมารดาและชำระแค้น"
"พญาครุฑ" เก่งแค่ไหน? เรารู้กันแล้วนะครับแล้วปัญหาระหว่างครุฑกับนาคจะจบยังไง...?
เรามาติดตามกันต่อนะครับ...
📌ความเดิมจากตอนที่แล้ว.....
"พระนารายณ์"ยุติศึกกับ"พญาครุฑ" พร้อมทั้งประทานพรให้ 2 ประการ...
คือให้ความเป็นอมตะโดยเวทย์ ไม่ต้องดื่มน้ำอมฤต และ เมื่อใดก็ตามที่พระนารายณ์ต้องการเดินทางพญาครุฑจะล่วงรู้ด้วยตนเอง จะมาเป็นพาหนะให้.....
🅾 ตัดมา....เข้าช่วงเวลาเดินทางต่อของพญาครุฑ
การเดินทางกลับในครั้งนี้ หลังจากเสร็จศึกกับพระนารายณ์ แลดูปลอดโปร่งตลอดทาง...
ในหัวของ"พญาครุฑ" คิดถึงแต่เรื่อง....การเดินทางกลับไปเพื่อเอาน้ำอมฤตไปคืนอิสรภาพให้พระมารดา....และสะสางเรื่องราวต่างๆให้จบสิ้นลง!!!
และแม้จะบินได้เร็วเพียงไร แต่ก็ยังช้ากว่าใจ....
เหาะผ่านภูเขามาลูกแล้วลูกเล่า
เข้าสู่เขตป่าหิมพานต์ มีสัตว์"แปลกตา"นานาชนิด ต่างวิ่งกันขวักไขว่ น่ารื่นรมณ์ยิ่งนัก
ใกล้ถึงที่หมายเพียงแค่เอื้อม....
เกิดเสียงลมอื้ออึงพัดวูบมา.......มีเสียง"อสุนีบาต"...
!!!.....เปรี้ยง....เปรี้ยง....!!!
📌ทุกอย่างก็หยุดชะงักลง...!!!
เทพรูปร่างสูงใหญ่ องค์กายเป็นสีเขียวปีกแมงทับเข้ม ราวกับรูปปั้น นั่งอยู่บนคอ"ช้าง3เศียร" นามว่า"เอราวัณ"
ในมือของเทพผู้สง่างามองค์กายเขียวเข้ม ถือ"วัชระ" (สายฟ้า) เป็นศาสตราวุธ......
พุ่งตรงเข้ามาขวางหน้า.....!!!
"ท้าวสักกะเทวราช" หรือ"พระอินทร์" นั่นเอง
พระอินทร์ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แม้แต่เรื่อง"พระนารายณ์" รบกับ "พญาครุฑ"
หน้าที่ก็คือหน้าที่....ความรับผิดชอบต้องมาก่อน...
เมื่อมีคนชิงน้ำอมฤตไป ก็จะต้องตามมาเพื่อจะชิงน้ำอมฤตคืน....
เมื่อ "พระอินทร์" เห็น "พญาครุฑ" อยู่ตรงหน้า ในมือถือคนโท"น้ำอมฤต"
♨ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ พระอินทร์ก็สาดสายฟ้าเข้าใส่พญาครุฑอย่างบ้าคลั่ง♨♨♨
พญาครุฑ พยายามจะอธิบาย แต่พระอินทร์ไม่ฟังคำค้านแต่อย่างใด...
ระดมสาดอาวุธเข้าใส่พญาครุฑแบบไม่หายใจ!!!
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำอะไรพญาครุฑได้แม้แต่น้อย....
ขนาดพระนารายณ์ยังเอาชนะพญาครุฑไม่ได้ พระอินทร์จะไหวเหรอ?😳😳😳
ยิ่ง"พญาครุฑ"ได้รับพรจากพระนารายณ์ให้เป็นอมตะอีกด้วย ไปกันใหญ่เลย😁
แน่นอน พระอินทร์พ่ายแพ้เพียงไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น
แต่พญาครุฑก็มิได้ดูแคลนพระอินทร์แต่อย่างใด กลับเลือกที่จะทำบางสิ่ง........
ด้วยเป็นการให้เกียรติแก่ "พระศิวะ" เทพเจ้าสูงสุด ซึ่งเป็นผู้มอบอาวุธให้กับพระอินทร์
"วัชระ(สายฟ้า)" คืออาวุธที่พระศิวะประทานให้พระอินทร์
พญาครุฑ ยอมสลัดขนปีกตัวเองออกหนึ่งเส้น เพื่อเป็นการรักษาพระเกียรติให้แก่พระศิวะและพระอินทร์...ทั้งๆที่อาวุธมิได้ระคายผิวซักนิด
เหล่าเทวดานางฟ้าที่ตามมาทันดูเหตุการณ์ ต่างชื่นชม"พญาครุฑ"เป็นอันมากเพราะรู้เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นแลัวว่า........
"พญาครุฑ" รบเสมอกับ "พระนารายณ์"
ไฉนเลยพระอินทร์จะเอาชนะได้เช่นไร...
และเนื่องด้วยขนปีกที่สลัดออกของพญาครุฑ นั้นสวยงามมาก กอรปกับความชื่นชมที่มีในตัว"พญาครุฑ"
เหล่าเทวดาจึงขนานนามพญาครุฑอีกชื่อหนึ่งว่า...."พญาสุบรรณ" แปลว่า "ผู้มีขนงาม"
📌ในที่สุดการปะมือก็หยุดลงอีกครั้ง.......
พระอินทร์ รู้ทันทีว่าตนมิอาจเอาชนะต่อ"จอมเทพ"ที่อยู่เบื้องหน้าได้ จึงถอนอาวุธและ เริ่มไต่ถาม....
พญาครุฑได้อธิบายถึงเหตุที่ต้องมาชิงน้ำอมฤตให้พระอินทร์ฟัง
พระอินทร์ เข้าใจ แต่ก็ให้ "น้ำอมฤต" ไปไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่รับผิดชอบ และต้องรักษาพระเกียรติของตนเอาไว้
หากให้โลกและสวรรค์รับรู้ว่าถูกชิงน้ำอมฤตไปได้ ผู้คนและเหล่าเทวดาจะพากันเสื่อมศรัทธา
📌พญาครุฑปัญญาหลักแหลมยิ่งนัก......
คิดแผนกลยุทธที่เรียกกันว่า.........
"win-win situation".....(ชนะทั้งคู่) ให้กับพระอินทร์
🅾 ทั้งคู่จึงตกลงตามแผนกันว่า........
ให้พญาครุฑทำทีเอาน้ำอมฤตไปให้แก่นางกัทรุและเหล่าพญานาคก่อน เพื่อไม่ให้ผิดต่อสัญญาและช่วยแม่เป็นอิสระ
แล้วจากนั้นจะออกอุบายให้พระอินทร์มาเอาน้ำอมฤตคืนไป เพื่อไม่ให้เหล่าชาวโลกและเทวดาดูแคลนว่าปกป้องน้ำอมฤตเอาไว้ไม่ได้....
📌เมื่อตกลงกันได้ แผนก็เดินต่อ....
และแล้ว....การเดินทางกลับมาของพญาครุฑก็มาถึงแล้ว.....!!!
ภาพแรกที่เห็นคือ ...นางวินตากำลังรับใช้นางกัทรุและเหล่าพญานาคนับพับ เยี่ยงคนไร้สกุลรุนชาติ ยิ่งทวีความโกรธแค้นในใจของพญาครุฑเหลือคณานับ
แต่การณ์ยังไม่สำเร็จ....ต้องสู้ข่มใจ และสงบอารมณ์ลง
เมื่อนางกัทรุ และเหล่าพญานาค ได้เห็นพญาครุฑนำน้ำอมฤตกลับมาก็ดีใจเป็นอันมาก
เพราะจะได้เป็น"อมตะ"แล้ว...
"พญาครุฑ" เข้าใจอารมณ์เวลาเด็กอยากได้ของ
"จะให้ทำอะไรก็ว่าง่ายไปหมด"😂😂😂
จึงได้ออกอุบายพร้อมเอ่ยขึ้นว่า....
"ข้านำน้ำอมฤตมาให้แล้ว จากนี้แม่ข้าต้องเป็นอิสระแล้ว"
"และพระอินทร์ยังกำชับกับข้ามาด้วยว่า...ก่อนจะดื่มน้ำอมฤตจากคนโทนี้ ผู้ที่จะดื่มต้องชำระร่างกายให้สะอาดเสียก่อน มิเช่นนั้น น้ำอมฤตจะเสื่อม ความเป็นอมตะจะไม่เกิด"...
🅾 โดยไม่ได้แอะใจเลยว่าเป็นกลลวง....!!!
เมื่อนางกัทรุและเหล่าพญานาคได้ยินก็ปลดปล่อยนางวินตาให้เป็นอิสระ.....
แล้วนางกับลูกๆพญานาคทั้ง1,000ตนก็รีบไปลงสระบัว เพื่อชำระร่างกาย
🅾 โป๊ะเชะ!!! ตรงตามแผนทุกประการ...
ขณะที่เหล่าพญานาคต่างแย่งชิงกันลงสระ....เพื่อที่จะได้รีบขึ้นมา"รับ"ความเป็นอมตะจากน้ำอมฤตเพียงอึกเดียวเท่านั้น....
เป็นจังหวะที่ "พญาครุฑ" รีบวางคนโทใส่น้ำอมฤตไว้ แล้วรีบนำตัวนางวินตาไปยังที่ปลอดภัย
เป็นเวลาเดียวกันกับที่ "พระอินทร์" บินมาเอาคนโทน้ำอมกฤตหนีกลับสวรรค์ไปอย่าเร่งด่วน....
เหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที......!!!
น้ำอมฤตบางส่วนหยดเรี่ยราดลงบนพื้นหญ้าคาเป็นทางแล้วซึมลงในดินอย่างรวดเร็วในขณะพระอินทร์รีบฉวยคนโทไป
เหล่าพญานาคและนางกัทรุ "รู้สึกตน"ว่าเสียรู้พญาครุฑเสียแล้ว แต่ก็ไม่ทันการณ์ล่ะ
ความแค้นรวมปนกับความเสียดายในน้ำอมฤตที่อยู่เพียงปลายจมูก กลับหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา ช่างน่าเสียใจ และเสียดายยิ่งนัก
แต่หยดน้ำอมฤตที่หยดลงบนใบหญ้าคายังพอเหลืออยู่ มันจะพอทำให้ตนมีความเป็นอมตะบ้างไหม....นั่นคือคำถามในใจ?
ไม่ลองก็ไม่รู้....เสียดายก็เสียดาย!!!
เหล่าพญานาค เห็นน้ำอมฤตที่ค้างบางส่วนอยู่บนใบหญ้าคาจึงรีบเลื้อยมาเอาลิ้นเลียไปบนหญ้า
ทันทีที่เลียไป ลิ้นจึงถูกใบหญ้าคาอันคมกริบ...บาดแยกออกเป็น2แฉกทันที
เจ็บปวดทรมาณแสนสาหัส ทุรนทุราย แต่ก็ยังอยากจะเลียต่อไปเพราะความละโมภเข้าครอบงำ....
ฝ่ายพญาครุฑ เมื่อนำตัวนางวินตาผู้เป็นแม่ไปไว้ที่ปลอดภัยแล้ว ความโกรธแค้นจึงประทุขึ้นอีกครา....
เร่งพลังถึงขีดสุด...แปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่า😂
🅾 เพียงลัดนิ้วมือเดียวเท่านั้น!!!
1
"พญาครุฑ" ก็บินกลับมาถึงยังตำแหน่งที่พญานาคารวมตัวกันอยู่พื้นทุ่งหญ้าคา.......
เมื่อพันธนาการในพันธสัญญา กับเหล่าพญานาค และนางกัทรุ สิ้นสุดลงแล้ว เยื่อใยใดๆก็ไม่ควรมี...
📌ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงแล้ว........!!! ...ลุย!!!
"พญาครุฑ" พุ่งเข้าใส่ฝูงพญานาค ราวกับราชสีห์พุ่งเข้าหาฝูง"ลูกหมูป่า" รวดเร็วราวกับลูกธนูที่ถูกน้าวสุดแรงและปล่อยไปอย่างสุดกำลังคัน....
การเข้าโจมตีเป็นไปอย่างบ้าคลั่งและโหดเหี้ยม ให้สาสมกับความเคียดแค้นที่สั่งสมมานานของผู้เป็นบุตรที่เทิดทูนมารดา.....
เสียงร้องระงมของเหล่าพญานาคหนีตาย ปะปนไปกับเสียงกรีดร้องของนางกัทรุผู้เป็นแม่
เป็นภาพที่สลดเศร้ายิ่งนัก!!!
"ปากจิก ตีนฉีก"...เหล่าพญานาคเลือดสาดกระจาย หัวหลุดกระเด็นไปคนละทิศละทาง บ้างก็ร่างขาดเหลือครึ่งท่อน ส่วนที่เหลือครึ่งท่อน ดิ้นกระแด่ว ราวกับปลาดุกถูกทุบหัว ล้มตายกันเป็นเบือ แม้พญานาคจะพยายามสู้เพียงใด ก็สุดกำลังที่จะต้านทานได้
ด้วยฤทธานุภาพของ"พญาครุฑ"นั้นมีมากล้นเกินบรรยาย กอรปกับร่างกายที่เป็นอมตะ แข็งแกร่งปานประดุจเหล็กกล้า...มีหรือ"พญานาค"จะไม่แหลกลาญ....
ทุกครั้งที่"พญาครุฑ" ตวัดมือ ทุกครั้งที่สะบัดปีก แสงสุริยฉายออกจากกายราวกับคมมีดวงพระจันทร์นั่นหมายถึงหนึ่งศพสังหาร...!!!
พญานาคต่างหนีรนรานหลบหนีการตายอย่างไม่คิดชีวิตเพราะสู้ฤทธิ์ของพญาครุฑไม่ไหว...!!!
ภาพที่เห็นอยู่บนทุ่งสังหาร คือซากศพของบรรดาพญานาค และกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว....😢
เหล่าพญานาคที่เหลือรอด หนีตายลงสู่ใต้ก้นสุดของพื้นบาดาล ไม่กล้าโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอีกเพราะความหวาดกลัว ....
เก็บบาดแผลและความอัปยศอดสูพร้อมกับความแค้นสุดใจลึกเอาไว้....
สร้างความอาฆาตพยาบาทของ2เผ่าพันธุ์ ไปชั่วกัปชั่วกัลป์....
และทุกครั้งที่พญาครุฑพบเห็นพญานาค ก็จะเข้าจิกกินให้สาสมกับความแค้น
ส่วนพญานาคแม้จะสู้ไม่ได้แต่ก็ต้องสู้....เพราะต้องเอาชีวิตรอดและรักษาเผ่าพันธุ์เอาไว้
แม้"ความแค้น"ของเวนไตยจะได้รับการชำระลงในครั้งนี้ แต่หารู้ไม่ว่า....กลับกลายเป็นการสร้างตำนานปฐมบทใหม่ของความแค้น...2เผ่าพันธุ์ขึ้น!!!
จึงเป็นที่มาของตำนานความบาดหมางของ2ชาติพันธุ์ 2ตระกูลสืบมาตราบนานเท่านาน...
3
กลายเป็น "ศึกสายเลือด" แม้ต้นตอจะมาจากบิดาคนเดียวกันก็ตาม.....
1
จบ........
เกร็ดความรู้ท้ายเรื่อง
: หญ้าคา...ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่ามีน้ำอมฤตหลงเหลืออยู่ และใช้รองเหยือกน้ำในพิธีต่างๆ
: ลิ้นของพญานาคเป็น2แฉก เพราะถูกคมของหญ้าคาบาด ซึ่งต่อมาเป็นต้นตระกูลของงูจึงมีลิ้น2แฉก
: พระอินทร์ จริงๆแล้วเป็นเพียงชื่อตำแหน่งเท่านั้น มีหลายองค์มาสลับสับเปลี่ยนกันมารับหน้าที่เท่านั้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะ
ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ
1
ที่มา: I am cappuccino
Reference:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา