27 ก.ค. 2019 เวลา 07:52 • ประวัติศาสตร์
🌟📱🔍ประวัติศาสตร์แห่ง Android OS หุ่นกระป๋องเขียวยอดนิยมของคนทั่วโลก เจาะลึกเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดช่วง 10 กว่าปี ที่ผ่านมาและจุดเด่นในแต่ละเวอร์ชัน
🌟📱ในเดือนตุลาคม ปี 2003 มีคนกลุ่มหนึ่งได้จัดตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า Android Inc. ซึ่ง ณ ขณะนั้น ยังไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัทนี้จะก้าวไปอยู่ภายใต้ปีกของ Google และกลายเป็นชื่อที่คุ้นหูของทุกๆ คนบนโลกใบนี้ โดยบริษัทดังกล่าวจัดตั้งโดย Rich Miner, Nick Sears, Chris White และ Andy Rubin โดยผู้ก่อตั้งรายหลังสุดเคยกล่าวเอาไว้ตอนเปิดบริษัทว่า Android Inc. จะมุ่งมั่นพัฒนา "มือถือที่มีความฉลาดมากขึ้น รู้จักความชื่นชอบของผู้ใช้ และรู้ตำแหน่งที่ตั้ง ณ จุดๆ นั้นด้วย"
4 ผู้ก่อตั้ง Android Inc.
🌟📱ในปี 2005บริษัท Android Inc. ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือก็ไปเตะตายักษ์ใหญ่อย่าง Google จนส่งผลให้ Google เข้าซื้อบริษัท Android Inc. ทันที โดยให้ทีมงานทุกคนยังคงพัฒนาระบบปฏิบัติการนี้ต่อไปเช่นเดิม แต่มีการตัดสินใจร่วมกันว่า Android OS จะเป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิดที่ให้ใครนำไปใช้ก็ได้ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเจ้าหุ่นกระป๋องเขียวที่กลายมาเป็นระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
🌟📱เดือนกันยายน ปี 2008 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android Os ก็ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในชื่อ HTC Dream ที่มาพร้อมบริการจาก Google เช่น Google Maps, YouTube, HTML Browser (พัฒนาเป็น Google Chrome ในเวลาต่อมา) ที่ใช้ระบบ Search Engine ของ Google และที่สำคัญก็คือ ระบบ Android Market เวอร์ชันแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Play Store ศูนย์รวมแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ในปัจจุบัน
Google เข้าซื้อบริษัท Android Inc.
🌟โลโก้หุ่นกระป๋องตัวเขียวมาจากไหน และ เรื่องราวของโลโก้แต่ละตัว
1
🌟💡สิ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหล่าสาวกแอนดรอยด์ทุกคนก็คือ โลโก้หุ่นเขียว ที่เป็นการผสมผสานดีไซน์ระหว่างหุ่นยนต์ และแมลง โดยโลโก้นี้เป็นผลงานการออกแบบของ Irina Blok ที่เคยถูกว่าจ้างโดย Google
ซึ่ง Irina Blok เคยเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ในปี 2013 ว่า บรีฟที่ทาง Google ส่งมาสำหรับการออกแบบโลโก้ใหม่นั้น ระบุสั้นๆ เพียงว่า "ทำให้มันเหมือนหุ่นยนต์" และเธอก็ยังเปิดเผยอีกว่า ต้นฉบับแบบ Final Design นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ห้องน้ำรูปคนเพศชาย/หญิงนั่นเอง
Irina Blok ผู้ออกแบบโลโก้ Android
นอกจากนี้ Irina Blok และ Google ได้ตัดสินใจร่วมกันว่า พวกเขาอยากทำให้ Android OS เป็นระบบเปิด ดังนั้น โลโก้ Android ที่เป็นหุ่นยนต์ตัวเขียวนี้สามารถเปิดให้ผู้ใช้ หรือใครก็ตามนำเอาไปตกแต่งเพิ่มเติม หรือตัดต่ออย่างไรก็ได้ ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ที่มักจะสงวนลิขสิทธิ์สัญลักษณ์, โลโก้ หรือมาสคอตประจำบริษัทไว้
🌟เวอร์ชั่นแรก Android 1.5 Cupcake
Android 1.5 Cupcake
ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชันแรกที่มีการตั้งชื่อเล่นต่อท้าย โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่เล็กๆ น้อยๆ อย่างการอัปโหลดวิดีโอลง YouTube, การหมุนหน้าจอให้ตรง และรองรับการใช้คีย์บอร์ดแบบ Third-Party ซึ่งสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่มาพร้อมกับ Android 1.5 Cupcake ก็มีอยู่บ้าง เช่น Samsung Galaxy รุ่นแรก หรือ HTC Hero
1
🌟Android 1.6 Donut
Android 1.6 Donut
หลังจากเปิดตัว Android 1.5 Cupcake ได้ไม่นาน ทาง Google ก็ได้เปิดตัว Android 1.6 Donut ออกมาต่อเนื่องหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน โดย Android Donut มาพร้อมกับการรองรับการใช้งานสัญญาณแบบ CDMA ทำให้ มือถือ Android จะสามารถใช้งานได้ทั่วโลก, การสลับกล้องถ่ายภาพ หรือการจัดการ Power Control, Wi-Fi, Bluetooth หรือ GPS เป็นต้น
🌟Android 2.0-2.1 Eclair
Android 2.0-2.1 Eclair
หลังที่ Google เปิดตัว Android 1.0 มาได้เกือบ 1 ปี ในปี 2009 Google ก็ได้เปิดตัว Android 2.0 Eclair อย่างเป็นทางการ โดย Android 2.0 Eclair เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันแรกที่มีฟีเจอร์ "Text-to-Speech" หรือการอ่านข้อความเป็นเสียง, ภาพพื้นหลังแบบ Live Wallpaper, รองรับการใช้งานหลายบัญชี และระบบนำทางด้วย Google Maps รวมไปถึงการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานด้านต่างๆ ด้วย ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้งาน Android 2.0 Eclair ตั้งแต่แกะกล่องก็คือ Motorola Droid
🌟Android 2.2 Froyo
Android 2.2 Froyo
ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 Froyo (ย่อมาจาก Frozen Yogurt) เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ปี 2010 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Wi-Fi Hotspot, ระบบการแจ้งเตือนผ่านทาง Android Cloud to Device Messaging (C2DM), รองรับการใช้งานโปรแกรม Flash Player ฯลฯ โดยสมาร์ทโฟนในตระกูล Nexus ก็เปิดตัวในช่วงต้นปี 2010 ด้วยเช่นกัน แต่มาพร้อมกับ Android 2.1 และเมื่อ Google เปิดตัว Android 2.2 สมาร์ทโฟน Nexus One ก็ได้รับอัปเดตในช่วงปลายปีทันที
🌟Android 2.3 Gingerbread
Android 2.3 Gingerbread
Android 2.3 Gingerbread เปิดตัวในเดือนกันยายน ปี 2010 โดยมาพร้อมกับการปรับ UI แบบใหม่ พร้อมทั้งเพิ่มการเชื่อมต่อ NFC เข้าไปด้วย ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้งาน Android 2.3 พร้อมระบบ NFC ก็คือ Nexus S ที่ Google จับมือพัฒนาร่วมกับ Samsung
🌟Android 3.0 Honeycomb
Android 3.0 Honeycomb
ระบบปฏิบัติการ Android 3.0 ออกจะเป็นเวอร์ชันที่ค่อนข้างแปลกอยู่สักเล็กน้อย เพราะ Google พัฒนา Android 3.0 ขึ้นมาเพื่อใช้งานกับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ซึ่ง Android 3.0 เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 แต่ยุทธศาสตร์ที่ Google วางไว้ว่าจะให้ผู้ผลิตแท็บเล็ตหันมาใช้ Android 3.0 เพื่อสู้กับ iPad ของ Apple ที่เปิดตัวมาก่อนหน้าในปี 2010 ก็ต้องล้มไป เพราะบรรดาผู้ผลิตยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชันก่อนหน้าเหมือนเดิม ทำให้ Android 3.0 ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก และ Google จึงต้องยกฟีเจอร์บางอย่างใน Android 3.0 ไปใส่ใน Android 4.0 เวอร์ชันต่อไปด้วย
🌟Android 4.0 Ice Cream Sandwich
Android 4.0 Ice Cream Sandwich
Android 4.0 เปิดตัวในเดือนตุลาคม ปี 2011 และเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันหนึ่งที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่างมากมายทีเดียว เพราะ Google ได้ยกฟีเจอร์บางอย่างใน Android 3.0 มาใส่ในเวอร์ชันนี้ด้วย เช่น Favorites Tray หรือแถบวางแอปพลิเคชันด้านล่างที่มักเป็นแอปพลิเคชันที่เราใช้กันบ่อยๆ และเป็น Android เวอร์ชันแรกที่รองรับการปลดล็อกสมาร์ทโฟนด้วยการถ่ายภาพใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการนำระบบ Biometric เข้ามาใช้งานในส่วนการรักษาความปลอดภัย และเริ่มพัฒนาให้ดีขึ้นนับจากนั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ Android 4.0 ยังมาพร้อมกับ การใช้งานปุ่มกด On-Screen, การปัดเพื่อปิดการแจ้งเตือน และการแสดงข้อมูล Data ที่ใช้ไปจาก Mobile Data และ Wi-Fi
🌟Android 4.1-4.3 Jelly Bean
Android 4.1-4.3 Jelly Bean
Android 4.x Jelly Bean เป็นแอนดรอย์ซีรีส์หนึ่งที่ใช้ Jelly Bean ติดต่อกัน โดย Android 4.1 เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2012 แล้วตามด้วยเวอร์ชัน 4.2 ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน และเวอร์ชัน 4.3 ในเดือนกรกฎาคม 2013 สำหรับฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันนี้มีหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนแบบใหม่ที่แสดงคอนเทนท์มากขึ้น, รองรับการใช้งานร่วมกับ Google Chrome เต็มรูปแบบ, Google Now ถูกพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก และใช้งานร่วมกับระบบ Search, Project Butter ที่พัฒนาความเร็วของ Animation ต่างๆ ที่แสดงผลบนหน้าจอ และระบบสัมผัสที่แม่นยำมากขึ้น, การเชื่อมต่อมือถือกับหน้าจอแยก และรองรับการถ่ายภาพแบบ HDR
🌟Android 4.4 KitKat
Android 4.4 KitKat
Android 4.4 เปิดตัวในเดือนกันยายน 2013 ซึ่งเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันแรกที่ใช้ชื่อขนมหวานที่มีลิขสิทธิ์ นั่นก็คือ KitKat ขนมหวานแบบช็อกโกแลตแท่งที่ผลิตโดย Nestle ซึ่งในตอนแรก Google เผยคำใบ้ว่า Android 4.4 จะใช้ชื่อว่า Key Lime Pie ซึ่งทีมงานทั้งหมดก็คิดว่า Android 4.4 จะใช้ชื่อนั้น แต่ John Lagerling ผู้บริหารที่ดูแลส่วนของ Google Partnership มีความคิดว่าชื่อ Key Lime Pie ดูธรรมดาเกินไป เขาเลยตัดสินใจติดต่อกับ Nestle เพื่อขอยืมชื่อ KitKat มาใช้งาน และสุดท้าย Android 4.4 ก็ได้ใช้ชื่อ KitKat จริงๆ
จุดเด่นของ Android 4.4 ไม่ได้อยู่ที่ฟีเจอร์ เพราะครั้งนี้ Google ไม่ได้ใส่ฟีเจอร์เข้ามามากนัก แต่เน้นการปรับแต่งระบบให้สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มี RAM เพียง 512MB ซึ่งก็นับเป็นความคิดที่ดี เพราะ Android OS สามารถขยายตลาดให้ครอบคลุมผู้ใช้ได้ทุกช่วงระดับ และมีฐานลูกค้าที่ใหญ่มากทีเดียว
🌟Android 5.0 Lollipop
Android 5.0 Lollipop
Android 5.0 เปิดตัวในปี 2014 ซึ่งมาพร้อมกับการรีดีไซน์ UI แบบใหม่ทั้งหมดเป็นแบบ Material Design, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, HD Voice Call และระบบป้องกัน Device Protection โดยสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้งานคือ Nexus 6
🌟Android 6.0 Marshmallow
Android 6.0 Marshmallow
Android 6.0 เปิดตัวในปี 2015 โดยมาพร้อมกับ App Drawer แบบปัดขึ้นลง (ก่อนหน้านี้เป็นแบบปัดซ้ายขวา), ฟีเจอร์ Google Now on Tap, ทำให้ฟีเจอร์การใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อกเป็นฟีเจอร์มาตรฐานที่ต้องมี, รองรับ USB-C และเริ่มต้นใช้งาน Android Pay ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้งานก็คือ Nexus 6P และ Nexus 5X
🌟Android 7.0 Nougat
Android 7.0 Nougat
Android 7.0 เปิดตัวในปี 2016 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง ทั้งระบบ Multitasking ที่รองรับการใช้งานได้หลายแอปพลิเคชันมากขึ้น, เพิ่มความเร็วในการประมวลผลแอปพลิเคชัน, รองรับการประมวลผลกราฟิกด้วย Vulkan API และเปิดให้บรรดา OEM พัฒนาฟีเจอร์ DayDream Virtual Reality ของ Google เข้าไปด้วย ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่ได้ใช้งานก็คือ Google Pixel, Google Pixel XL และ LG V20
🌟Android 8.0 Oreo
Android 8.0 Oreo
Android 8.0 เป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันที่สองที่ใช้ชื่อเรียกแบบติดลิขสิทธิ์ (Oreo เป็นเจ้าของโดยบริษัท Nabisco) และเป็นครั้งแรกที่ Google เลือกเปิดตัวรูปปั้นมาสค็อตของ Android Oreo ที่ New York City จากเดิมที่ปกติจะเปิดตัวใน Googleplex HQ เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ รูปแบบไอคอนในเมนู Settings ที่เปลี่ยนไป, รองรับฟีเจอร์ Pictue-in-Picture, แถบแจ้งเตือนแบบใหม่ หรือระบบ Autofill ที่ปลอดภัย และใช้งานได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้งานก็คือ Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL และสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้
🌟Android P
Android P
Android P เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันนี้เปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 นี้ โดย Google ก็ได้เปิดให้นักพัฒนาได้ทดสอบใช้งานกันในเบื้องต้นแล้ว โดยคาดว่า Android P อาจจะมาพร้อมกับ การรองรับไฟล์วิดีโอแบบ HDR และ HEIF, ระบบนำทางภายในตึก, ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น
💫เวอร์ชั่นล่าสุด Android 9.0 PIE ปี 2019
เวอร์ชั่นล่าสุด Android 9.0 PIE ปี 2019
Google ประกาศเปิดตัว Android 9.0 อย่างเป็นทางการพร้อมกับชื่อเรียกว่า Pie สั้นๆซึ่งรุ่นนี้จะเป็นการดึงใช้ AI มาใช้ในระบบภายในมากยิ่งขึ้นเรียนรู้เจ้าของได้มากยิ่งขึ้น และ ใครใช้ Google Pixel / Essential Phone พร้อมอัพเดทได้
ชื่อของ Android ซึ่งใน 9.0 นั้นก็เป็นชื่อ พาย Pie นั้นเอง
สำหรับตัว Android 9.0 นี้อาจจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนหน้าตาอะไรมากนักแต่เน้นไปที่การใช้ AI Machine Learning มาช่วยในการทำงานมากยิ่งขึ้นไปอีก และมีฟีเจอร์หลายๆอย่างออกมา จริงๆแล้วฟีเจอร์ยังมีอีกมากมายทั้ง การรองรับสแกนลายนิ้วมือ สแกนหน้าให้เป็นมาตรฐาน / มีกรรองรับติ่งหลายรูปแบบ / การปรับอักษรให้ใหญ่เวลาลากเลือกคำและอีกมากมาย
Reference
โฆษณา