10 ก.ค. 2019 เวลา 04:09 • ประวัติศาสตร์
"ไว้ผมไม่ไว้หัว ไว้หัวไม่ไว้ผม"
ทำไมแมนจูต้องไว้ผมครึ่งหัว?
ทรงผมที่ต้องโกนหัวข้างหน้าและไว้ผมข้างหลังยาวๆ เป็นอัตลักษณ์ร่วมกันของชนเผ่าเร่ร่อน ที่ชาวจีนเรียกว่า "คนเถื่อนนอกด่าน"
1
ลักษณะพิเศษของทรงผมนี้คือ การโกนศีรษะส่วนหน้า บางครั้งครึ่งศีรษะ บางครั้งเหลือแค่หย่อมผมท้ายกระหม่อม แล้วถักเปียเป็นสาย บางกลุ่มจะโกนศีรษะหน้าแล้วเหลือหย่อมผมที่หน้าผาก หรือที่ข้างกระหม่อมเป็นแผงเล็กๆ แล้วไว้เปียด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ในท้องทุ่งที่มักจะต้องขี่ม้า ยิงธนู และล่าสัตว์
3
ชนเผ่าแมนจูซึ่งสืบเชื้อสายมาจากชนเผ่ารู่เจิน ครองดินแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และสถาปนาเป็นแคว้นแมนจูในคริสต์ศตวรรษที่ 16
ต่อมาแคว้นแมนจูทยอยรุกรานจีนจนสามารถยึดครองจีนทั้งหมด และสถาปนาเป็นราชวงศ์ชิงในปีค.ศ.1644
1
ก่อนสมัยราชวงศ์ชิง ชาวฮั่นในยุคนั้นไม่มีใครไว้ผมเปียเลย สมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ ต้องการไม่ให้มีการแบ่งแยกระหว่างชาวฮั่นหรือชาวแมนจู พระองค์จึงออกมาตรการหลายอย่างเพื่อเปลี่ยนชาวฮั่นให้เป็นชาวแมนจู และหนึ่งในนั้นคือ การไว้ผมทรงแมนจู
2
จึงมีการบังคับให้ชาวฮั่นไว้ผมทรงเดียวกับชาวแมนจู แต่ว่าโดนชาวฮั่นต่อต้านอย่างรุนแรงจนต้องระงับชั่วคราว
ในปี ค.ศ.1645 สมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อเดินหน้านโยบายนี้อีกครั้ง โดยมีคำสั่งประกาศว่า "ไว้ผมไม่ไว้หัว ไว้หัวไม่ไว้ผม" ใครไม่ปฏิบัติตาม มีโทษตายสถานเดียว
1
ในช่วงแรกมีชาวฮั่นจำนวนมากต่อต้านนโยบายนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อจึงสั่งให้ปราบปรามผู้ต่อต้านอย่างรุนแรง บางเมืองที่ต่อต้านนโยบายนี้ถูกทหารแมนจูสังหารกว่า 200,000 คนภายในเวลาเพียง 3 วัน
ปัญหานี้จึงกลายเป็นปัญหาทางการเมืองอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่เรื่องทรงผมเท่านั้น
2
ตลอดสมัยของราชวงศ์ชิง ชาวฮั่นที่ต่อต้านราชวงศ์ชิงจึงก่อกบฎหลายครั้ง พวกเขานิยมไว้ทรงผมแบบเดิมจึงถูกสังหารจำนวนมาก การไว้ผมทรงนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการภักดีต่อราชวงศ์ชิง
1
หลังการล่มสลายของราชวงศ์ชิง ฝ่ายปฏิวัติยึดครองจีนสำเร็จในปีค.ศ.1911 ฝ่ายปฏิวัติออกคำสั่งให้ชาวจีนเลิกการไว้ผมทรงแมนจู แต่ความเคยชินทำให้เกิดการต่อต้านในช่วงแรก
โฆษณา