Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
15 ก.ค. 2019 เวลา 12:45 • กีฬา
ปีเตอร์ เคราช์ กองหน้าร่างโย่งที่ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว กับช่วงเวลาที่เขาลำบากใจที่สุดในอาชีพ 19 นัด ยิงไม่ได้สักลูกเดียว นี่คือเรื่องราวในปีแรกที่เขาย้ายมาลิเวอร์พูล
ในฤดูกาล 2004-05 เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องตกชั้นอย่างน่าเศร้า
ครึ่งซีซั่นแรก ผู้จัดการทีมคือสตีฟ วิกลี่ย์ ซึ่งพาทีมลงเหว มีผลงานย่ำแย่จมอันดับ 20 ของตาราง พอเข้าเดือนธันวาคม สโมสรรีบปลดวิกลี่ย์ แล้วแต่งตั้ง แฮร์รี่ เรดแน็ปป์แทน
ซึ่งเรดแน็ปป์ก็ทำให้ทีมดีขึ้น แต่เขามาสายเกินไป สุดท้าย ทีมนักบุญไม่รอด ตกชั้นอยู่ดี
ซีซั่นนี้ สำหรับเซาธ์แฮมป์ตัน ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย ยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือการแจ้งเกิดของหัวหอก เจ้าของส่วนสูง 201 ซ.ม. ที่ชื่อ ปีเตอร์ เคราช์
แรกๆ เซาธ์ใช้กองหน้าตัวจริงคือ เควิน ฟิลลิปส์ กับ เจมส์ บีตตี้ แต่พอมาเรดแน็ปป์มาคุมทีม เขาส่งเคราช์ลงเป็นตัวจริงตลอด และเคราช์ก็ยิงได้ถึง 12 ลูก เป็นดาวซัลโวของสโมสรในซีซั่นนั้น
เรื่องลูกโหม่งไม่มีใครเอาเขาอยู่ ส่วนสูงขนาดนั้น ทำให้เขาสามารถแย่งลูกกลางอากาศได้แทบทุกครั้ง ขณะที่ทักษะบนพื้นก็พอใช้ได้ เคราช์ยิงประตูสวยๆด้วยเท้าหลายต่อหลายครั้ง
เกมที่เคราช์เล่นได้ดีที่สุด คือการเปิดบ้านอัดลิเวอร์พูล 2-0 ในวันที่ 22 มกราคม 2005
นัดนั้น กองหลังหงส์แดงรับมือกับเคราช์ไม่ได้เลย นาทีที่ 22 เคราช์วิ่งฉีกตัวประกบหนีเจมี่ คาร์ราเกอร์ แล้วโหม่งแบบไม่ต้องกระโดด ตุงตาข่ายอย่างง่ายดายสุดๆ
"ถ้าไม่นับเธียร์รี่ อองรีแล้ว เคราช์คือผู้เล่นที่ประกบยากสุดๆ" คาร์ราเกอร์ให้สัมภาษณ์หลังเกม "ผมเหมือนกับเจอฝันร้าย เขาวิ่งตัดหลังผม และยิงประตูได้ บอกได้เลยว่าเขาเป็นคนเดียวที่จะช่วยเซาธ์แฮมป์ตันให้รอดจากการตกชั้นได้"
จากฟอร์มในวันนั้น ไปเข้าตา ราฟาเอล เบนิเตซเช่นกัน ราฟาทดเคราช์ไว้ในใจแล้ว ถ้าทีมนักบุญตกชั้นเมื่อไหร่ หงส์แดงยื่นข้อเสนอซื้อตัวไปแน่นอน
มูลค่าหุ้นในตัวเคราช์สูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับต้นสังกัดเซาธ์แฮมป์ตันที่ตกชั้น
เคราช์ติดทีมชาติอังกฤษนัดแรกในเกมอุ่นเครื่องกับโคลอมเบีย และเล่นได้เยี่ยมมากๆ เจ้าตัวเข้าขากับไมเคิล โอเว่นเป็นอย่างดี กลายเป็นดูโอเล็ก-ใหญ่ ของทีมสิงโตคำราม
นั่นทำให้มีหลายสโมสร สนใจอยากได้ตัวเคราช์ไปร่วมงานด้วย โดยทีมที่จริงจังมากที่สุดคือลิเวอร์พูล
เคราช์นั้นใจนึงก็อยากช่วยเซาธ์แฮมป์ตันในแชมเปี้ยนชิพ แต่อีกใจหนึ่ง การได้โอกาสไปเล่นทีมใหญ่ ที่เพิ่งได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมา มันเป็นโอกาสที่ปฏิเสธยากจริงๆ
แน่นอน เรื่องค่าเหนื่อยก็เป็นปัจจัยสำคัญมาก เพราะก่อนหน้าจะตกชั้น เคราช์รับอยู่ที่ 8,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าทีมตกชั้น รายได้ของเขาจะลดลงครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเคราช์จึงรับรายได้เหลือแค่วีกละ 4,000 ปอนด์
ขณะที่หงส์แดง พร้อมจ่ายเพียวๆ 30,000 ปอนด์ต่อวีก ซึ่งรายได้ที่ต่างกันเกือบ 8 เท่า ทำให้เคราช์ แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า เขาอยากย้ายทีมจริงๆ
สุดท้ายเซาธ์แฮมป์ตัน ก็ต้านไม่อยู่ ลิเวอร์พูลจ่ายเงิน 7 ล้านปอนด์ คว้าตัวไปร่วมทัพได้สำเร็จ
"ผมตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ และมีเกียรติประวัติอย่างลิเวอร์พูล" เคราช์แถลงในวันที่การซื้อขายบรรลุเรียบร้อยแล้ว
1
"ผมตั้งใจจะช่วยให้ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นไปอีก"
"ผมดีใจที่เราเซ็นสัญญากับปีเตอร์ เคราช์" เบนิเตซ ให้สัมภาษณ์ "เขามีความสามารถรอบด้าน และจะทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นในแดนหน้า"
"เรามีปัญหาในการประกบเขาเมื่อซีซั่นก่อน นั่นคือครั้งแรกที่ผมเห็นเขา และพอมาย้อนดูวีดีโอเทปเพิ่มเติมก็มั่นใจ ปีเตอร์คือผู้เล่นที่ดี"
อย่างไรก็ตาม การซื้อครั้งนี้ของราฟา โดนต่อต้านไม่น้อยจากแฟนบอลหงส์แดง
โอเคล่ะว่าเคราช์เป็นกองหน้าอังกฤษ แต่ในอดีตที่ผ่านมา หัวหอกระดับตำนานของหงส์แดงแต่ละคน ไม่เคยมีประเภทสูงโย่งเน้นลูกโหม่งเข้าว่า
เควิน คีแกน, เคนนี่ ดัลกลิช ,โรเจอร์ ฮันท์, เอียน รัช, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ รวมไปถึงไมเคิล โอเว่น ชื่อทั้งหมดนี้ เป็นตัวจบสกอร์ที่เฉียบขาด แต่พวกเขามีส่วนสูงไม่เกิน 180 เซ็นติเมตร
กองหน้าตัวใหญ่ที่พอจะประสบความสำเร็จหน่อยกับลิเวอร์พูล คือจอห์น โตแช็ก ที่สูง 185 ซม. แต่ 201 เนี่ยะนะ? มันจะไหวหรอ
แน่นอน การซื้อเคราช์ทำให้เดอะ ค็อปตั้งคำถามว่า เคราช์จะเล่นได้กับระบบหงส์แดงได้หรือเปล่า มันจะไม่ทำให้สปีดบอลของทีมช้าลงใช่ไหม
ลิเวอร์พูล แม้จะได้แชมป์ยุโรป แต่ด้วยความที่จบอันดับ 5 ในซีซั่น 2004-05 ทำให้พวกเขาต้องไปเริ่มต้นแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก มาตั้งแต่รอบคัดเลือก โดยพบกับทีม TNS จากเวลส์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2005 ก่อนลีกจะเปิดเกือบ 1 เดือน
แม้เคราช์จะเพิ่งย้ายมา แต่ราฟานั้นไว้ใจ ส่งให้เป็นตัวจริงทันที เคราช์ลงเล่นไป 74 นาที ผลงานโดยรวมถือว่าพอใช้ได้ แต่ไม่มีประตู
จากนั้นใน ชปล. รอบคัดเลือก รอบ 2 ลิเวอร์พูล เจอกับเคานาสจากลิทัวเนีย ซึ่งราฟาก็ส่งเคราช์ลงตัวจริงอีก คราวนี้ได้เล่น 55 นาที ซึ่งก็เหมือนเดิม คือเคราช์โอกาสเพียบ แต่ทำประตูไม่ได้
ดังนั้นใน ชปล. รอบคัดเลือก รอบ 3 ที่หงส์เจอกับเลฟสกี้ โซเฟียจากบัลแกเรีย ราฟาจึงเปลี่ยนคู่กองหน้า มาใช้ฌิบริล ซิสเซ่ กับ เฟร์นันโด มอริเอนเตสบ้าง ปรากฏว่า ทั้ง 2 คนยิงได้คนละเม็ด พาหงส์ชนะ 3-1
ถึงตรงนี้เคราช์แบกรับแรงกดดันมากขึ้น ที่ลิเวอร์พูลเขาไม่ได้เป็นตัวจริงง่ายๆแน่ เพราะในทีมมีแต่นักเตะระดับชั้นนำของยุโรป
พรีเมียร์ลีก เปิดซีซั่น ลิเวอร์พูลเจอโบโร่ ตามด้วยซันเดอร์แลนด์ จากนั้น ลงเล่นในชปล.เลก 2 กับเลฟสกี้ โซเฟีย และเกมยูฟ่า ซูเปอร์คัพ กับซีเอสเคเอ มอสโก โดยทั้ง 4 นัด เคราช์ไม่ได้ลง แม้แต่นาทีเดียว
สิ่งที่เห็นๆคือเคราช์ ไม่มีความมั่นใจเลย อาจเพราะต้องกระโดดจากทีมหนีตาย มาเล่นทีมลุ้นแชมป์ นั่นทำให้เขาเล่นด้วยความกดดันจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
มาถึงเกมนัดที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ราฟา ตัดสินใจส่งเคราช์ลงเล่นในลีกเป็นเกมแรก ในนัดเจอสเปอร์ส ที่ไวท์ฮาร์ทเลน ซึ่งอย่าว่าแต่ยิงเข้าเลย ยิงตรงกรอบสักหนเขายังทำไม่ได้
หลังจบเกมสเปอร์ส ด้วยความที่ซิสเซ่ มีอาการบาดเจ็บ นั่นทำให้เคราช์ได้โอกาสเป็นตัวจริง โดยยืนคู่กับเฟร์นันโด มอริเอนเตส
ลิเวอร์พูลในสนาม ฟอร์มเริ่มดีขึ้น และไต่อันดับไปถึงท็อปโฟร์ได้ แต่ผลงานส่วนตัวเคราช์เข้าขั้นเลวร้าย 14 เกมที่เขาลงเล่นทุกรายการ (ตัวจริง 11 สำรอง 3) เขายังยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว
คนในวงการฟุตบอล ออกมาให้กำลังใจเคราช์อย่างมากมาย สเวน โกรัน-เอริคส์สัน, เวย์น รูนี่ย์ ,เคนนี่ ดัลกลิช ทุกคนเชื่อว่าเคราช์ จะกลับมายิงได้ ในเร็วๆนี้
"ผมสนุกในการเล่นร่วมกับปีเตอร์นะ" มอริเอนเตสเล่า "เขาตัวสูง แข็งแรง และอันตรายมาก เขาสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้ตลอด"
จริงๆแล้ว เคราช์ก็มีแอสซิสต์ มีจังหวะพักบอลสวยๆเรื่อยๆ แต่แน่นอน ในเมื่อคุณเป็นกองหน้า คุณก็ต้องทำประตู แล้วนี่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว เขายังยิงไม่ได้สักเม็ดเลย
1
จุดที่น่าสนใจคือบรรยากาศของแฟนลิเวอร์พูล จากตอนแรกที่ตั้งคำถามในการซื้อตัวปีเตอร์ เคราช์
แต่พอเคราช์ย้ายมาแล้ว และเล่นไม่ดีอย่างที่คาดกันไว้ แทนที่แฟนหงส์แดงในอังกฤษ จะบอกว่า "กูว่าแล้ว" แต่ทว่า เหล่าเดอะ ค็อป กลับไม่มีการโห่ใส่ พวกเขาหันมาให้กำลังใจแทน
"แฟนๆลิเวอร์พูลดีกับผมมาก" เคราช์ยอมรับ "พวกเขาส่งเสียงดัง ร้องเพลงชื่อผม ผมก็ได้แต่หวังว่า จะยิงประตูแรกให้พวกเขาได้ในเกมต่อไป"
นัดที่ 16 ของเคราช์กับลิเวอร์พูล คือการเปิดบ้าน พบปอร์ทสมัธ ที่แอนฟิลด์
นาทีที่ 22 ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่โบโล่ เซนเด้น โดนทำฟาวล์ คราวนี้ เคราช์แบกหน้าไปขอสตีเว่น เจอร์ราร์ด ให้ยกจุดโทษให้เขายิง เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาเสียที
เจอร์ราร์ดโอเค ยกให้เคราช์ยิง ทุกคนในแอนฟิลด์ส่งเสียงร้องชื่อเขาระงม เคราช์สปีดตัววิ่งไปที่ลูกแล้วซัดบอลด้วยขวา
นายทวารเจมี่ แอชดาวน์ เซฟได้
แม้บอลจะเด้งมาเข้าทางเซนเด้นซ้ำโล่งๆ ให้หงส์นำ 1-0 แต่ความมั่นใจของเคราช์ยิ่งแตกสลายลงมากกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น ในเกมนี้ทั้งซิสเซ่ และมอริเอนเตส ยิงได้คนละลูก
ลิเวอร์พูลชนะ 3-0 โดยไม่มีชื่อของเคราช์อีกเช่นเคย
สำหรับเบนิเตซ ก็น่าแปลกที่แม้เคราช์ยิงไม่ได้แบบนี้ ก็ยังส่งเคราช์เป็นตัวจริงต่อไปเรื่อยๆ เขาไม่ฟังเสียงวิจารณ์ใดๆจากสื่อมวลชน
เคราช์ลงเล่นในเกมที่ 17 หงส์ชนะแมนฯซิตี้ 1-0 เขาก็ยังไม่ยิง
เกมที่ 18 หงส์ชนะซันเดอร์แลนด์ 2-0 เขาก็ยังไม่ยิง
สำนักพนันออกราคามาเย้ยหยันขำๆ ว่าทั้งฤดูกาลเคราช์อาจเป็นกองหน้าลิเวอร์พูลคนแรกที่ยิงประตูไม่ได้เลยสักลูก ซึ่งก็มีคนไปแทงพนันเอาฮากันเยอะเลยทีเดียว
"ผมคิดว่าเขาทำทุกอย่างได้ดีแล้ว และเมื่อเขายิงลูกแรกได้เมื่อไหร่ ลูกต่อไปจะตามมาแน่นอน" ราฟา เบนิเตซ ยังคงใส่ความเชื่อใจให้เคราช์ต่อไปอีก
เกมนัดที่ 19 ของเคราช์มาถึง ลิเวอร์พูลเปิดบ้านพบวีแกน แอธเลติก
เสียงเชียร์จากแอนฟิลด์ ส่งกำลังใจมาให้เคราช์อย่างกระหึ่ม เกมนี้ล่ะ เขาต้องยิงให้ได้
เริ่มมาได้ 19 นาที บอลจากแดนหลังโยนยาวมาถึงเคราช์ที่กลางสนาม
มอริเอนเตสวิ่งฉีกไปทางขวา หลุยส์ การ์เซียฉีกไปด้านซ้าย ส่วนเจอร์ราร์ดทะลุขึ้นมาจากตรงกลาง ตอนนี้ เคราช์มี 3 ออปชั่นให้เลือกส่ง
กองหลังวีแกน ไปประกบ 3 ตัวนี้กันหมด เพราะเคราช์ไม่มีความอันตรายนอกเขตโทษ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เคราช์ทำ คือกระชากบอลขึ้นมาคนเดียว กินระยะไป 30 หลา ถึงตรงนี้ก็ยังไม่มีใครประกบอีก คือจะไปกลัวอะไรล่ะ คนสูง 201 ซม. จะทำอะไรได้นอกเขตโทษ
ปรากฏว่าเคราช์ตะบันไกลนอกเขตโทษทันที ไม่ส่งให้ใครทั้งนั้น บอลลอยโด่งไปกลางอากาศ ก่อนที่ไมค์ พอลลิตต์ นายทวารวีแกน จะปัดเข้าประตูตัวเองไป
แฟนบอลในสนามเฮอย่างบ้าคลั่ง เคราช์ยิงประตูแรกได้แล้ว! ตัวเคราช์วิ่งอย่างไร้สติไป 70 กว่าหลา เขามีความสุขมากจริงๆ
ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 อย่างไรก็ตาม ที่กราฟฟิกบนหน้าจอทีวีขึ้นมาว่า ลูกนี้เป็น การทำเข้าประตูตัวเองของไมค์ พอลลิตต์!
เคราช์ดีใจเก้อ เขาช่วยให้หงส์นำ 1-0 แต่ยังไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด
อย่างไรก็ตาม หลังจากซัดลูกนั้นได้ ความมั่นใจของเขาก็กลับมาแล้ว อย่างน้อยที่สุด ลูกที่เขายิง มันก็ทำให้ทีมได้ประตูละกัน
จากนั้นนาทีที่ 42 คราวนี้ เคราช์ได้โอกาสอีกครั้ง เขาหลุดไปด้านขวา แล้วชิพข้ามตัวนายทวารพอลลิต์ไปอย่างเหนือชั้น และประตูนี้ไม่มีคำถามอีกต่อไป ชื่อของเขาปรากฏบนสกอร์บอร์ดได้สำเร็จ
หลังจากรอคอยมา 19 เกม ในที่สุดเขาก็ยิงประตูแรกให้ลิเวอร์พูลได้เสียที
หลังจากที่เคราช์ยิงได้ เขาบอกว่า "ผมขอมอบประตูที่ทำได้ให้แฟนๆ ลิเวอร์พูล ผมไม่รู้จะกล่าวยกย่องพวกเขาอย่างไรดี เพราะพวกเขาดีกับผมเหลือเกิน"
"แฟนบอลทีมอื่นๆ อาจไม่อดทนมากขนาดนี้ ทุกอย่างมันง่ายขึ้นจริงๆ ถ้าคุณได้อยู่แวดล้อม กับคนที่เชื่อมั่นในตัวคุณเสมอ"
เกร็ดที่น่าสนใจคือ สำหรับประตูที่ไมค์ พอลลิตต์ปัดเข้า ราฟา ไปประท้วงอย่างเต็มที่ ว่ามันควรเป็นประตูของเคราช์สิ เพราะอย่างน้อยลูกยิงของเขาก็ตรงกรอบ และพรีเมียร์ลีกสุดท้ายก็ยกเครดิตให้จริงๆ
เท่ากับว่าเคราช์ปิดฉาก 19 นัดยิงใครไม่ได้ ด้วยการซัลโว 2 เม็ดในเกมเดียว
พอยิงลูกแรกได้แล้ว เคราช์ก็ซัดได้ต่อเนื่อง และกลายเป็นหัวหอกตัวหลักในที่สุด
1
เขาลงไป 49 นัดทุกรายการ ซัลโวได้ 13 ลูก พาลิเวอร์พูลจบอันดับ 3 ในลีก และได้เข้าชิงเอฟเอคัพ กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ในนัดชิงเอฟเอคัพ เคราช์ลงตัวจริง ได้ลง 71 นาที และแอสซิสต์ ให้สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิง 1 เม็ดอีกด้วย ก่อนช่วยให้ทีมเป็นแชมป์ในบั้นปลาย
เคราช์ได้แชมป์ทันที ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาลิเวอร์พูล และเป็นแชมป์รายการเดียวที่เขาทำได้ตลอดชีวิตการเล่นอีกด้วย
หลังจากย้ายจากหงส์แดงไป เคราช์ก็ย้ายไปเล่นกับอีกหลายสโมสร ทั้งปอร์ทสมัธ , สเปอร์ส, สโต๊ค และปิดท้ายด้วยเบิร์นลีย์ ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในวัย 38 ปี
แต่สำหรับในช่วงสั้นๆ 3 ปีที่อยู่กับลิเวอร์พูล เป็นช่วงที่ชีวิตเขาทั้งพีกสุดและต่ำสุด
รูปร่างสูงโย่ง โหม่งเก่ง แถมชอบยิงลูกกลางอากาศได้แบบเว่อร์ๆ
ไม่ต้องแปลกใจ แม้เขาจะแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่แฟนๆก็ยังคงจะนึกถึงปีเตอร์ เคราช์ต่อไปอีกนานเลยทีเดียว
#CROUCH
7 บันทึก
218
8
7
7
218
8
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย