21 ก.ค. 2019 เวลา 12:19 • ความคิดเห็น
บทกลอนอันแสนน่ารัก
วันนี้ผมเห็นเรื่องราวผ่านตาในหน้าแอปตัว f ที่เราคุ้นเคยผ่านตามาเรื่องหนึ่ง ซึ่งมาจากเพจที่ชื่อว่า
Facebook page : "Working Along"
ในเพจมีการเล่าถึงการประกวดกลอนเซ็นริว (กลอนสามบรรทัดคล้าย ไฮคุ) ซึ่งผู้เข้าร่วมคือเหล่าสมาชิกบ้านพักคนชราแห่งหนึ่ง ซึ่งเนื้อหากลอนที่เหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ส่งเข้าชิงนั้น ก็น่ารักเสียเหลือเกิน
ผมอยากขออนุญาติทางเพจ ยกบทกลอนบางบท ซึ่งทางเพจได้กรุณาถอดความมาเป็นภาษาไทยให้แล้ว ซึ่งต้องขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นคงอ่านไม่ออกเหมือนกัน 5555
ลองมาดูกันว่า ลีลาแต่ละท่านจะเป็นเช่นไรกันบ้าง แล้วเราได้อะไรจากบทกลอนเหล่านี้บ้าง
"ปากว่าสิ้นอาลัย
แต่แผ่นดินไหว
ดันเผ่นก่อนใคร"
บทนี้มีปนความขำเล็กๆ แต่ถ้าเขียนจากเรื่องจริง นั่นหมายความว่า แม้เราจะปลงหรือหมดอาลัยในชีวิตแค่ไหน ยามที่ความตายมาเยือนตรงหน้า ก็ไม่แปลกที่เราจะพรั่นพรึง ก็แค่ค่อยๆ ยอมรับมัน แล้วเราจะจากไปอย่างสงบได้แน่นอน แต่ก่อนไป เราคงต้องเตรียมพร้อมเสมอ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเราจะต้องอำลาโลกนี้ไปเมื่อไหร่
"คนชมว่า
เขียนอักษรมีพลัง
หารู้ไม่ว่ามือสั่น"
บทนี้น่ารัก จนต้องอมยิ้มยามเรานึกภาพ แต่ความจริงก็คือ เราทุกคนต้องร่วงโรยหมดแรงเข้าสักวัน วันนี้มีแรง ขอให้ทำทุกฝันเท่าที่จะมีแรง สู้โวย ทาเคชิ
"โตเกียวโอลิมปิก
จะดูที่ไหนดีหนา
บนฟ้าหรือบนดิน"
บทนี้ก็น่ารักอีกชิ้น เปรียบเปรยให้เราเข้าใจว่าชีวิตมันไม่จีรัง ยามที่เรามีโอกาส ขอให้ใช้ให้คุ้มค่า ไม่ได้มีสิ่งๆ ดีๆ เวียนมาให้เราเสมอทุก 4 ปีเมื่อไหร่กัน
"หวังอยากเที่ยวจร
เช้าไปเย็นกลับ
สวรรค์สุขาวดี"
บทนี้ออกไปทางลึกซึ้ง อาจดูตลก แต่ความจริงคือ เราคงยังทำใจยากนักกับความตาย อยากลองเพียงชั่วคราว แล้วกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมจะได้ไหม ซึ่งเราทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ได้ ดังนั้นทุกคนยังมีลมหายใจ ซึ่งมีโอกาสดีกว่าอีกหลายชีวิตที่ต้องนับถอยหลังอีกมากมายเลยทีเดียว ใช้ซะ!
"นอนกรนไม่ว่า
ถ้าเงียบฉี่ไป
นั่นสิเริ่มเครียด"
น่ารักในอารมณ์ขัน แต่ในทางกลับกัน คือในวันที่คนข้างๆ ยังอยู่ดี เราอาจไม่ได้ใส่ใจเขามากพอ หรือออกจะรำคาญในสิ่งที่พวกเขาเป็น ในสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ในวันที่ทุกอย่างเงียบงัน เมื่อนั้นคุณจะคิดถึงแม้แต่สิ่งที่แย่ที่สุดของเขา ก็เป็นได้
"เสป็คของฉัน
ชอบคนอายุมากกว่า
แต่ไม่เหลือแล้วจ้า"
อันนี้น่ารักจริงๆ แค่จะบอกทุกคนว่า บางที่สิ่งที่เราอยากได้ อยากทำ วัยก็เป็นอุปสรรค ดังนั้นทำเสียแต่วันนี้ ก่อนที่จะไม่เวลาเหลือ บอกรักเขาไป ไม่ยากหรอกน่า
"เดินหมื่นก้าว
มากกว่าครึ่ง
คือหาของ"
อันนี้ก็ดูน่ารักและขบขัน แต่ลุงๆ ป้าๆ กำลังจะบอกเราว่า ในวันที่ล่วงเลยมาไกล เราอาจพบว่ากำลังใช้เวลาทั้งชีวิตสูญเปล่าอย่างไม่น่าให้อภัย ลองทบทวน ตั้งสติ เราอาจไม่ต้องใช้ทุกก้าวของชีวิตในการตามหา แต่ใช้มันเพื่อถนอมสิ่งที่มีค่าในมือต่างหาก คือสิ่งที่อาจจะเหมาะกับเรามากกว่า
"สามีหัวเราะว่า
เธอแต่งหน้าหนา
แต่แกก็ผมบางนะ"
อันนี้น่ารักอีกแล้ว ตรงไปตรงมา แม้ว่าจะล่วงเลยเท่าไร ภาพความรักแท้ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปตามกายภาพเลยแม้แต่น้อย
"ใจเต้นใจสั่น
เอ๊ะหรือว่ามีความรัก
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะครับ"
บทสุดท้าย เล่นมุขเอาเสียต้องยิ้ม และบอกเป็นนัยกับเราว่า แม้เราจะอยู่ในสภาพใด วัยใด แก่หรือหนุ่ม เราก็รักได้ มอบสิ่งดีๆ ให้กันได้ แม้เพียงรอยยิ้ม ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว
บทสรุป : ที่คิดวิเคราะห์ ก็เพียงความเห็นส่วนตัว เพราะผมเป็นคนคิดเยอะ มักคิดว่าขณะที่เรากำลังเขียนอะไรบางอย่าง มันมีความหมายหรือนัยยะอะไรซ่อนอยู่ในจิตใจของเราอีกหรือไม ทำไมเราจึงเลือกเขียนสิ่งนั้น เลือกคำเหล่านั้น
ผมเชื่อว่า ส่วนลึกในจิตใจของเราก็มีส่วนในการแสดงออกเหล่านี้จริงๆ
แต่เอาจริงๆ ผมก็คิดว่า คุณตา คุณยาย ทุกคน ก็คงเขียนน่ารักๆ แบบสนุกและสร้างรอยยิ้มกันเท่านั้นเอง
ผมก็แค่คิดเยอะ ก็แค่นั้น จริงๆ นะ
Credit : เพจ Working Along

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา