Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Theethat Tech Talk
•
ติดตาม
1 ก.ค. 2019 เวลา 08:54 • ธุรกิจ
ทำไมร้านค้ายังใช้ถุงพลาสติก?
มนุษย์เรานั้นได้สร้างนวัตกรรมหนึ่งที่สามารถช่วยให้สิ่งของนั้นไม่เลอะเปรอะเปื้อน คงสภาพให้อยู่ได้นานขึ้น หรือช่วยป้องกันจากกลิ่น ความชื้น แมลง และแสงแดด
สิ่งนั้นคือสิ่งที่เราเรียกกันทุกวันนี้ว่าพลาสติก
ความพิเศษต่างๆที่ทำให้ทุกวันนี้พลาสติกยังคงเป็นอันดับหนึ่งในการทำ packaging หรือทำเป็นถุงสัมภาระต่างๆคือสิ่งที่จะมาอธิบายในวันนี้ และทางเราจะขอข้ามเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ถุงพลาสติกและขยะพลาสติกสร้าง
เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นมาแล้ว และไม่สามารถทำให้คนส่วนมากหยุดใช้แต่แค่พยายามชะลอหรือหาทางเลือกอื่นแต่ยังคงใช้พลาสติกเหมือนเดิม
สิ่งที่เราจะเขียนนั้นจะเป็นการให้เหตุและผลทางด้านแรงจูงใจในการเลือกใช้พลาสติก มากกว่าการสร้างความตระหนักของผลกระทบของพลาสติกซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนนั้นทราบกันดีอยู่แล้ว
คำถามที่ดีไม่ใช่พลาสติกทำอะไรต่อโลก? หรือคนเราใช้พลาสติกมากแค่ไหน?
แต่ต้องเป็น "ทำไมเรารู้ดีขนาดนี้ มีข้อมูลต่างๆให้ แต่ผู้คนกลับยังคงใช้มันอยู่" ต่างหาก!
ซึ่งถ้ามองในมุมผู้บริโภคนั้นจะเป็นตัวเลือกที่ไม่ถูกซะทีเดียว เราจึงขอนำเสนอในมุมมองของผู้ผลิตแทน
ทำไมบริษัทหรือผู้ผลิตยังใช้พลาสติก?
ในการสร้างหรือผลิตสิ่งของต่างๆในปริมาณมากนั้นเราต้องการ packaging ซึ่งไม่ใช่แค่packagingธรรมดาแต่ต้องเป็นpackagingที่ประหยัดเนื้อที่และมีความยืดหยุ่นสูง คงสภาพได้ทุกรูปแบบ
และสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดคือ พลาสติก
ด้วยคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้คงรูปได้ตามขนาดของภาชนะหรือรูปร่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น ทีวี รถ และ ถุงใส่ของ
และยิ่งไปกว่านั้น พลาสติกยังมีความสามารถในการป้องกันสิ่งเจือปน เช่น น้ำ ฝุ่น ที่เป็นสิ่งหลักที่ทำให้สิ่งของข้างใน "ไม่สะอาด" เรียกได้ว่าสามารถรักษาความสะอาดจากสิ่งเจือปนในสภาพแวดล้อมปัจจุบันได้สูง
นอกจากจะป้องกันสิ่งเจือปนยังช่วยต่ออายุของอาหารให้นานขึ้น ซึ่งจากรูปข้างบนนั้นคือเหล่าอาหารต่างๆที่นิยมใช้พลาสติกในการทำเป็น packaging
ถ้าดูจากตัวเลขเหล่านั้นแล้ว การใช้พลาสติกนั้นเพิ่มอายุต่อให้สินค้าได้มากกว่าสองเท่าซึ่งทำให้มูลค่าของ inventory ไม่ลดลงมากเกินควร
มีโอกาสขายได้มากขึ้น ลดค่าขนส่ง ลดเวลาและแรงงานในการเปลี่ยนstockในร้านในแต่ละวัน
แต่เหตุผลหลักที่ผู้ผลิตยังคงตัดสินใจเลือกใช้พลาสติกกันอย่างกว้างขวาง แทนที่จะเป็นตัวเลือกอื่นก็เพราะว่า พลาสติกนั้นมี "ต้นทุนต่ำ"
ผลกระทบของขยะพลาสติกนั้นเป็นที่ทราบกันดีต่อทางผู้ผลิต แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ผู้ผลิตต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นแต่อย่างใดและยังมีต้นทุนที่ต่ำอีกด้วย ในขณะที่สังคมต่างหากที่ต้องแบกรับผลกระทบนี้ไว้ และมันเป็นค่าใช้จ่ายรวมของสังคมที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
การที่ค่าใช้จ่ายต่ำนั้นเป็นสิ่งที่นักธุรกิจชอบและไม่ใช่แค่มันถูก แต่มันสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายแบบ สามารถไปอยู่ในสินค้าไหนของบริษัทก็ได้
แต่ว่าหลายคนคงบอกว่า ถุงพลาสติกนั้นไม่มีราคาสำหรับผู้บริโภคแล้วทำไมผู้ผลิตถึงยังผลิตอยู่
นั้นเพราะว่าสิ่งที่ทางบริษัทหรือร้านค้าต่างๆมองไม่ใช่แค่เรื่องราคาแต่เป็นเรื่องสินค้าเทียบกับคู่แข่ง
ถุงพลาสติกหลักๆที่เราใช้กันนั้นมีจุดประสงค์หลักนั้นคือเป็นที่ใส่สัมภาระ การที่มีถุงพลาสติกสร้างผลประโยชน์ให้ผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของได้มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องกังวลว่ามือสองมือจะสามารถถือของที่กำลังเลือกจับจ่ายอยู่ได้ไหม
รวมทั้งไม่ต้องเป็นห่วงว่าสิ่งของที่ซื้อมาจะสกปรกปนเปื้อน หรือเรื่องอายุของอาหารต่างๆที่สามารถอยู่ได้นานมากขึ้น เชื่อว่าหลายครั้งความสะดวกสบายนี้ทำให้คนซื้ออาหารไปที่บ้านมากจนเกินความต้องการทำให้กินไม่ทันและหมดอายุก่อน หรือซื้อไปมากกว่าที่ตู้เย็นที่บ้านจะรับได้
ถึงใครจะเถียงว่าถุงผ้าสามารถตอบโจทย์ได้เหมือนกัน แต่ว่าถุงผ้านั้นผู้บริโภคต้องพกพามาเองทำให้เป็นการสร้างภาระ และมันไม่สามารถกันน้ำได้ ทำให้การพกถุงผ้าไม่น่าจะเป็นวัฒนธรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆนี้
แต่ถ้าอย่างนี้ ในเมื่อคนเราเริ่มที่จะเปลี่ยนแนวคิดและหันมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น
แล้วทำไมทางบริษัทไม่ปรับตัวล่ะ?
ผมก็เป็นคนนึงนะครับที่ไม่ชอบรับถุงพลาสติกแต่ว่าถ้าถึงขนาดทางร้านค้าไม่มีถุงพลาสติกให้เลย หรือเราไม่มีโอกาสเลือกว่าจะรับหรือไม่รับนั้น มันต่างกัน มันจะกลายเป็นการลดความต้องการผู้บริโภคไป
เพราะว่าสินค้าบางอย่างยังไงก็จำเป็นต้องใช้ถุงพลาสติก หรือเราอาจจะเลือกรับถุงพลาสติกตอนซื้อของเยอะ และไม่รับเมื่อซื้อของน้อย
ถ้ามองดูแบบนี้แล้วนั้น ถ้าร้านค้าหนึ่งไม่ให้ถุงพลาสติก ร้านค้าสองมีถุงพลาสติก คนส่วนมากจะเข้าร้านไหนละครับ
ไม่ใช้ถุงพลาสติกไม่ได้แปลว่าไม่ให้ถุงใส่ของเลย ถูกครับ แต่ว่าราคาของตัวเลือกอื่นนั้นต่างกันมาก
ซึ่งรูปข้างบนเป็นการเทียบสิ่งต่างๆระหว่างถุงกระดาษและถุงพลาสติก ในหน่วย ดอลลาร์ต่อ 1000 ถุง
ซึ่งจะเห็นได้ว่าถุงกระดาษมีราคาแพงกว่า ถึงแปดเท่าหรือก็คือ สามารถซื้อถุงพลาสติกได้ 8 ถุงต่อ 1ถุงกระดาษ
อย่าลืมนะครังว่าถุงพลาสติกเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ผลิตไม่ได้รวมในราคาต่อผู้บริโภค ซึ่งเรามาลองนึกภาพร้านค้าร้านอาหารที่ไม่ได้มี margin สูงอย่างร้านส้มตำหน้าปากซอย ร้านอาหารตามสั่ง ร้านสะดวกซื้อ
ร้านพวกนี้เน้นขายในเชิงปริมาณ มากกว่าจะเป็นเรื่องของกำไรต่อสินค้า ซึ่งต่างจากร้านที่เราจะเห็นว่าใช้ถุงกระดาษอย่าง ร้านขนมปัง ร้านเค้ก หรือร้านต่างๆที่สามารถขายเป็นสินค้าPremium ซึ่งร้านประเภทแรกนั้นสามารถเพิ่มกำไรจากการลดค่าใช้จ่ายได้ถึง8เท่า เมื่อเทียบต้นทุนของการใช้ถุงพลาสติกกับถุงกระดาษ
นี้เป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับร้านสะดวกซื้อเพราะวันนึงมีลูกค้าหลายพันหรือหมื่นคน
การให้ถุงพลาสติกนั้นมีราคาแต่จะให้เลือกใช้ถุงกระดาษที่มีราคาสูงกว่า8เท่าตัวคงเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ส่วนทางร้านที่ขายเป็นถุงกระดาษนั้นจะเป็นสินค้าpremiumที่เน้นสร้างกำไรต่อตัวสินค้าและการใช้ถุงพลาสติกเป็นการลดคุณค่าต่อตัวสินค้าหรือพูดอีกนัยนึงว่าสามารถเพิ่มคุณค่าด้วยถุงกระดาษได้
อย่างที่เราเห็นเทรนด์การงดใช้ถุง ลดถุงพลาสติกต่างๆ แต่สิ่งที่เค้าทำนั้นคือการลดจำนวนเท่านั้นครับ ซึ่งนั้นทำให้เค้าได้ภาพลักษณ์มาก็จริงแต่กำไรก็ลดลงไปด้วย เพราะว่าทางการวิจัยจากบทความBBCกล่าวมาว่าการเลิกใช้ถุงพลาสติกนั้นสร้างค่าใช้จ่ายให้ทางบริษัทมากขึ้นถึง4เท่า
ซึ่งในความคิดเห็นของผมนั้น การที่จะกำจัดพลาสติกออกไปจากโลกธุรกิจคือต้องมีสิ่งทดแทนที่ทั้งมีความยืดหยุ่น สามารถกันสิ่งเปรอะเปื้อน ต่ออายุ และราคาถูกกว่าถุงพลาสติกในปัจจุบัน ซึ่งถึงแม้จะมีตัวเลือกใหม่มากมายกำลังเข้ามาแต่ว่าบริษัทไม่เลือกที่จะนำเข้ามาประยุกต์ใช้เพราะบริษัทนั้นเน้นกำไรด้านปริมาณ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมนั้นเชื่ิอว่าพลาสติกคงยังเป็นที่ต้องการในตลาดอยู่แม้จะมีตัวเลือกอื่นในตอนนี้และอนาคตจนกว่าจะมีสิ่งทดแทนที่ดีกว่าครับ
Reference:
https://images.app.goo.gl/YpCJnuCLL5yj9sYx7
http://www.bbc.com/capital/story/20180705-whats-the-real-price-of-getting-rid-of-plastic-packaging
https://www.interplas.com/plastic-vs-paper
4 บันทึก
27
10
4
27
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย