โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) พ่อมดแห่งเมนโลพาร์คผู้นำพาแสงสว่างมาสู่โลก ตอนที่ 4
สิทธิบัตรชิ้นแรก
ทอมจะใช้เวลาทำงานในตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันเป็นเวลาสำหรับการประดิษฐ์
ทอมจะใช้เวลาหมกตัวอยู่ในร้านขายเครื่องจักร เพื่อสั่งชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับงานประดิษฐ์
ทอมมักจะพกสมุดเล่มเล็กๆ ติดตัวเพื่อจดไอเดียต่างๆ ซึ่งงานประดิษฐ์ชิ้นแรกที่ทอมคิดว่าน่าจะขายได้ก็คือเครื่องบันทึกคะแนนโหวตอัตโนมัติ (Electric Voting Machine)
เครื่องบันทึกคะแนนโหวตอัตโนมัติ (Electric Voting Machine)
ในสมัยนั้น การนับคะแนนโหวตใช้เวลานานมาก เครื่องบันทึกคะแนนโหวตจะช่วยให้การนับคะแนนนั้นเร็วขึ้นและง่ายขึ้นอย่างมาก
ทอมได้ยื่นเรื่อง ขอจดสิทธิบัตรเครื่องนี้ ซึ่งนับเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกที่ทอมได้ยื่นจดสิทธิบัตร ต่อมา ตลอดชีวิตการทำงานกว่า 60 ปีของทอม ทอมได้จดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ไปกว่า 1,093 ชิ้น มากกว่าใครๆ แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทำได้มากกว่าเขา
ทอมได้พยายามจะขายเครื่องบันทึกคะแนนโหวตอันโนมัติให้กับนักกฎหมาย แต่เหล่านักกฎหมายไม่ต้องการ พวกเขาชอบที่การนับคะแนนโหวตนั้นใช้เวลานาน พวกเขาจะได้มีเวลาโน้มน้าวผู้คนให้เปลี่ยนใจ ลงคะแนนใหม่
ทอมจึงตรงไปวอชิงตันดีซีและขายเครื่องนี้ให้กับสภาโดยตรง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธด้วยเหตุผลเดียวกัน
ทอมรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เขาตัดสินใจตั้งแต่วินาทีนั้นเลยว่าต่อไปจะประดิษฐ์แต่สิ่งประดิษฐ์ที่ผู้คนต้องการเท่านั้น ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะทำเงินจากสิ่งประดิษฐ์ได้
ทอมไม่ได้ชื่นชอบงานประดิษฐ์เพราะอยากจะรวย แต่เขาก็เข้าใจว่าการที่จะทำให้ไอเดียของเขาเป็นจริงได้ ก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก
ทอมได้เขียนบทความเกี่ยวกับโทรเลข เขียนลงนิตยสาร ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนอย่างมาก และทำให้ผู้คนเริ่มจะรู้จักนักประดิษฐ์หนุ่ม
หลายคนยกย่องว่าทอมเป็นอัจฉริยะ นักลงทุนหลายคนเริ่มสนใจ อยากจะออกทุนให้ทอมประดิษฐ์สิ่งที่เขาสนใจจะทำ
ทอมตัดสินใจลาออกจาก Western Union และเป็นนักประดิษฐ์อย่างเต็มตัว
ทอมต้องการจะหาวิธีการส่งข้อความมากกว่าหนึ่งข้อความไปตามสายโทรเลขในคราวเดียว หากทำได้ การส่งโทรเลขในแต่ละครั้งก็จะสามารถส่งได้มากขึ้น
แต่หลังจากผ่านไปได้หนึ่งปี ทอมก็เกิดเงินหมด เขาจึงตัดสินใจเดินทางออกจากบอสตัน เดินทางไปนิวยอร์ก
ชีวิตของนักประดิษฐ์คนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป เขาจะประดิษฐ์อะไรต่อไป ติดตามตอนต่อไปครับ
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
