9 ก.ค. 2019 เวลา 00:45 • ประวัติศาสตร์
5 เหตุผล ทำไม"บาบิโลน"ถึงควรค่าแก่การเป็นมรดกโลก
เมื่อเร็วๆนี้ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศรับรอง "เมืองบาบิโลน" แหล่งอารยธรรมโบราณที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอิรัก เป็นแหล่งมรดกโลก
เมืองบาบิโลนตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรทีส ห่างจากกรุงแบกแดด 85 กิโลเมตร ถือเป็นเมืองอารยธรรมโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 4,300 ปี และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ก่อนที่อิรักจะเผชิญกับภัยสงคราม
ถ้อยคำแถลงของยูเนสโก้ มีดังนี้
"บาบิโลนเป็นราชธานีของจักรวรรดิต่างๆอย่างต่อเนื่องยาวนาน ภายใต้ผู้นำเช่น ฮัมมูราบี เนบูชัดเนซซาร์ บาบิโลนแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์ของจักรวรรดิบาบิโลนใหม่ในขณะที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด มหานครแห่งนี้เกี่ยวพันกับหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างสวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน อันเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปะ วัฒนธรรม และศาสนาไปทั่วโลก"
ยิปซี ขอนำเสนอความรู้น่าสนใจว่า ทำไมบาบิโลนถึงควรค่าแก่การเป็นมรดกโลก
1.ตักศิลาด้านคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ของโลกยุคโบราณ
ชาวบาบิโลนโบราณรู้จักใช้เรขาคณิตเป็นที่แรก พวกเขาใช้เรขาคณิตช่วยคำนวณการทิศทางและความเร็วของดาวพฤหัสขณะเคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ระบบฐานเวลา 60 วินาทีต่อนาทีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันก็มีต้นกำเนิดจากนครโบราณแห่งนี้ นอกจากนี้ชาวบาบิโลนยังนำวิทยาการเลขคณิตมาประยุกต์กับโหราศาสตร์ ด้วยการคำนวณการเคลื่อนที่ของกลุ่มดาวต่างๆเพื่อทำนายเหตุการณ์หรือดวงชะตาด้วย
2.หนึ่งในต้นกำเนิดประมวลกฎหมายแห่งแรกของโลก
กฎหมายที่ว่าคือ ประมวลกฎหมายของกษัตริย์ฮัมมูราบี (Code of Hammurabi) เป็นกฎหมายที่มีชื่อเสียง ด้วยหลักการ "ตาต่อตาฟันต่อฟัน" กฎหมายนี้หากผู้ใดทำผิด จะได้รับโทษรุนแรงเทียบเท่ากับความผิดที่ตัวเองก่อไว้ เช่น หากบุตรทุบตีบิดามารดา จะต้องถูกลงโทษตัดมือทิ้ง นอกจากการประมวลกฎหมายอันโด่งดังแล้ว พระองค์ยังขยายอำนาจของบาบิโลนไปอย่างกว้างขวาง จนมีกษัตริย์รุ่นหลังหลายพระองค์พยายามอ้างว่าเป็นสายเลือดของฮัมมูราบี
3.อดีตมหานครอันดับต้นๆของโลกยุคโบราณ
นครบาบิโลนเป็นศูนย์กลางของวิทยาการต่างๆมานาน ความยิ่งใหญ่และสวยงามของมหานครแห่งนี้ดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศให้เข้ามาเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ มาเยี่ยมชม หรือแม้แต่มาพิชิต ผู้พิชิตหลายคนในประวัติศาสตร์ ต่างใช้บาบิโลนเป็นนครหลวง เช่น จักรวรรดิเปอร์เซียก็ใช้นครบาบิโลนเป็นศูนย์กลางการปกครองและเป็นวังที่ประทับฤดูหนาว อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) ก็ให้บาบิโลนเป็นนครหลวงของจักรวรรดิและสิ้นพระชนม์ลงที่นี่ด้วย
4."กำแพงและประตูเมืองบาบิโลน"สุดยิ่งใหญ่อลังการ
1
โบราณสถานสำคัญคือ ประตูอิชตาร์ หรือประตูเมืองบาบิโลน ตัวประตูโค้งประดับไปด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินงดงาม มีภาพของสิงโต มังกร และสัตว์ในตำนานเดินเรียงรายกันพร้อมด้วยลายดอกไม้ ผู้พิชิตและกษัตริย์ทุกรายต้องเสด็จผ่านประตูนี้เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ รวมทั้งอเล็กซานเดอร์มหาราช และ ไซรัสมหาราช (Cyrus the Great) เป็นต้น
1
ส่วนกำแพงเมืองของบาบิโลนเองสูง 12 เมตร ตัวกำแพงหนามาก จนนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกระบุว่าสามารถนำรถม้าขึ้นมาขับได้ถึง 4 คันพร้อมกัน
ปัจจุบันประตูเมืองบาบิโลนถูกนำไปก่อเรียงใหม่และเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่กรุงเบอร์ลิน
5."สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน"หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่รวบรวมพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วทุกสารทิศมาประดับไว้ สวนลอยบาบิโลน หากมองในระยะไกลจะดูเหมือนกับภูเขาสีเขียวสลับกับอิฐสีน้ำตาล มีระบบรางน้ำคอยหล่อเลี้ยงต้นไม้บนตัวสวนตลอดเวลา
ว่ากันว่าพระมเหสีชาวมีเดียน (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) ของกษัตริย์เนบูชัดเนซซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar II) ทรงคิดถึงพืชพรรณอันเขียวชอุ่มในบ้านเกิดเมืองนอนของตน กษัตริย์แห่งบาบิโลนจึงสร้างสวนลอยอันงดงามตระการตาแห่งนี้ เพื่อเอาใจมเหสีให้คลายความคิดถึงบ้าน.
---------------------------------------------------------
1
ปล.สั่งซื้อหนังสือ "เปิดตำนานบาบิโลน" (BABYLON:Mesopotamia:Cradle of Civilization) ได้ทางอินบอกซ์เพจสำนักพิมพ์ยิปซี
หรือกดสั่งซื้อที่https://line.me/R/ti/p/%40xsc8705a
โฆษณา