19 ก.ค. 2019 เวลา 14:30 • บันเทิง
ฟังไปแล้ว - MADAME X เมื่อเจ๊แม่กลายร่างเป็นมาดามเอ็กซ์ ในงานชุดใหม่หมายเลข 14 ของมาดอนนา
​เปิดตัวอัลบัมใหม่ งานชุดที่ 14 ของตัวเอง ตั้งแต่งานเม็ท กาลา ที่นิว ยอร์ค เมื่อพฤษภาฯ 2018 ด้วยเพลง “Beautiful Game” (ที่กลายเป็น "Dark Ballet” เมื่ออัลบัมปล่อยออกมาจริงๆ) แต่กว่าอัลบัมจะออกมาให้ฟังกันจริงๆ ก็ต้องรอกันอีกร่วมๆ ปี Madame X ถึงได้ฤกษ์ออกวางจำหน่าย
​ซึ่งชื่อชุดก็ชวนให้สงสัยว่า น่าจะเป็นนัยถึงอีกบทบาทหรืออีกแคแร็คเตอร์หนึ่ง ที่มาดอนนาตั้งใจจะนำเสนอในงานชุดนี้ ที่พอไล่เรียงจากข้อมูลที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่คิดไม่ผิด มาดามเอ็กซ์คืออีกหนึ่งบทบาทที่เธอสร้างขึ้น โดยเป็นสายลับที่เดินทางไปในที่ต่างๆ ทั่วโลก ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ นำแสงสว่างไปสู่ความมืด มีการปลอมแปลงตัว ซึ่งทำให้เธอต้องเป็นทั้ง แดนเซอร์, ศาสตราจารย์, แม่บ้าน, นักศึกษา, แม่, ครู, แม่ชี ฯลฯ
​ตัวเพลงมีบรรยากาศหรือโทนเฉพาะ ต่างไปจากอัลบัมก่อนๆ ของมาดอนนาไม่น้อย โดยเฉพาะกลิ่นดนตรีในแบบยุโรปใต้ที่ปกคลุมไปทั่ว ซึ่งก็น่าจะเป็นผลจากการที่เธอย้ายที่พำนักไปอยู่ลิสบอน, โปรตุเกส มาตั้งแต่ปี 2017 ทำให้ตัวเพลงมาพร้อมอารมณ์ดนตรีที่ทำให้นึกถึงหาดทราย และชายทะเล รวมไปถึงแสดงแดดที่เจิดจ้า พอบวกเข้ากับการวางธีมของอัลบัม ให้เป็นเรื่องราวของสายลับหญิง มาดามเอ็กซ์ Madame X ก็คืออัลบัมป็อปที่มาพร้อมกับคอนเส็ปท์ที่แข็งแรง หนักแน่น ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์, เนื้อหา และทางดนตรี
​แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในเรื่องของการเป็นงานป็อปที่โดนใจ เข้าถึงง่าย Madame X ดูจะขาดเพลงในแบบที่ฟังปุ๊บโดนใจปั้บ ส่วนใหญ่เหมือนมีกำแพงหรือม่านบางๆ ที่ขวางระหว่างคนฟังกับตัวงาน ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาสาหัสอะไร เพราะอย่างน้อยที่สุด Madame X ก็ยังคงเป็นงานป็อปที่ฟังได้ทั้งอัลบัมเปิดลากยาวได้ตั้งแต่ต้นจบจบ
​และต่อให้ไม่มีเพลงที่โดนใจแบบแกะซองกินได้เลย แต่ทุกเพลงก็ว่าได้ล้วนมาพร้อมกับเสน่ห์ในตัวเองที่น่าสนใจทางด้านดนตรี โดยยังไม่ต้องพูดถึงเนื้อร้อง เรื่องราวที่มาดอนนาต้องการจะสื่อ
​เพราะไม่ใช่แค่มีโทนแบบงานยุโรปใต้ สัมผัสถึงหาดทราย ชายทะเล และแสงแดดแล้ว ด้วยการเดินทางของมาดามเอ็กซ์ ยังทำให้มาดอนนาพาเพลงของเธอไปได้ไกลกว่าแค่โปรตุเกส, ฝรั่งเศส, สเปน หรืออิตาลี แต่พาไปถึงตะวันออกกลาง, แอฟริกา ที่รับรู้ได้จากลูกเล่นในการเรียบเรียงดนตรี การผสมซาวนด์ต่างๆ ที่ทำให้รู้สึก 'ว้าว!’ ได้ไม่ยาก อย่าง เสียงกลองแบบตะวันออกกลางใน "Extreme Occident”, จังหวะเร็กเกตันจาก "Bitch I’m Loca”
​บางเพลงก็รู้สึกถึงความสดใหม่ ในแบบที่ต่างไปจากมาดอนนาที่คุ้นเคย แต่ไม่หลุดไปจากซาวนด์โดยรวมของอัลบัม บางเพลงก็เป็นการผสมผสานมาดอนนาในแบบที่เรารู้จักดี เข้ากับเนื้อดนตรีใหม่ๆ เช่น ใน "Medeline” เพลงเปิดอัลบัมและซิงเกิลแรกของงานชุดนี้อย่างเป็นทางการ ที่งานทั้งสองส่วนผสมผสานกันได้อย่างลงตัวกลมกลืน
​หรือ "Dark Ballet” ที่ตัวเพลงถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ได้อย่างน่าสนใจ มีทั้งบรรยากาศในแบบที่รู้สึกได้จากหนังสายลับ ทั้งอิทธิพลจากงานดนตรีคลาสสิคัล ที่ใช้ในการแสดงบัลเลท์ ซึ่งทำให้เพลงมีมิติ มีความลึก และที่ถือว่าลงตัวที่สุด ทั้งในความเป็นป็อป ความซับซ้อน ความหวือหวาของดนตรีก็คือ "God Control” ที่เปิดมาด้วยอารมณ์ในเพลงของมาดอนนาอย่างที่คุ้นเคยกัน แล้วก็รับด้วยเสียงคอรัสแบบกลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ สานต่อด้วยกลุ่มของเครื่องสาย ก่อนที่ดนตรีดิสโกสนุกๆ จะพาอารมณ์ให้เตลิดไปไกลยิ่งขึ้น ฟังแล้วก็ทำให้นึกถึงภาพบนเวทีคอนเสิร์ทของมาดอนนาขึ้นมาทันที ว่าเพลงนี้จะสามารถสร้างการแสดงที่หวือหวา น่าตื่นตาได้มากน้อยขนาดไหน โดยที่ยังมีบรรดาเพลงสนุกๆ ทั้งหลาย ที่น่าจะทำให้โชว์ของเธอ ยังคงน่าติดตามและห้ามพลาด เหมือนที่เคยเป็น
​ขณะที่งานเพลงชุดนี้ ก็คือการแสดงให้เห็นว่า เพราะอะไร ทำไม แม้เวลาจะผ่านไปถึงกว่าสามทศวรรษนับตั้งแต่ขึ้นมายืนอยู่หัวแถวของวงการในปี 1984 ด้วยอัลบัม Like a Virgin วันนี้มาดอนนาก็ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เมื่อเจ๊แม่กลายร่างเป็นมาดามเอ็กซ์ ในงานชุดใหม่หมายเลข 14 ของมาดอนนา คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 12 กรกฎาคม 2562
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos
ฟังไปแล้ว - IN STEREO งานชุดแรกในรอบทศวรรษของเกิร์ลกรุป ระดับตำนานจากยุค 80 Bananarama กลับมาสมราคาไหม ต้องอ่าน >> https://www.blockdit.com/articles/5cd3239bc41f081ed42d6320
โฆษณา