18 ก.ค. 2019 เวลา 13:42 • ประวัติศาสตร์
จิตวิทยาขั้นสูงในการอำพรางตัวในที่ ที่อันตรายที่สุด เพื่อหลบหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ได้นานถึง 12 ปี ....EP.1
เขาคนนี้คืออาชญากรสงครามผู้มีฉายานามนักฆ่าแห่งบอสเนีย “ราโดวาน คาราดิซ”
2
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร....?
“ราโดวาน คาราดิซ” สมัยครองอำนาจสูงสุด กับตำแหน่งประธานาธิบดีเซอร์เบีย
ย้อนไปในปี 1992 นักการเมืองสายเลือดบอสเนียผู้มีหัวคิดหลักแหลมนามว่า ราโดวาน คาราดิซ (Radovan Karadžić) ขึ้นครองอำนาจเป็นประธานาธิบดีสาธารณะรัฐเซอร์เบีย
เป้าหมายหลักของคาราดิซหลังการขึ้นครองอำนาจ คือ การขับไล่ชาวมุสลิมทั้งหมดออกไปให้สิ้นซาก ทั้งการใช้กำลังในการขับไล่ หรือ แม้แต่การสังหารโดยไร้ความปรานี
2
คาราดิซ มีลักษณะที่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำลัทธิหัวรุนแรง เขาสามารถโน้มน้าวชักจูงทำให้คนส่วนใหญ่หลงเชื่อ และทำสิ่งที่โหดร้ายได้
เซอร์เบียในปี 1995 ภายใต้การนำของคาราดิซผู้บ้าคลั่ง ส่งผลให้มีชาวมุสลิมถูกจับ และโดนสังหารหมู่อย่างเวทนามากกว่า 8,000 คน
เขาใช้อำนาจ และเส้นสายอันไม่ชอบธรรมในการปิดกั้นไม่ให้เหยื่อสงครามได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานกลางต่างๆจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้
ความเหี้ยมโหด และจำนวนเหยื่อที่โดนสังหารทำให้เขาได้ฉายา “นักฆ่าแห่งบอสเนีย” ซึ่งไม่มีใครสามารถหยุดความบ้าคลั่งของเขาได้ในขณะนั้น
ภายใต้การนำของคาราดิซ ในช่วงปี 1992-1995 เป็นช่วงเวลา 3 ปี ที่ทำให้มีเหยื่อได้รับผลกระทบจากสงครามราว 100,000 คน (ในจำนวนนี้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 8,000 คน)
ชาวมุสลิมที่โดนสังหารในสงครามบอสเนีย
เหตุการณ์สังหารหมู่ชาวมุสลิมของคาราดิซ เป็นการกระทำที่เลือดเย็นเกินกว่าความเป็นมนุษย์ มันเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
1
ในช่วงปลายปี 1995 หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ ได้มีการเจรจาสันติภาพขึ้น ทำให้ความรุนแรงของสงครามบอสเนียสงบ และยุติลง
ในระหว่างนั้นศาลอาญาระหว่างประเทศ ตัดสินให้ ราโดวาน คาราดิซ มีความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธ์ นั่นทำให้เขากลายเป็นอาชญากรสงครามที่จะโดนนานาประเทศหมายหัวตามล่าตัวในทันที
1
แต่ก่อนที่คาราดิซจะถูกจับ เขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงทำให้เกิดการไล่ล่าตัวเขาทั่วทุกมุมโลก ปฏิบัติการไล่ล่าคาราดิซ ได้กลายเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตมากในขณะนั้น
ในภารกิจไล่ล่า คาราดิซ มีหน่วยพิเศษจากหลากหลายชาติถึง 6 ทีม ที่เข้ามาร่วมในการตามล่าตัวเขา นอกจากนี้ยังมีองค์กรอีกหลายแห่งทั่วโลกที่ตามเข้ามาสมทบในภารกิจครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีการใช้สายลับหลายคน รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีโดรนสอดแนมมาช่วยในการค้นหา ซึ่งในยุคนั้น (ปี 1996) ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมากๆ
แม้จะโดนตามล่าอย่างหนัก แต่กระนั้นนักฆ่าแห่งบอสเนีย ก็มีแผนการที่คาดไม่ถึงเตรียมเอาไว้ เพื่อใช้สำหรับรับมือ และอำพรางตัวเขาจากการโดนไล่ล่า
ปี 1996 หลังเหตุการณ์ความรุนแรงในสงครามบอสเนียสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ ก็ยังไร้วี่แววที่เจ้าหน้าที่จะได้ตัวเขามาลงโทษ คาราดิซ มีสติปัญญา และไหวพริบที่ฉลาดหลักแหลม เขาหนีรอดได้ทุกครั้งในยามจวนตัว
เมื่อคาราดิซสามารถตั้งหลักได้ เขาเริ่มใช้แผนในการหลบซ่อนอำพรางตัว ซึ่งเขาได้วางแผนเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะโดนออกหมายจับเสียด้วยซ้ำ
แผนที่ว่านี้คือการอำพรางตัวในที่ ที่อันตรายที่สุด ด้วยการดำเนินชีวิตอยู่ในที่โล่งแจ้ง โดยใช้ชีวิตประจำวันให้ปะปนกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตของชาวเมืองอย่างเป็นธรรมชาติ
มันเป็นแผนการที่หลายๆคนคาดไม่ถึง ว่าเขาจะกล้าใช้วิธีนี้ ถ้าหากเป็นอาชญากรคนอื่นๆคงไม่กล้าเลือกใช้แผนนี้แน่ๆเพราะมันเสี่ยงเกินไปที่จะโดนจับสังเกตได้ถ้าไม่อัจฉริยะพอ
คาราดิซ สามารถตบตาเจ้าหน้าที่ให้หลงกลเขาแบบหัวปักหัวปำ เจ้าหน้าที่คิดว่าเขาหนีข้ามประเทศ หรือ หนีออกนอกแผ่นดินยุโรปไปแล้วเสียด้วยซ้ำ แต่จริงๆมันคือเส้นผมบังภูเขาเขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในสาธารณรัฐเซอร์เบียเช่นเดิม
คาราดิซไม่ได้ตื่นตระหนกกับการโดนไล่ล่า แต่ในทางตรงกันข้ามเขากลับนิ่ง และสุขุมเยือกเย็นสุดๆในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดันหลากหลายรูปแบบ
อดีตนักนักศึกษาจิตแพทย์ผู้นี้รู้ดีว่า เขาจะจัดการกับพฤติกรรมตัวเอง และอำพรางตัวหลบหนีได้อย่างไร จึงจะไม่ตกเป็นเป้าสังเกตจากเจ้าหน้าที่
ปี 1996 ก่อนคริสมาสต์ คาราดิซ ได้หนีกลับไปกบดานอยู่ที่เบลเกรด (เบลเกรด เป็นเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเซอร์เบียในปัจจุบัน) เมืองนี้เป็นเมืองที่เขาคุ้นเคย และรู้จักเป็นอย่างดีในสมัยที่เขาเป็นผู้นำเซอร์เบีย
1
เขาเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่พลุกพล่านที่สุดของสาธารณะรัฐเซอร์เบีย และนำพาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางดงเจ้าหน้าที่ ซึ่งเปรียบเสมือนการเข้าถ้ำเสือ
แทนที่เขาจะหนีจากอันตรายตามสัญชาตญาณของมนุษย์เมื่อเกิดความกลัว แต่เขากลับเลือกที่จะเข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับความอันตรายแทน
คาราดิซ เริ่มอำพรางตัวด้วยการเปลี่ยนรูปลักษณ์ โดยไว้เคราหนา ปล่อยให้ผมหงอกเป็นสีขาวโพลน เขาปล่อยให้ผมยาวแล้วมัดจุกไว้อยู่บนหัว และมักจะใส่เสื้อผ้าสบายๆในโทนสีดำ พร้อมบุคลิกที่เปลี่ยนไปเป็นคนที่สุขุม เรียบนิ่ง และดูเป็นคนแก่ที่อบอุ่น
นอกจากนี้เขายังได้ปลอมแปลงเอกสารระบุตัวตนบางอย่างขึ้นมา เพื่อเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่นามว่า ด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ (Dragan Dabic)
จากการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ และบุคลิกทำให้เขาดูเป็นคนที่ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร เปรียบเสมือนลุงซานตาครอสใจดีของเด็กๆซึ่งไม่มีใครสงสัยอะไรในตัวเขาเลยแม้แต่น้อย
การเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกอาชญากรหลายๆคนก็ทำได้ไม่ยาก แต่การเปลี่ยนบุคลิกจากแบบหนึ่งไปเป็นอีกแบบหนึ่งอย่างเป็นธรรมชาติ มีเพียงคนที่เข้าใจหลักจิตวิทยาเท่านั้นที่พอจะทำได้
1
อดีตนักศึกษาจิตแพทย์ ที่หลงใหลในด้านจิตวิทยาอย่างคาราดิซก็รู้ความลับนี้ดี เขาใช้มันเป็นไม้เด็ดเพื่อเป็นเกราะป้องกันเขาจากเจ้าหน้าที่ และมันก็ได้ผลตามที่เขาตั้งใจ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 1999 ก็ยังไม่มีใครที่สามารถตามจับคาราดิซได้ เขาแฝงตัวปะปนอยู่กับผู้คนในเมืองทุกๆวัน ชาวเมืองที่เขาสนทนาด้วยจะรู้จักเขาในชื่อ ด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ เท่านั้น
เขาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการไปจ่ายตลาด เดินทางไปยังที่ต่างๆด้วยระบบขนส่งสาธารณะ หรือ แม้แต่การไปที่บาร์เพื่อนั่งจิบเครื่องดื่ม และฟังดนตรีชิลๆอย่างสบายอารมณ์
1
คาราดิซลดบุคลิกความเกรงขามลงจนไม่เหลือเค้าเดิม นอกจากนี้เขายังหันมาทำอาชีพเป็นนักบำบัดด้านจิตใจ
เขามีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยามนุษย์อย่างทะลุปรุโปร่ง เขาชอบแนะนำ และรักษาผู้คนด้วยจิตวิทยาบำบัด พร้อมๆกับการเป็นนักเขียนไปด้วยในเวลาเดียวกัน
คาราดิซ เปลี่ยนรูปลักษณ์ และบุคลิกตัวเอง โดยใช้ชื่อใหม่ว่า ด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ
ตอนที่ยังหนุ่มคาราดิซเคยเรียน และหลงใหลในศาสตร์ด้านจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์ เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับความบกพร่องของนิสัยมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่รู้ศิลปะของการจัดการพฤติกรรมเป็นอย่างดี
จากความอัจฉริยะของคาราดิซดังที่กล่าวมา จึงไม่แปลกใจที่เขาจะสามารถเอาตัวรอดจากการตามล่าได้ เขาหลอกเจ้าหน้าที่ เขาหลอกคนทั่งเมืองได้โดยที่ไม่มีใครเฉลียวใจเลย แผนการของเขาดำเนินไปเงียบๆอย่างราบรื่น
จากปีศาจร้าย ราโดวาน คาราดิซ สลายกลายร่างเป็นด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ ชายแก่ผู้ดูอบอุ่น ที่กลายมาเป็นคนดังในสังคมยุคใหม่ของเมืองเบลเกรด เขาเริ่มมีบทบาทในสังคมมากขึ้น และเขาก็เรียกตัวเองว่าเป็นนักท่องจิตวิญญาณ
ในตอนต่อไป ...เราจะมาดูการดำเนินชีวิตของคาราดิซ ที่เริ่มใช้เทคนิคการอำพรางบุคลิกที่ซับซ้อนขึ้น ตลอดจนความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย จนนำไปสู่การโดนจับกุมได้ในที่สุด...อย่าพลาดติดตามกันนะครับ
อ้างอิงโดย :
เรียบเรียงโดย : Inspire Story
ถ้าหากเรื่องราวนี้ ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจ หรือ สร้างความน่าสนใจให้กับท่านผู้อ่าน สามารถกดแชร์ และติดตาม Inspire Story เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ
โฆษณา