3 ก.ค. 2019 เวลา 10:28 • ประวัติศาสตร์
15. วันนี้ลุงมีนิทานมาเล่า
นิทาน เรื่องที่ 1 มนุษย์โบราณเป็นนักวิ่ง
ในสมัยโบราณ ก่อนยุคเกษตรกรรม ยุคที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังเร่ร่อนเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ตามความสมบูรณ์ของภูมิประเทศ และตามฤดูกาลที่มีพระอาทิตย์เป็นผู้กำหนด ยุคที่มนุษย์ยังหาอาหารกินจากการล่าสัตว์ และหาพืชผักผลไม้ในป่ากินของธรรมชาติ มนุษย์ดำรงชีวิตด้วยการเก็บพืชในป่า และล่าสัตว์ป่ามากิน ส่วนใหญ่เป็นสัตว์สี่ขา เช่น กระต่าย กวาง
เคยสงสัยกันไหมว่า มนุษย์ล่าสัตว์เหล่านั้นได้อย่างไร โดยมีอาวุธแค่หอกไม้แหลมและขวานทำจากก้อนหิน มนุษย์สองขาวิ่งไล่สัตว์สี่ขาทันได้อย่างไร แค่มนุษย์วิ่งไล่กระต่ายยังวิ่งไม่ทันเลย เอาหอกไม้พุ่งใส่หรือ เอาก้อนหินปาใส่หรือ สัตว์สี่ขาเหล่านี้ว่องไวกว่ามนุษย์มาก แค่เข้าไปใกล้ๆก้อวิ่งหนีเราจนพ้นระยะไม่สามารถใช้หอกพุ่งใส่หรือใช้ก้อนหินปาใส่ทัน
แล้วมนุษย์ล่ากวางได้อย่างไร?
โชคดีพระเจ้ากำหนด หรือว่า มนุษย์มีความสามารถพิเศษก็ไม่รู้สินะ มนุษย์มีวิวัฒนาการอย่างหนึ่งที่ทำให้ได้เปรียบจนเป็นผู้ล่าได้ คือ มนุษย์ผู้ล่ามี ‘ผิวหนังและต่อมเหงื่อ’ อยู่ทั่วร่างกายไว้ช่วยระบายความร้อน (โดยความร้อนที่ขับออกจากร่างกายทางผิวหนังมีประมาณร้อยละ 87.5 ของความร้อนทั้งหมด)
และอีกประการหนึ่ง คือ มนุษย์ทำงานเป็นกลุ่มก้อน แต่สัตว์สี่เท้าผู้ถูกล่าทั้งหลายไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนมนุษย์ ลองสังเกตจากหมาว่า หมาวิ่งได้เร็ว แต่วิ่งได้สักพักหมาก้อต้องหยุดวิ่งยืนแลบลิ้นห้อยแฮ่กๆ เพื่อระบายความร้อนออกจากลำตัว
มนุษย์อาศัยความได้เปรียบนี้ และอาศัยพวกมากรวมตัวกัน 10-20 คน ช่วยกันวิ่งต้อนกวาง วิ่งไม่ทันหรอก แค่วิ่งตามไม่ให้กวางละหายไปจากสายตา วิ่งสักพักใหญ่ 30-40 นาที เมื่อกวางวิ่งหนีเรื่อยๆจนเหนื่อยมาก ก็ระบายความร้อนไม่ทันขาทรุดหนีต่อไม่ไหว มนุษย์อาศัยจังหวะนี้ วิ่งทันจนเข้าใกล้ตัวกวางแล้วใช้หอกไม้ใช้ก้อนหินรุมทุบกวางจนตาย แล้วค่อยแล่เนื้อเถือหนังได้เนื้อกวางมาแบ่งกันกินในกลุ่ม
ดังนั้น มนุษย์โบราณกว่าจะได้กินอาหารหนึ่งมื้อ ต้องออกแรงก่อนด้วยการวิ่ง วิ่งไม่ต้องเร็วมากแต่วิ่งไปเรื่อยๆ จนพัฒนาเป็นนักวิ่งระยะไกลได้ จนมีความทนทานวิ่งได้นานอยู่ใน DNA มนุษย์จึงเป็นนักวิ่งมาแต่โบราณแล้ว จบนิทานเรื่องนี้
แฮ่ๆ เป็นนิทานนะ ลุงแค่เล่านิทาน ไม่มีวิชาการให้อ้างอิง มนุษย์ยุคปัจจุบันวิ่งน้อยลงมาก แค่เดินยังไม่ค่อยจะยอมเดินเลย วิถีชีวิตยุคนี้ทำให้เรานั่งนานขึ้น เดินน้อยลง และวิ่งน้อยลงมาก จนอดคิดไม่ได้ว่า ความสามารถในการวิ่งของมนุษย์กำลังจะด้อยถอยไป
นอกจากเรื่อง มนุษย์โบราณเป็นนักวิ่ง ลุงยังมีนิทานเล่าให้ฟังอีกหลายเรื่อง เช่น มนุษย์โบราณเป็นนักอด, มนุษย์ทุกคนคลอดก่อนกำหนด ใครอยากฟังยกมือขึ้น
ตอนต่อไป นิทานเรื่องที่ 2 มนุษย์โบราณเป็นนักอด
โฆษณา