12 ก.ค. 2019 เวลา 13:55
อ่านเจอเรื่องจริงเอามาเล่า ที่ถึงแม้จะรู้สึกแย่และเศร้าใจแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันคือความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
"คนไทยกลัวคนรวย แต่ไม่กลัวกฎหมาย กฎหมายจึงอยู่ใต้คนรวยเสมอในประเทศนี้"
เรื่องมีอยู่ว่า วันก่อนขณะกำลังขับรถไปทำงาน
ผู้เขียนเหยียบเบรคชะลอรถ หยุดให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลาย
ปรากฎว่ารถคันหลังบีบแตรไล่หลัง ให้รีบไป
ผมข่มใจไม่แสดงอาการอะไรออกมา และแผ่เมตตา ปล่อยให้มันผ่านไป
1
ไม่เก็บไว้เป็นอารมณ์ให้ขุ่นมัว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น และสังเกตได้ว่า
การหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายในประเทศนี้
แทบจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์บนท้องถนน
เพราะรถส่วนใหญ่จะแล่นผ่านไปเลย
เมื่อเห็นมีคนรอข้ามถนนตรงทางม้าลาย บางคันเร่งเครื่องเหยียบคันเร่ง
และใครหยุดรถให้คนข้ามถนน
ก็เสี่ยงกับการโดนรถคันหลังชน หรือไม่ก็โดนบีบแตรไล่
ผมพยายามคิดว่า
ทำไมคนขับรถส่วนใหญ่จึงไม่หยุดให้คนข้ามถนนทางม้าลาย
ทั้ง ๆที่หลายครั้งหน่วยงานรัฐพยายามรณรงค์ให้จอดรถให้คนข้ามถนน
แต่ไม่ค่อยได้ผล เพราะคนขับรถส่วนใหญ่จะคิดว่า
ถนนเป็นพื้นที่ของรถไม่ใช่ของคน
และทุกคนอยากรีบขับรถไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง
การหยุดรถให้คนข้ามถนนเป็นเรื่องเสียเวลา
ตรงข้ามกับหลายประเทศ เพียงแค่คนมายืนตรงขอบถนนตรงทางม้าลาย
รถก็หยุดให้คนข้ามถนนแล้ว
แน่นอนว่า การบังคับใช้กฎหมายของหลายประเทศรุนแรงมาก
การไม่หยุดให้คนจอดรถข้ามทางม้าลาย
อาจถูกปรับเงินมหาศาลและอาจถูกยึดใบขับขี่ตลอด
แต่เท่านั้นยังไม่พอ
สำนึกต่อส่วนรวมเป็นเรื่องที่มีอยู่ในประชาชนหลายประเทศเช่นกัน
การหยุดรถให้คนข้ามถนนเป็นสำนึกต่อส่วนรวม
สำนึกว่าคนเดินถนนก็มีสิทธิ์ใช้พื้นถนนเหมือนกัน
และการข้ามถนนเป็นเรื่องที่คนขับรถต้องยอมรับสิทธิของคนเดินถนน
และการหยุดรถก็เป็นหลักประกันความปลอดภัยของคนข้ามถนน
***"สำนึกต่อส่วนรวมตรงกันข้ามกับคำว่าความเห็นแก่ตัว"***
ไม่นานมานี้ ผมได้อ่านข้อความที่แชร์กันในไลน์
จากความรู้สึกของคนญี่ปุ่นที่ทำงานเมืองไทยร่วมสิบปีก่อนจะลากลับบ้าน
ด้วยเหตุผลว่าเคยเกือบโดนรถชนตายบนถนน บนทางม้าลาย
และยังถูกเปิดกระจกตะโกนด่าซ้ำ
แค่มุมมองต่อการใช้ถนนของเขาก็สะท้อนนิสัยคนไทยได้ดี
เขาบอกว่า “พื้นฐานของชาติผมคือวินัย แต่พื้นฐานของคนไทยคือเห็นแก่ตัว”
หลายคนที่เคยไปญี่ปุ่น ไม่แปลกใจ
เมื่อเห็นรถทุกคันหยุดให้กับคนข้ามถนนทางม้าลายอย่างพร้อมเพรียงกัน
จนเป็นเรื่องชินตา
เช่นเดียวกัน จะเห็นคนญี่ปุ่นยืนรอสัญญาณไฟตรงสี่แยกอย่างอดทนหลายนาที
ไม่ว่าหิมะตกหรือฝนตก จนกว่าจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียวให้ข้ามถนนได้
สิ่งเหล่านี้คือวินัยและสำนึกต่อส่วนรวม
ที่คนญี่ปุ่นสร้างกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ
แต่หลายปีในเมืองไทยเขาสังเกตเห็นการจราจรบนท้องถนนพบว่า
“ต้องคอยขยับรถทีละนิดเพราะกลัวว่าตนจะถูกคนเอาเปรียบ“
“ถ้าไม่รีบขยับรถไปข้างหน้า จะมีคนเห็นแก่ตัวหาทางโกงคุณเสมอ
หมายถึงรถซ้ายขวาที่จ้องจะแย่งเข้าเลน
แม้ว่ามันจะขยับไปทับเส้นขาวแล้วขวางทางรถพยาบาล
หรือไปหยุดกลางสี่แยกกั้นไม่ให้ทุกคนได้ไป คนไทยก็จะทำโดยไม่ลังเล”
“คนไทยจอดรถซื้อของในที่ห้ามจอดบนทางเท้าหรือจอดทั้งที่รถติดๆ
โดยไม่คิดว่ารถคันหลังจะมีธุระด่วนแค่ไหน
ในประเทศญี่ปุ่นไม่มีแบบนี้ เรารีบเร่งตลอดเวลา
แต่ว่าเราไม่เห็นแก่ตัวเหมือนคนไทย”
แต่ที่แสบสันต์ก็คือทัศนะของเขาต่อสะพานลอยข้ามถนน
ว่าเป็นสิ่งอัปลักษณ์เหลือเกินและสะท้อนการเอารัดเอาเปรียบคนใช้ถนนยิ่งนัก
“คนไทยโดนหลอกให้ใช้สะพานลอย
ไม่มีเหตุผลที่จะไล่คนท้อง คนพิการและคนชราให้ปีนสะพานสูงชัน
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถยนต์ราคาแพงๆ”
แทนที่หน่วยงานรัฐจะบังคับใช้กฎหมายกับคนขับรถ
ที่ไม่หยุดให้คนข้ามถนนทางม้าลาย เมื่อทำไม่สำเร็จคนไม่กลัวกฎหมาย
ก็สร้างสะพายลอยบังคับให้คนต้องเดินขึ้นสะพานสูง
บางแห่งก็เปลี่ยว เสี่ยงต่อการถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ หรือทำร้ายร่างกาย
ชาวญี่ปุ่นคนนี้ยังแสดงความเห็นต่อว่า
คนไทยจำนวนมากขี้กลัว ไม่กล้ารักษาสิทธิ์ของตัวเอง
ไม่กล้าโวยใส่รถราคาแพงที่ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
“ คนไทยขี้กลัว ไม่กล้าโวยวายใส่คนรวยแม้จะทำผิดกฎหมาย
แต่ยอมปีนบันไดชันๆดีกว่า
เพื่อให้คนรวยเขาอยู่สบายๆ เหนือกฎหมายต่อไป”
บทสรุปของเขาก่อนอำลากลับประเทศคือ
“คนไทยกลัวคนรวย แต่ไม่กลัวกฎหมาย…..
ดังนั้นกฎหมายจึงอยู่ใต้คนรวยเสมอในประเทศนี้
และเพราะกฎหมายไม่ช่วยอะไร ทำให้ทุกคนยิ่งต้องเห็นแก่ตัว
เพื่อไม่ให้ถูกคนเอาเปรียบกัน”
ไม่แปลกใจที่คนบ้านอื่นจะมองว่า พื้นฐานคนไทยคือความเห็นแก่ตัว
.
Cr: Line forwarded
โฆษณา