26 ก.ค. 2019 เวลา 00:08 • ประวัติศาสตร์
Nebelwerfer เครื่องสร้างหมอกมฤตยูแห่งความตาย ตอนที่2 กำเนิดจากปืนครก
Nebelwerfer 35
รุ่นแรกของเครื่องยิงตระกูลนี้คือ nebelwerfer 35 เป็นปืนครกขนาด 10ซม. พัฒนาต่อยอดมาจากปืนครก GrW 34 ขนาด 8ซม. เพิ่มระยะยิงไกลขึ้นจาก 2.4กม. เป็น 3กม. จุดประสงค์การพัฒนาปืนครกรุ่นนี้คือ เพื่อยิงก๊าซพิษและสร้างม่านควัน ด้วยความที่ลำกล้องมันใหญ่ จึงสร้างกลุ่มควันได้ปริมาณมากเลยทีเดียว
ก๊าซพิษที่ใช้ในสงครามเป็นก๊าซคลอรีนซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อ ทำให้มีอาการแสบตา จมูก ปาก ผิวหนัง น้ำมูกน้ำตาไหล คลื่นไส้อาเจียน แน่นหน้าอกหายใจลำบาก จนกระทั่งเกิดภาวะน้ำท่วมปอดตายอย่างทรมาน
ก๊าซคลอรีน มีสีเขียวอมเหลือง
ก๊าซอีกตัวที่นิยมใช้ในสงครามก็คือก๊าซมัสตาร์ดซึ่งเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหารและระบบหายใจ ทำให้ผู้ที่สูดมันเข้าไปมีอาการหายใจติดขัด หอบจนระบบหายใจล้มเหลวและตายอย่างทรมานเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอาการผิวหนังพุพองจากการกัดกร่อนอีกด้วย
ก๊าซมัสตาร์ดมีสีเหลือง จึงเป็นที่มาของชื่อมัน
อานุภาพที่เพิ่มมากขึ้นก็ต้องแลกกับความคล่องตัวที่ลดลง nebelwerfer 35 มีน้ำหนักมากถึง 105กก. ยากต่อการเคลื่อนย้าย ต้องใช้พลประจำเครื่องยิงถึงเจ็ดคน
ปัจจัยด้านความใหญ่โตของเครื่องยิงยังส่งผลให้อัตราการยิงลดลง น้ำหนักของลูกระเบิดที่มากถึง 7.38กก. มากกว่าระเบิดขนาด 8ซม.ถึงสองเท่ากับอีกครึ่งโล ทำให้พลยิงใช้แรงและเวลามากขึ้นในการแบกลูกไปหยอดยิง อัตราการยิงจึงลดลงเหลือเพียง 10-15นัดต่อนาที
นับว่ายังดีที่มันสามารถหมุนไปรอบข้างได้ 28° มากกว่า GrW 34 เล็กน้อยแต่ก็ส่งผลอย่างมากในการยิงระยะไกล
ด้วยความคล่องตัวที่ต่ำจึงนำไปสู่การพัฒนาเครื่องยิงลูกระเบิดรุ่นต่อไป
ทหารเยอรมันกำลังใช้ nebelwerfer 35 ยิงลูกระเบิด
โฆษณา