11 ก.ค. 2019 เวลา 07:01 • ประวัติศาสตร์
📌ตอนที่ 1 สามวีรบุรุษสาบานในสวนท้อ (桃园三结义)
ยุคตงฮั่น ฮั่นโฮเต อายุ 10 ปี ขึ้นครองราชย์ กลุ่มขันทีโค่นอำนาจของตู้ไทเฮาและตู้เสี่ยงพี่ชายลงได้ แล้วเข้ากุมอำนาจบริหารราชการโดยตรง หลังจากนั้นหลายสิบปี เกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจอย่างรุนแรง มีการพลัดแผ่นดินอยู่บ่อยครั้ง จนไปถึงสมัยของเลนเต้ ในช่วงนั้นฮ่องเต้อ่อนแอ ราชสำนักปั่นป่วน ขุนศึกท้องถิ่นกดขี่ข่มเหงประชาชน แย่งยึดที่ดิน และยังเกิดภัยธรรมชาติติดต่อกันหลายปี ทำให้ผู้คนเดือดร้อนกันไปทั่ว ประชาชนลุกขึ้นมาก่อกบฏ จัดตั้งกองโจรโพกผ้าเหลืองหลายหมื่นคน บุกปล้นเผาจวนขุนนาง ราชสำนักจึงให้แต่ละเมืองเปิดรับกำลังอาสาสมัครปราบโจรโพกผ้าเหลืองเพราะทหารหลวงมีกำลังไม่เพียงพอ
ขณะนั้นที่เมืองอิจิ๋ว เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ได้พบกันแล้วเกิดถูกชะตา จึงได้เชิญกันมาดื่มสุราที่บ้านเตียวหุย และได้พูดคุยกันเรื่องโจกโพกผ้าเหลือง โดยกวนอูและเตียวหุยตัดสินใจว่าจะไปสมัครทหารอาสาเพื่อปราบโจร แต่เล่าปี่ก็ได้พูดโน้มน้าวใจ ว่าตอนนี้บ้านเมืองเกิดจลาจล ท่านทั้งสองมีโอกาสสร้างวีรกรรมแล้วทำไมต้องไปสมัครเป็นทหารอาสาอยู่ใต้การบัญชาของคนอื่น โดยเล่าปี่คิดการใหญ่ที่จะตั้งกองทัพของตนเองเข้าปราบโจรโพกผ้าเหลืองเพื่อสร้างชื่อเสียง และหวังให้ให้กวนอูและเตียวหุยคล้อยตามเข้าร่วมด้วย ซึ่งทั้งสองเมื่อได้ฟังเล่าปี่ก็เกิดความศรัทธา เห็นเล่าปี่เป็นผู้มีบุญ สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ฮั่น จึงตัดสินใจติดตามเล่าปี่ ทั้งนี้เตียวหุยได้มอบทรัพย์ของตนเองให้แก่เล่าปี่ไว้ทำการใหญ่ในอนาคตด้วย แล้วทั้งสามก็ได้สาบานเป็นพี่น้องกันในสวนท้อ โดยให้การเคารพยกเล่าปี่เป็นพี่คนโต กวนอูเป็นพี่คนรอง และเตียวหุยเป็นน้องคนเล็ก
จากนั้นเล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ก็ร่วมกันจัดตั้งกองกำลัง จัดหาอาวุธ แล้วเข้าร่วมกับกองทัพหลวงปราบโจรโพกผ้าเหลืองสร้างความดีความชอบหลายครั้ง และครั้งหนึ่งก็มีโอกาสได้ช่วยชีวิตตั้งโต๊ะไว้ แต่หลังจากจบสงครามเล่าปี่กลับได้รับรางวัลเป็นตำแหน่งนายอำเภอในเมืองอันห้อก้วนเท่านั้นเพราะไม่มีเส้นสายอะไร ซึ่งทำให้เตียวหุยและกวนอูไม่พอใจแทนเล่าปี และหลังจากรับตำแหน่งก็มีค่าหลวงมาเข้าพบเล่าปี่ หวังจะให้เล่าปี่ติดสินบนแล้วบีบให้ออกจากตำแหน่ง แต่เล่าปี่เป็นคนมีคุณธรรม ไม่เคยเอาเปรียบชาวบ้าน จึงไม่ยอมคล้อยตาม ค่าหลวงไม่พอใจ จึงพยายามวางแผนใส่ร้ายเล่าปีให้มีความผิด จนเตียวหุยทนไม่ไหว จับค่าหลวงออกมาเฆี่ยนตีและประจานต่อหน้าชาวบ้าน เล่าปี่รู้เรื่องก็เข้ามาห้าม สุดท้ายเล่าปี่ก็ตัดสินใจไว้ชีวิตค่าหลวงและลาออกจากตำแหน่งนายอำเภอเพื่อพิสูจน์ความมีคุณธรรม แล้วสามพี่น้องก็หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่กับเล่าหงี ค่าหลวงแคว้นอิจิ๋ว จากนั้นกองซุนจ้านได้เขียนฎีกาเสนอความดีความชอบของเล่าปี จนเล่าปี่ได้ตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองเพงงวนก๋วน
📌วิเคราะห์กลยุทธ์🕵️
- กลยุทธ์การสร้างความศรัทธาของเล่าปี่ โดยการพูดโน้มน้าวใจของเล่าปี่ ที่ใช้สำนวน “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ วีรบุรุษจะเกิดขึ้นเพราะสถานการณ์เท่านั้นเอง" และการเล่าเรื่องของผู้มีบุญญาธิการ เชื้อสายราชวงศ์ผู้หนึ่ง ให้กวนอูและเตียวหุยฟัง แล้วเฉลยภายหลังว่าเป็นเรื่องของตนเอง ทั้งนี้ยังมีการใช้สำนวนเชิงการเปรียบเทียบ อื่นๆ อีก เช่น “ไหมเส้นเดียวไม่เป็นด้าย ต้นไม้ต้นเดียวไม่เป็นป่า" และ “ พวกท่านเปรียบเหมือนผู้นำฟืนมาให้ยามหนาว มีความจริงใจเยี่ยมเปี่ยมมิตร" พร้อมทั้งให้การคาราวะขอบคุณ เปรียบตนเองที่ได้ เจอกวนอูและเตียวหุย เหมือนได้เจอทองแท้ในทะเลทราย และขอเป็นพี่น้องร่วมสาบาน ทำให้ทั้งสองเกิดความศรัทธา ตัดสินใจเข้าร่วมติดตามเล่าปี่ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในอนาคต
นอกจากนี้เล่าปี่ก็ยังสร้างความศรัทธาแก่ชาวบ้านได้ในตอนที่รับตำแหน่งนายอำเภอ แต่โดนค่าหลวงกลั่นแกล้งให้ร้ายเพื่อให้เล่าปี่ติดสินบน แต่เล่าปี่กลับไว้ชีวิตค่าหลวง แล้วลาออกจากตำแหน่งด้วยตัวเอง ทำให้ผู้คนต่างยกย่องว่าเล่าปี่เป็นคนมีคุณธรรม
- กลยุทธ์ของค่าหลวงที่ต้องการใสร้ายเล่าปี่ เพื่อบีบให้ออกจากตำแหน่งนายอำเภอ โดยการติดประกาศ ภายในสามวัน ให้ชาวบ้านที่มีเรื่องทุกข์ใจและมีหลักฐานการทุจริตของนายอำเภอเล่าปี่ ให้เอาเรื่องมาฟ้อง ร้องได้ และยังเฆี่ยนตีบังคับให้พนักงานอำเภอกล่าวร้ายเล่าปี แต่ก็ไม่มีใครคล้อยตามเพราะเล่าปี่ไม่เคยทำความผิดอะไร
โฆษณา