[ดีต่อใจ] บทความนี้มาจากเรื่องจริง เป็นเรื่องที่เศร้าและกระทบกับอารมณ์ความรู้สึกนะครับ #สุสานหิ่งห้อย# Grave of the Fireflies

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

ดีต่อใจ

•

13 ก.ค. 2019 เวลา 15:22 • ประวัติศาสตร์

บทความนี้มาจากเรื่องจริง เป็นเรื่องที่เศร้าและกระทบกับอารมณ์ความรู้สึกนะครับ

#สุสานหิ่งห้อย#

Grave of the Fireflies

...

ภาพนี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพชาวอเมริกันที่ชื่อ Joe O'Donnell ในเมืองนางาซากิ เมื่อปี 1945 เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า .....

ผมเห็นเด็กชายคนหนึ่งอายุ ประมาณ 10 ขวบ แบกเด็กน้อยไว้ที่หลังของเขาตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าในประเทศญี่ปุ่น เรามักจะเห็นเด็กที่มีน้องชาย น้องสาว แบกน้องไว้ที่หลังตัวเองเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เด็กคนนี้เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ เหมือนเค้ามายืนอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุผลที่ซีเรียส มีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ได้สวมรองเท้า ส่วนเด็กน้อยที่อยู่บนหลัง หงายศีรษะขึ้น ราวกับคนที่เพิ่งจะหงายหลับไปอย่างรวดเร็ว

.....เด็กชายคนนี้ยืนอยู่ตรงนั้น นานประมาณ 5-10นาทีเห็นจะได้ ก็มีชายสวมหน้ากากปิดปากสีขาว เขาไม่พูดจาอะไรเดินอ้อมไปที่เด็ก แล้วอุ้มเด็กทารกที่หลังเด็กชายออกมา นั่นแหละผมถึงรู้ว่า เด็กทารกที่เห็นนั้นได้ตายไปแล้ว

จากนั้นผู้ชายก็เอาร่างของเด็กทารกวางบนกองไฟ.....

.....เด็กชายก็ยังคงยืนดูเปลงไฟอยู่ตรงนั้น ไม่ไปไหน ผมดูที่หน้าเขาเห็นเขากัดริมฝีปากล่างอย่างแรงจนเลือดไหล จนกระทั่งเปลวไฟมอดลงดวงอาทิตย์ก็กำลังจะตกดินแล้วเช่นกัน เด็กชายมองหันไปรอบๆ ตัว แล้วก็เดินออกไปอย่างเงียบๆ.....

ภาพเดิมนั้นเป็นภาพถ่ายจากฟิล์มขาวดำ เป็นภาพเก่าจากหนังสืออัตชีวประวัติ อะคิยูกิ โนซากะ กับร่างน้องสาวของเขา ถ่ายโดยช่างภาพสงครามชาวต่างชาติที่พบเจออะคิยูกะกับน้องสาวในขณะนั้น ภาพนี้ได้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกและได้มีการส่งมอบภาพนี้แก่อะคิยูกะภายหลัง.....

#จากเรื่องจริงสู่การตูนอานิเมะ#

การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง สุสานหิ่งห้อย เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น หนังดัดแปลงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของ อะคิยูกิ โนซากะ ผู้สูญเสียน้องสาวตัวน้อยๆ ด้วยสาเหตุจากการขาดอาหารระหว่างสงคราม สุสานหิ่งห้อยออกฉายในปี ค.ศ. 1988 กำกับโดยอิซะโอะ ทะคะฮะตะ

Grave of the Fireflies หรือสุสานหิ่งห้อย เป็นการ์ตูนที่ดิฉันมั่นใจว่าถ้าใครได้ดูแล้วต้องฝังใจ เพราะความเลวร้ายของสงคราม และความรักมากมายที่ล้นเอ่อ ของสองพี่น้อง จนไม่สามารถห้ามน้ำตาของคุณให้หยุดไหลได้แน่นอน.....

นักประพันธ์เรื่องนี้เปรียบหิ่งห้อยเป็นชีวิตของเด็กๆ ในช่วงสงครามเป็นดั่งแสงของหิ่งห้อย หิ่งห้อยเป็นสัตว์ที่ตายง่าย เมื่อใดที่หิ่งห้อยตาย แสงของหิ่งห้อยก็จะหมดลง เสมือนชีวิตและความหวังอันริบหรี่ของเด็กๆ ในช่วงสงครามนั่นเอง.....

แหล่งอ้างอิง : เพจเรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม, bloggang, pantip, manageronline

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน