13 ก.ค. 2019 เวลา 16:13 • ไลฟ์สไตล์
S-Story: มื้ออาหารแห่งความสุข
ในตอนเย็นของวันหลังเลิกงาน
ผมรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับมันเหลือเกิน เหมือนกับว่าผมผ่านมันมาทั้งอาทิตย์ทั้งๆที่วันนี้พึ่งวันจันทร์เท่านั้นเอง
สักพักโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ผมรับแล้วก็พูดเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกวันจริงๆ
เหมือนถูกป้อนให้ตอบประโยคอัตโนมัติ
-สวัสดีครับพ่อ
-ผมสบายดีครับพ่อ
-พึ่งกินข้าวเสร็จเลยครับ
-งานก็เหมือนทุกวันครับ ก็โอเคนะครับ
-ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะระมัดระวัง
-ผมตื่นได้แน่ครับ ไม่สายหรอก
ผมรู้นะว่าเขาเป็นห่วง ผมต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่เขาคอยโทรหาผมตลอด ถึงแม้เขาจะไม่ว่างก็ตาม แต่เขาก็โทรมาเสมอ
บางครั้งผมก็แค่เหนื่อย เหนื่อยจนไม่ยากพูดกับใครเลย นอกจากล้มนอนลงบนเตียง
วันนี้แตกต่างจากทุกวัน ก่อนวางสายเขาบอกผมว่า
วันเสาร์นี้ ไปหาอะไรอร่อยๆกินกันป่าว ไหนๆลูกก็พึ่งได้งานนี้ ไปฉลองกันเถอะ ไปกินอะไรที่ลูกชอบไง
เมื่อผมได้ยินแทบอดยิ้มไม่ได้เลย
ผมบอกพ่อว่าขอบคุณครับ เดี้ยวผมจัดการให้ ผมเลือกร้านอาหารของโรงแรมที่นานๆเราจะได้กินมันที ผมจัดการโทรจอง หาแผนที่เดินทาง วางแผนทริปครั้งนี้ ผมเตรียมมันอย่างดี
ผมตื่นเต้นและคาดหวังกับมันจริงๆ
ภาพในหัวผมแล่นเหมือนกับแผ่นเพลงที่อยู่บนเครื่องเล่น ผมเห็นภาพผมกับพ่อกินอาหารที่หรู เรานั่งหัวเราะด้วยกันบนโต๊ะอาหารที่มีแต่ของแพงๆและอร่อย ไม่ว่าจะเป็น ฟัวกราต์ แซลม่อน ปูตัวใหญ่ๆ กุ้งแม่น้ำย่าง เรานั่งยิ้มและหัวเราะตามภาษาพ่อลูกที่เราไม่ได้ทำกันมานาน
ผมนับวันรอคอยทุกวัน
ผมตั้งตารอวันนี้จริงๆ ทุกครั้งที่ผมเหนื่อย ผมจะคิดว่าเดี้ยวก็วันเสาร์แล้วแหละ อดทนแปปเดียว ผมจะฉลองให้เต็มคราบเลย คอยดูเถอะ
สิ่งที่เราตั้งตารอคอย มันเหมือนเติมพลังให้เราผ่านวันแย่ๆไปได้ตลอดเลยเนอะ
เมื่อผมขับรถกลับมาถึงบ้านตอนเย็นวันศุกร์
ผมกำลังจะเตรียมกับพ่อเรื่องการเดินทางไปในวันพรุ่งนี้ และเวลาที่เราจะนัดเจอกัน ผมตื่นเต้นกับมันจริงๆ
แต่พ่อกลับพูดสวนขึ้นมาก่อนที่ผมจะเอ่ยอะไรออกไปด้วยซ้ำ
"พรุ่งนี้ขอยกเลิกได้ไหมลูก พอดีพ่อติดงานด่วนจริงๆ ไม่สามารถไปได้ พอจะยกเลิกได้ไหม"
เมื่อได้ยิน ในหัวผมว่างเปล่า เมื่อโดนต่อยเข้าที่หน้า
ผมโมโหพ่อหนักมาก แค่วันเดียวเขาก็ให้ผมไม่ได้หรอ ผมขอแค่วันเดียวจริงๆ
มันเหมือนกำแพงที่ผมทยอยสร้างมาทุกวันถล่มลงภายในพริบตา
ผมได้แต่ก้มหน้ายอมรับถึงแม้ผมจะไม่อยากก็ตาม
พ่อเขาพูดมาอีกประโยคเดียว
"ถ้าลูกไม่อยากให้พ่อไปทำงาน พ่ออยู่กับลูกก็ได้นะ"
"ถ้าพ่ออยู่กับผมแล้วพ่อคิดแต่เรื่องงาน พ่อก็อย่าไปเลย มันเหมือนพ่อทิ้งให้ผมอยู่บนโต๊ะคนเดียว ผมอยากไปกินกับพ่อ ไม่ได้อยากกินคนเดียวปะ"
หลังจากนั้นทั้งห้องก็เงียบ เราก็ต่างคนต่างขึ้นห้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จริงๆแล้วมันไม่ง่ายอย่างที่เห็นหรอก ทุกคนรู้ดี
ตอนเย็นวันนั้น พ่อโทรมาหาผม บอกว่าวันนี้พ่อเลิกงานเร็วกว่าที่คิด ไปหาอะไรทานกันไหม
ผมพยายามกั้นความหงุดหงิดที่เหลือจากความผิดหวังไว้ และตอบตกลงไป
พ่อเขาขับมารับผมและพาผมไปจอดที่ร้านหมูกะทะแห่งหนึ่ง เขาสะกิดผม หันมายิ้มให้กับผม ก่อนพูดเพียงแค่ประโยคง่ายๆ
....กินให้อร่อยนะลูก
น้ำตาผมไหลลงอาบแก้มช้าๆ
เมื่อวานผมทำอะไรไป ทำไมผมต้องโมโหขนาดนั้น
สิ่งที่ผมต้องการจริงๆ คือ เห็นพ่อผมมีความสุขหนิ
บางทีการที่เรานั่งล้อมกินหมูกะทะร้อนๆ
บางทีการที่เราเดินผลัดกันไปตักอาหารมาปิ้ง
บางทีการที่เรานั่งกินหมูกะทะที่นี้และเห็นคนที่เรารักมีความสุข ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
เงิน สิ่งของรอบกาย มันมักหลอกให้เราคาดหวังว่าเราจะมีความสุข มันมักหลอกให้เราตายใจ เพราะสิ่งพวกนี้ไม่เคยเป็นสิ่งที่เราต้องการเลย
หมูกะทะราคาหลักร้อย อาจไม่สามารถสู้กับบุฟเฟ่ต์โรงแรมหรูราคาหลักพันได้
แต่ถ้ามันทำให้คนที่ผมรักยิ้มได้และมีความสุขกับมัน มื้อนี้ก็ไม่สามารถประเมินค่าได้แล้วนะ
-Paralle World-

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา