13 ก.ค. 2019 เวลา 09:29 • บันเทิง
10 ภาพยนตร์แนว Musical ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์
เวทีรางวัลภาพยนตร์ Academy Awards
หรือ Oscars ได้ทำการประกาศชื่อรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
มากกว่า 90 เรื่องด้วยกันเข้าไปแล้ว
และมีกว่า 10 เรื่องด้วยกัน
ที่เป็นภาพยนตร์แนว ‘Musical’
หรือ ‘หนังละครเวที’ ที่ถูกนำมาทำในรูปแบบ
ของภาพยนตร์เพื่อต่อยอดในด้านของโปรดักชั่น
และเพิ่มบทต่างๆที่นอกเหนือข้อจำกัด
ของละครเวที โดยยังคงยึดเอาหลัก
ของความเป็นละครเวที
ด้วยการคงบทร้องเพลง-เต้นรำ เพื่อสื่อความหมายและความรู้สึกของตัวละครให้ผู้ชม
คงเอาไว้เช่นเดิม
และใช้เทคนิคสื่อสารกับผู้ชมในรูปแบบต่างๆ ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้ภาพยนตร์แนว
Musical น่าจดจำซึ่งบทส่วนใหญ่
แล้วจะเป็นบทภาพยนตร์ดัดแปลง
และในยุค 1950s-60s นั้นถือเป็นยุคที่รุ่งเรื่อง
ของภาพยนตร์แนว Musical มากที่สุด
ครั้นจะให้แนะนำภาพยนตร์แนว Musical
ที่น่าสนใจหามารับชม มันก็มีมากมายซะเหลือเกิน
จึงขออนุญาตแนะนำภาพยนตร์แนว Musical
ทั้ง 10 เรื่องในประวัติศาสตร์ของวงการ
ภาพยนตร์อเมริกา
ที่สามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของเวที Oscars ในปีนั้นๆไปครองได้สำเร็จ
(*ที่จริงจะนับเป็น 11 เรื่องก็ได้ถ้านับ
La La Land (2016) ที่ได้เป็นภาพยนตร์
ยอดเยี่ยมอยู่ 5 นาที อิอิ)
West Side Story (1961)
‘West Side Story’ กวาดไป 10 รางวัลออสการ์ หลุดเพียงแค่บทดัดแปลงยอดเยี่ยมเท่านั้น
จากการเข้าชิง 11 รางวัลออสการ์ ถือเป็น
อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
โดยเป็นเรื่องราวของแก๊งอริสองแก๊ง
ที่ไม่ลงรอยกัน
ระหว่างกลุ่มฝรั่งผิวขาวเจ้าถิ่นเดิม
และกลุ่มผู้อพยพชาวเปอร์โตริโก
ณ ฝั่งตะวันตกของนิวยอร์ก ซิตี้
และในระหว่างที่ทั้งสองฝั่งกำลังระอุกันนั้น
‘โทนี่’ คนฝั่งของฝรั่งผิวขาว
ดันไปตกหลุมรักกับ ‘มาเรีย’
น้องสาวของหัวหน้าแก๊งเปอร์โตริโก
ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวใหญ่โต…
โดย ‘West Side Story’ นั้นทำการดัดแปลงบทมาจากงานเขียนชื่อดัง ‘Romeo and Juliet’
My Fair Lady (1964)
อีกหนึ่งผลงานที่น่าจดจำของ Audrey Hepburn ใน ‘My Fair Lady’ ภาพยนตร์ปี 1964
ที่กวาดไป 8 รางวัลออสการ์ กับเรื่องราววุ่นๆ
ในสังคมของชนชั้นสูง
An American in Paris (1951)
เรื่องราววุ่นๆของอดีตทหารหนุ่มอเมริกัน
ที่ตัดสินใจอยู่ปักหลักที่ปารีสหลังสงครามโลก
และทำงานเป็นจิตรกร รวมถึงไปตกหลุมรัก
สาวมากเสน่ห์ที่มีคู่หมั้นแล้ว
และตัวของเขาเองยังมีสาวอเมริกันที่ร่ำรวย
มาให้ความสนใจเขาอีกต่างหาก
จึงเกิดเป็นเรื่องวุ่นๆที่น่าติดตาม รวมถึงมี 6 รางวัลออสการ์เป็นเครื่องหมายการันตี
The Great Ziegfeld (1936)
ภาพยนตร์คลาสสิคเมื่อปี 1936 เล่าถึงเรื่องราวชีวประวัติของ Florenz Ziegfeld Jr.
โปรดิวเซอร์ออกแบบฉากฟุ่มเฟือยในละครเวที
ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์ละครเวที
ที่ชีวิตแปรผกผันตั้งแต่จุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุด
The Broadway Melody (1929)
ภาพยนตร์เสียงเรื่องแรกของวงการภาพยนตร์
ที่ได้รางวัลออสการ์เมื่อปี 1930
กับเรื่องราวของสองสาวพี่น้องในกลุ่มนักแสดงละครสัญจร พยายามที่จะก้าวเข้าไป
ในเวทีละครอย่างบรอดเวย์
ซึ่งมีเรื่องของอุปสรรคให้ชวนติดตาม
Oliver! (1968)
หนึ่งในบทประพันธ์คลาสสิคของ Charles Dickens ในเรื่อง ‘Oliver Twist’
ถูกนำมาดัดแปลงใหม่
เป็นบทละครเวที ก่อนลงสู่จอภาพยนตร์ในที่สุด
เป็นเรื่องราวของ ‘Oliver’ เด็กกำพร้าที่หนี
ออกมาเผชิญโลกภายนอก
และได้ไปเข้ากับกลุ่มของกลุ่มเด็กกำพร้า
อีกกลุ่ม และถูกสอนให้เรียนรู้การล้วงกระเป๋า
จากผู้ชำนาญ
Going My Way (1944)
เรื่องราวของนักบวชคาทอลิกหนุ่มรายหนึ่ง
ที่แต่เดิมเคยเป็นนักกีฬา
และได้เรียนรู้สีสันมากมายในชีวิต
ได้ตัดสินใจบวชเป็นนักบวชคาทอลิก
และได้ย้ายมาอยู่ที่ย่านแออัดในกรุงนิวยอร์ก
ก่อนจะพบว่ามีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ
ทั้งเรื่องของภาระหนี้สินของโบสถ์เอง
และเรื่องราวของการช่วยเหลือกลุ่มเด็กๆ
ในชุมชน และพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเขาเอง
เชื่อว่าการที่เขาเลือกมาเป็นนักบวชนี้
เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
ผลงานการันตีด้วยการกวาดไปถึง
7 รางวัลออสการ์
(ส่วนตัวชอบมากครับสำหรับเรื่องนี้)
Chicago (2002)
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแนว Musical เรื่องเดียว
จากยุค 2000s ที่สามารถคว้าออสการ์มาได้
กับเรื่องราวสุดแปลกแหวกแนวของ Velma
และ Roxie สองสาวสวยนักแสดงละครเวที
ในยุค 1920s ที่บังเอิญไปฆ่าแฟนของตัวเองเหมือนกัน และต้องติดคุกพร้อมต้องโทษประหารด้วยการแขวนคอ แต่เมืองที่ทั้งสองคนอยู่
คือเมืองชิคาโก เมืองที่สามารถเปลี่ยนเรื่องราว
ได้อย่างคาดไม่ถึง เมื่อทั้งคู่อาจจะสามารถ
หลุดโทษประหารชีวิตได้ หากสามารถผันตัวเอง
ให้เป็นดาวของเมือง แต่หนทางรอดอาจจะพอสำหรับแค่คนเดียวเท่านั้น…
Gigi (1958)
9 รางวัลออสการ์! กับเรื่องราวของ ‘Gaston’
หนุ่มเพลย์บอยในสังคมชั้นสูง
ที่ควงสาวไม่เลือกหน้า กับ ‘Gigi’ สาวเพื่อนต่างวัยที่กำลังเรียนรู้เรื่องต่างๆ
ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันได้ไม่นานนักเท่าไหร่…
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นความรัก
แต่ Gigi ไม่ยอมที่จะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงชั่วคราว หรือเพื่อนยามเหงาของ Gaston เท่านั้น
นั่นทำให้ Gaston ต้องเลือกว่าจะยอมทิ้งชีวิตเสเพลอันแสนสุข
เพื่อ Gigi เพื่อนสาวต่างวัยที่บรรลุนิติภาวะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อพอดี…
The Sound of Music (1965)
ปิดท้ายด้วยภาพยนตร์ ที่ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก
ในชื่อเสียงอย่าง ‘The Sound of Music’
ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ไว้มากมาย
ในวงการภาพยนตร์ ชนิดหาที่เปรียบเทียบได้ยาก
โดยเป็นเรื่องราวของ Maria ที่กำลังใจสลาย
หลังไม่ได้บรรลุเป็นแม่ชีตามฝัน
แต่กลับได้โอกาสรับงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กของกัปตันเดินเรือที่มีลูกถึง 7 คน และซนกันอย่างมาก
ซึ่งกัปตันที่เป็นพ่อม่ายไม่สามารถรับมือกับลูกๆ
ทั้ง 7 คนได้ และต้องคอยออกไปทำงาน
จึงได้ Maria มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งเด็กๆ
ต่างต่อต้าน Maria กันตั้งแต่ต้น
แต่ด้วยความใจดีและอ่อนหวานของ Maria
กลับสามารถเอาชนะใจเด็กๆทั้ง 7 คน
ได้อย่างง่ายดาย
และยังรวมไปถึงกัปตัน Von Trapp ด้วย
ก่อนที่ทั้งคู่จะต้องตั้งคำถาม
ถึงเรื่องของความเหมาะสม
ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้ The Sound of Music
เป็นที่จดจำอย่างมากอีกอย่างหนึ่ง
คงหนีไม่พ้นเมือง Salzburg ประเทศ Austria
สถานที่ดำเนินเรื่องราวของ Maria และกลุ่มเด็กๆ ซึ่งห้อมล้อมด้วยภูเขาและเมืองเก่าที่มีเสน่ห์
และทำให้เมือง Salzburg กลายเป็น
แหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ
ของโลกมาอย่างยาวนาน
และนี่ก็เป็น 10 หนังแนว Musical ที่ถูกยก
ให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ
Academy Awards
ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องหมายการันตีในผลงาน
ไม่มากก็น้อยครับ
สามารถเข้าชมบทความดี
ของเราได้ที่: http://www.aboutfriday.com/
หรือแฟนเพจ
เล็กๆของเรา: https://facebook.com/aboutfriday
โฆษณา