รู้ไหมครับว่าไฟฟ้ามาจากไหน??
Photo by Jhonis Martins
ไฟฟ้าคือหนึ่งในเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก เพราะหลังจากมนุษย์มีไฟฟ้ามาเป็นแหล่งพลังงานแล้วโลกใบนี้ก็เกิดสิ่งประดิษฐ์มากมายที่ทำให้หน้าตาของโลกใบนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่เรารู้หรือไม่ว่าไฟฟ้ามาจากไหน
จากบันทึกของมนุษยชาติทำให้ย้อนกลับไปได้ถึงยุคกรีกโบราณที่สังเกตุเห็นว่าเมื่อนำวัตถุสีเหลืองแวววาวที่เรียกว่าอำพันถูกับขนสัตว์จะทำให้เกิดพลังงานบางอย่างขึ้นซึ่งมันสามารถดูดวัตถุขนาดเล็กและเบา เช่น กระดาษ เส้นผม มาติดอยู่ที่อำพันได้ สิ่งนั้นเรียกว่า ไฟฟ้าสถิต
วิลเลียม กิลเบิร์ต นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษผู้มุ่งมั่นทุ่มเทกับการค้นคว้าและทดลองเกี่ยวกับแม่เหล็กและไฟฟ้า ผลงานชิ้นแรกของเขาถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1600 มีชื่อว่า “De Magnete” และเค้าเป็นผู้บัญญัติคำใหม่ที่ใช้เรียกสิ่งที่เค้าค้นพบว่าไฟฟ้า (electric) มีที่มาจากคำในภาษาลาตินว่า ēlectrum ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกที่เรียกอำพันว่า ήλεκτρον (ēlektron : อิเล็กตรอน)
ค.ศ. 1747 เบนจามิน แฟรงคลิน นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ค้นพบไฟฟ้าในอากาศจากการทดลองนำว่าวที่มีกุญแจปล่อยขึ้นไปในอากาศขณะที่เกิดพายุฝน (ไม่รู้ว่าวที่ว่าหน้าตาแบบไหนทำมาจากวัสดุอะไรนะครับ ถ้าว่าวทั่วๆ ไปที่เราคุ้นเคยผมว่าไม่น่าจะขึ้นไปอยู่ในพายุได้ ตอนอาจารย์สอนก็ไม่เคยถาม)
ช่วงทศวรรษที่ 1790 อเล็กซานโดร โวลตา นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาเลียนพบว่าการนำเอาวัตถุต่างกันสองชนิด เช่น ทองแดงกับสังกะสีจุ่มในน้ำยาเคมี เช่น กรดซัลฟิวริก โลหะสองชนิดจะทำปฏิกิริยาทางเคมีกับน้ำยาเคมีทำให้เกิดไฟฟ้าขึ้นได้ เค้าเรียกสิ่งนี้ว่า โวลตาอิก เซลล์ (Voltaic Cell) ซึ่งมันคือบรรพบุรุษของแบตเตอรี่ครับ
ค.ศ. 1831 บุคคลผู้เป็นบิดาแห่งวิชาไฟฟ้า ไมเคิล ฟาราเดย์ ค้นพบไฟฟ้าที่เกิดจากอำนาจแม่เหล็กโดยนำขดลวดเคลื่อนที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็กทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นในขดลวด (ต้นกำเนิดของกฏมือขวาของเฟรมมิง) เป็นที่มาของสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าไดนาโมซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเครื่องปั่นไฟ (Generator) หลังจากนั้นเจมส์ คลาร์ก แมกซ์เวลล์ ก็นำเสนอทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า
และก็มาถึงผู้ทำให้ไฟฟ้าแพร่หลาย คู่ปรับสำคัญผู้มีความเชื่อในสองด้านที่ต่างกัน ครับพวกเค้าคือ โทมัส อัลวา เอดิสัน และ นิโคลา เทสลา หนึ่งบุรุษผู้เชื่อในไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนอีกหนึ่งเชื่อว่าไฟฟ้ากระแสสลับจะเปลี่ยนโลก เรื่องราวของพวกเค้าถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนต์เรื่อง “The Current War” ผมคงไม่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง ลองหาเวลาไปดูหนังเรื่องนี้ดูครับ
อย่างที่เห็นในปัจจุบันครับ ระบบสายส่งที่แพร่หลายทั่วโลกเป็นไฟฟ้ากระแสสลับหากแต่ว่าพอส่งเข้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในที่มีมากมายในปัจจุบัน ไฟฟ้ากระแสสลับจะถูกแปลงไปเป็นไฟฟ้ากระแสตรง ดังนั้นสิ่งที่ทั้งสองเชื่อมั่นยังคงอยู่และเดินทางขนานกันไปในโลกที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหุ้มล้อมเอาไว้ใบนี้
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
