14 ก.ค. 2019 เวลา 07:24 • ธุรกิจ
Learning Visual Diary #11 Gravity and Anchor Problem
สวัสดีครับทุกท่าน 'ปัญหา' เป็นสิ่งที่เราเผชิญตลอดเวลา บางเรื่องแก้ได้บางเรื่องก็แก้ยากหรือแก้ไม่ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั่นบางปัญหามันกระทบถึงเราในระดับความเชื่อ...
ปัญหา 2 ประเภทที่ผมได้จากหนังสือ Designing Your Life แนวคิดง่ายๆที่นำไปใช้ได้จริงผ่านมุมมองของผมครับ
คือมันอย่างนี้ครับ...
ก่อนอื่นขอแนะนำที่มาก่อนนะครับ เนื้อหาหลักของวันนี้ ผมเอามาจากการอ่านหนังสือ Designing Your Life ของคุณ Bill Burnett และ Dave Evans ทั้งสองท่านเป็นอาจารย์สองท่านที่ Stanford ซึ่งเนื้อหาในหนังสือมีรายละเอียดที่น่าสนใจเยอะมากครับ แต่วันนี้ผมคง focus แค่สองประเด็น คือ 'ปัญหาแรง​โน้มถ่วง​ ⛰️ และ ปัญหาสมอเรือ ⚓ '​ เอ๊ะ มันคืออะไร และสำคัญยังไง ตามมาครับ
1
อย่างที่เกริ่นนำไปครับที่ผมจะเน้นที่สองเรื่องนี้เพราะสองปัญหานี้กระทบตัวเราในระดับความเชื่อเลยทีเดียว เริ่มที่นิยามก่อน
ปัญหาแรง​โน้มถ่วง​ (Gravity Problem) คือปัญหาอะไรก็ตาม​ที่มันเหมือนแรงโน้มถ่วงนั่นแหละครับ คือเราห้ามหรือต้านแรงโน้มถ่วง​ไม่ได้ฉันใดบางปัญหาในโลกของเราก็เป็นฉันนั้นครับ ในหนังสือยกตัวอย่างว่าเหมือนกับการที่เรารู้สึกเหนื่อยเพราะปั่นจักรยาน 🚲 ขึ้นภูเขา เราพบว่าเราเหนื่อยเพราะแรงโน้มถ่วง​ดังนั้นปัญหาจึงอยู่ที่แรงโน้มถ่วง​หรือ? หรือจะยกตัวอย่างให้ใกล้ตัวหน่อย เช่น ต้นทุนของกิจการเพิ่มจากค่าแรงขั้นต่ำเพิ่ม ดังนั้นต้นทุนเพิ่มเพราะค่าแรงขั้นต่ำเพิ่ม? ยกตัวอย่างให้ใกล้ตัวกว่านั้น เราอารมณ์​เสียเมื่อรู้ว่ามีคนนินทาเรา ดังนั่นสาเหตุเพราะคนนินทา?
สาเหตุที่ยกมานี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาของโลกทั้วสิ้นครับ แทบจะเป็นสัจจะนิรันดร์​ทั้งนั้น (คำแก่มาก🧓)​ จริงๆเราห้ามให้เกิดเรื่องเหล่านี้ไม่ได้หรือยากมากที่จะห้าม สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับที่จะอยู่กับมันอย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุด ด้วยการปรั​บมุมมองครับ
แก้แรงโน้มถ่วง​ไม่ได้ก็แก้ที่ความฟิต💪ของเราเองจักรยาน🚲ที่ดีขึ้น แก้ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ก็ปรับปรุงประสิทธิภาพ​หรือลดต้นทุนตัวอื่น แก้ให้คนเลิกนินทาไม่ได้🤫 (จริงๆก็พอแก้ได้นะ)​ ก็ปรับทัศนคติตนเองรู้เท่าทันตัวเองก่อนโมโห ก็เหมือนห้ามฝนตกไม่ได้ก็ต้องกางร่มนั่นแหละครับ แยกแยะปัญหาและจัดการในสิ่งที่ควบคุมได้
อีกเรื่องก็ ปัญหาสมอเรือ ⚓ (Anchor Problem) ข้อนี้เหมือนจะคล้ายแต่ไม่คล้ายกับปัญหาแรง​โน้มถ่วง​ ปัญหาสมอเรือ คือปัญหาที่ยึดตัวเราไว้ เป็นเรื่องที่เราติดกับมันเป็นเวลานานๆ แต่ไม่ใช่ว่าแก้ไม่ได้ แต่ดันไปยึดติดกับทางแก้หรือ​วิธีการที่ไม่ถูก เช่น เราอยากขยายกิจการก็คิดว่าต้องเปิดสาขาเพิ่มแต่ก็หาที่ไม่ได้ซักทีหรือเงินไม่พอบ้าง เราเอาเรื่องมาพันกัน สุดท้ายปัญหาของเรากลายเป็นหาที่ไม่ได้ ไม่ใช่ขยายกิจการไม่ได้ เพราะถ้าเราเปลี่ยนวิธีคิดไม่ยึดติดเราก็อาจขยายกิจการทาง online ก็ได้ ตัวอย่างที่ Classic ที่สุดของของการเปลี่ยนมุมมองแก้ปัญหาก็เรื่องเล่าของ 'ปากกาอวกาศ 🖋 ของนาซ่ากับดินสอจากรัสเซีย' (จริงๆเรื่องนี้มีเบื้องลึกที่น่าทึ่งมากนะครับ ผมค้นคว้าและทราบว่าปากกาในเรื่องเล่ามีการทำจริงๆ เพราะนาซ่าคิดแล้วว่า ดินสอใช้ได้ในอวกาศแต่ถ้าหัก ใส้ดินสอในภาวะไร้น้ำหนักจะเป็นอเนตรายกับอุปกรณ์ในกระสวยอวกาศ)
เมื่อเราเปลี่ยนมุมมอง โจทย์ก็เปลี่ยน วิธีการก็เปลี่ยน หลายครั้งคนเราก็ยึดติด​กับวิธีที่คุ้นเคยทั้งๆที่รู้ว่ามันจะล้มเหลว เราเลือกสบายใจแต่พังในอนาคตมากกว่าที่จะเลือกเสี่ยงกับวิธีการใหม่ๆ ซึ่งน่าเสียดายมากเลยนะครับ
ทั้งสองปัญหาที่ยกมาเป็นตัวอย่าง แก้ได้จากภายในด้วยการเปลี่ยนมุมมองให้ flexible และมี self awareness​ มากๆ (ปรับ R ไม่ใช่ว่าจะโทษแต่ E สามารถทบทวนเรืาอง E+R=O ได้ใน LVD ตอนที่2 ครับ)​ ที่เล่ามาเป็นแค่แนวคิดเล็กๆจากหนังสือเล่มนี้นะครับ เนื้อหาจริงมีมากกว่านี้มากๆ ผมเองก็กำลังพิจารณาว่าอาจจะกลับมาพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้อีกทีดีใหม เหมือนเดิมครับใครมีความเห็นอย่างไรก็แชร์กันได้ครับ 😊
Happy Learning
ขอบคุณ​ครับ
ชัช​ฤทธิ์
โฆษณา